วิชญธรรม
ผศ. ดร. สิริวิชญ์ เตชะเจษฎารังษี

บทสวด โอวาทปาติโมกข์คาถา


ไม่ต้องเขียนบันทึกนี้มากมาย พี่ณัฐรดาเขียนให้แล้ว ......555

ส่องบาทพระคาถา ขนฺตี ปรมํ ตโป ตีติกฺขา แห่งโอวาทปาฏิโมกข์

แล้วผมก็เขียนตอบอย่างยึดยาว    ว่า.... 

พี่ณัฐรดาเขียนบันทึกนี้ได้ตรงใจมาก ผมกำลังเริ่มสวดบทโอวาทปาฏิโมกข์นี้ทุกเช้า (จะได้จำได้โดยไม่ต้องท่อง :):))

เรื่องแปลก....ช่วงนี้ส่วนใหญผมจะไปนั่งสมาธิที่วัด "ในเมือง" แทนการไปทำวัตรเย็นที่วัด "B"  เพราะช่วงนี้ผมรู้สึกว่าต้องการทำใจให้ "สงบ" ครับ 

แต่มีอยู่วันหนึ่งหลวงปู่ บอกมาลอยๆ ขณะเรานั่งสมาธิ โดยไม่ได้ระบุถึงใครว่า "คนที่มาปฏิบัติอยู่แล้ว ก็ปฏิบัติที่บ้านได้ คนมาใหม่จะได้มีที่....." (อะไรทำนองนี้) 

เพราะระยะหลังๆมานี้ คนมานั่งสมาธิที่กุฏิมากขึ้น ทำให้บางวันที่เกือบไม่พอนั่ง และเวลาคนเข้ามา ก็ไม่พร้อมกันเป็นเวลา เป็นที่มาของการรบกวน คนที่กำลังสมาธิอยู่ บางวัน "ผู้คุมกฎ" ของวัดถึงกับต้องเอ่ยปากว่า เช่น ไม่ควรเอาโทรศัพท์ หรือรับโทรศัพท์ หรือถ้าป่วยอยู่ ไอ ก็ไม่ควรมา ฯลฯ

ทำให้ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาผมเริ่ม มาปฏิบัติเองที่ห้องบ้าง ไปวัดบ้าง วันพระที่แล้วผมก็เลยได้ไปวัด B 

หลวงพี่ก็พาสวดบท โอวาทปาฏิโมกข์ ปกติผมก็สวดไปไม่ได้เข้าใจอะไรมากมาย

พอมาอ่าน "กุญแจภาวนา" หลวงพ่อชา ท่านกล่าวถึง

สพฺพปาปสฺส อกรณํ    กุสลสฺสูปสมฺปทา

สจิตฺตปริโยทปนํ    เอตํ พุทฺธานสาสนํ.  

ผมนึกในใจว่าทำไมถึงคุ้นจัง......  ก็เลยมาเปิดดูบทสวดมนต์ นั้นไง  บทโอวาทปาฏิโมกข์ ที่สวดประจำนี้เอง....

ผมเองไม่รู้ว่า ความหมายบทนี้นั้น จะสื่อถึงอะไรกันแน่  มาเข้าใจมากก็ตอนนี้เอง

มาประกอบกับที่พี่มาขยายความต่อ.......  โอ้โห้ แจ่มแจ้ง....

ขอบคุณครับ.....:):)

แถมครับ (สำหรับ 101 และสหายทุกท่าน)

หลักธรรม 3 ประการที่ถือเป็น หัวใจของพุทธศาสนา คือ

สัพพะปาปัสสะ อะกะระณัง การไม่ทำบาปทั้งปวง

กุสะลัสสูปะสัมปะทา การทำกุศลให้ถึงพร้อม

สะจิตตะปะริโยทะปะนัง การชำระจิตของตนให้ขาวรอบ

เอตัง พุทธานะสาสะนัง ธรรม ๓ อย่างนี้ เป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย.

เรียกว่า โอวาทปาติโมกข์ (หรือ โอวาทปาฏิโมกข์) โดย พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรม โอวาทปาติโมกข์ ณ เวฬุวันมหาวิหาร กรุงราชคฤห์ ซึ่งเป็นวันที่เกิด จาตุรงคสันนิบาต คือการประชุมอันประกอบด้วยองค์ ๔ นั่นคือ
๑. พระสงฆ์ ๑๒๕๐ รูปมาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย
๒. พระสงฆ์เหล่านั้นล้วนแล้วแต่เป็นพระอรหันต์ทั้งสิ้น
๓. พระสงฆ์เหล่านั้นเป็นพระสงฆ์ที่ได้รับ เอหิภิกขุอุปสัมปทา (พระพุทธเจ้าบวชให้)
๔. ตรงกับวันเพ็ญ เดือนมาฆะ (เดือน ๓) ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมเทศนา โอวาทปาติโมกข์ ดังนี้มาจาก http://dhamma.vayoclub.com/index.php?topic=436.0

