.
.
ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ (low blood sugar / hypoglycemia) อาจทำให้เกิดอาการสับสน ใจสั่น เหงื่อแตก หมดแรง หงุดหงิดง่าย ตอบสนองต่อสิ่งเร้าช้า ตัดสินใจช้า การมองเห็นตกลง การเคลื่อนไหว เช่น เหยียบเบรค-คันเร่ง ฯลฯ ช้าลง... ไปจนกระทั่งหมดสติได้
ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำอาจกระตุ้นอาการลมชักในคนที่เป็นโรคอยู่ก่อนได้ เช่น คนที่กินเนื้อหมูดิบ-วัวดิบ ติดพยาธิตัวตืด อาจเป็นโรคพยาธิขึ้นสมอง ชักได้ ฯลฯ
.
การศึกษาที่ผ่านมาพบว่า คนขับรถที่เป็นเบาหวานเพิ่มเสี่ยงอุบัติเหตุจราจร 12-19% เมื่อเทียบกับคนที่ไม่เป็นเบาหวาน
.
การศึกษาหนึ่ง (ตีพิมพ์ใน J Diabetes, Obesity and Metabolism) ทำในกลุ่มตัวอย่างคนไข้เบาหวานชนิดที่ 2 หรือเบาหวานที่พบในผู้ใหญ่-เด็กอ้วน ส่วนใหญ่ใช้ยากิน ไม่ต้องฉีดอินซูลิน อายุน้อยกว่า 65 ปี
.
ผลการศึกษาพบว่า คนไข้เบาหวานที่มีประวัติน้ำตาลในเลือดต่ำจนต้องรักษาในโรงพยาบาลมาก่อนเสี่ยงอุบัติเหตุมากกว่าคนไข้ที่ไม่มีประวัติน้ำตาลในเลือดต่ำ 40%
.
.
คนไข้เบาหวานที่เสี่ยงภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำมากเป็นพิเศษได้แก่
.
(1). คนไข้ที่มีประวัติน้ำตาลในเลือดต่ำจนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลมาก่อน
.
กลไกที่เป็นไปได้ คือ ภาวะน้ำตาลที่ต่ำมากๆ จะทำให้สมองบางส่วนเสื่อมเร็วขึ้น ตรวจสอบภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำครั้งต่อๆ ไปได้น้อยลง
.
(2). คนไข้ที่กินอาหารไม่ตรงเวลา หรือกินไม่สม่ำเสมอ เช่น ไปงานเลี้ยง บางมื้อกินมาก บางมื้อกินน้อยหรือไม่กินอะไรเลย ฯลฯ
.
(3). คนไข้ที่ออกแรง-ออกกำลังไม่สม่ำเสมอ เช่น บางวันอยู่เฉยๆ บางวันออกกำลังหนัก ฯลฯ
.
(4). คนไข้ที่กินยาไม่สม่ำเสมอ เช่น มื้อนี้กิน มื้อโน้นลืม ฯลฯ
.
(5). คนไข้ที่ไม่เลิกเหล้า
.
เหล้าเพิ่มเสี่ยงไขมันไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง อ้วนลงพุง ไขมันเกาะตับ ตับอักเสบ และน้ำตาลในเลือดต่ำ
.
กับแกล้มที่กินพร้อมเหล้าอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงมากได้
.