****************************************************************************************************
มาบันทึกเหตุการณ์ ตอนที่ผม ไปนั่งสมาธิที่วัด "ในเมือง"
ผมไปตั้งแต่ 1 ทุ่ม นั่งถึง 3 ทุ่ม  (พยายามทำอยู่) แต่วันหนึ่งผมไปเป็นถึงคนแรกเลย 
หลวงปู่ก็ทักว่า " เรามันลำบากอยู่ ไม่ต้องมาเร็วก็ได้ ...... เราลำบาก กว่าจะได้คน....." แล้วหลวงปู่ก็หยุดพูดไป
ตอนนั้นผมได้เริ่มนั่งสมาธิแล้ว  นึกในใจหลวงปู่หมายถึงอะไร 555  (ผมกลับมาถามพี่... พี่ก็บอกว่า แล้วทำไมไม่ถามหลวงปู่ให้รู้เรื่อง......อ้าว....!!! ซะงั่น 555) 
คืนเดียวกันนั้นแหละ ตอนคนเริ่มทยอยมานั่งสมาธิแล้ว หลวงปู่ก็เลยกล่าวต่อดังผมอ้างถึงข้างบน.....
แต่มีอยู่วันหนึ่งหลวงปู่ บอกมาลอยๆ ขณะเรานั่งสมาธิ โดยไม่ได้ระบุถึงใครว่า "คนที่มาปฏิบัติอยู่แล้ว ก็ปฏิบัติที่บ้านได้ คนมาใหม่จะได้มีที่....." (อะไรทำนองนี้) 
เป็นที่มา......ว่าช่วงนี้ผม  ไป-มา ไร้สำนักอยู่ตอนนี้.....555

(พระจันทร์ยามรุ่งเช้าวันสิ้นปี 2555 ที่วัด P)



<p></p>

หมายเลขบันทึก: 518350เขียนเมื่อ 3 กุมภาพันธ์ 2013 22:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 ตุลาคม 2013 15:27 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

สาธุ ... แหม!  มาทีมีธรรมะมาฝาก   ขอบคุณอย่างแรง   แต่ บท อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา แบบไม่ต้องมาบ่อยก็ได้  มันตอกย้ำ  คิดแล้ว ช้ำใจอย่างแรง  5555

คำถามครับ???  (จากหลวงพ่อ)

สมัยก่อน smart phone ยังไม่เกิด

"พระสงฆ์ ๑๒๕๐ รูปมาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย"

อันนี้่ท่านใช้เทคโนโลยีสื่อสารอะไรครับ.....???  5555 จะไฮเทคกว่า iPhone หรือไม่หนอ????   :):)


ตอบ ใช้ รัก กับ ยม 

บ๊ายบ่าย  ราตรีสวัสดิ์ ( แบบตอบไม่ได้ รีบไปก่อนล่ะคร้าบ  นอนสมาธิ 555 )

สวัสดีค่ะอาจารย์

ขอบคุณค่ะที่แวะไปเยี่ยมกัน

มีการสันนิษฐานกันว่า เหตุที่ภิกษุ 1,250 รูปมาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย เคยบันทึกไว้ที่

เหตุการณ์สำคัญในวันมาฆะบูชาhttp://www.gotoknow.org/posts/340549 ค่ะ

อาจารย์คงปฏิบัติจนคล่องแคล่วแล้ว เชื่อว่าอาจารย์ปฏิบัติอยู่ที่บ้านก็ได้ค่ะ

อนุโมทนากับการศึกษาของอาจารย์ด้วย

hey!! พบ. 101 คิดได้ไง....ใช้ รัก กับ ยม   !!!

ขอบคุณครับพี่ ณัฐรดา ที่กรุณาช่วยเติมเต็มข้อมูลความรู้  :):)

ผมกำลังคิดว่ากลับไปนั่งที่วัดจะดีกว่า เพราะถ้าไม่บังคับกติกา ก็พาลหาเหตุจะละเลยการนั่ง......อิอิ!!


* การสวดมนต์มีอานิสงส์สูงแห่งพลังธรรมปฎิบัติ..สถานที่อันเป็นสัปปายะไม่จำกัดแต่ในวัดเท่านั้น แต่คนนิยมไปวัดเพราะได้พบครูบาอาจารย์นำทาง..ได้หลักปฎิบัติแล้วมาฝึกต่อเองได้ค่ะ..

* ยินดีด้วยค่ะสำหรับสาระธรรมจากน้องณัฐรดา..

สมัยก่อน พอได้ออกจากบ้านไปทำงานหรือไปธุระ ก็มักจะแวะไปกราบพระในโบสถ์ หรือ วิหาร

ตอนนี้ ใช้เวลาส่วนมากที่บ้าน ใช้บริการฟังสวดมนต์จากเว็บ มีเวลาเป็นส่วนตัวมากขึ้น

เลิกสะสมหนังสือธรรม เพราะปลดภาระในการดูแล  สมัยใหม่นี้ อาจไม่ต้องอ่านมาก หรือหาอ่านได้จากอินเทอร์เน็ต ทันสมัยและง่ายดาย ใช้ใจปลดภาระให้ร่างกาย


พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท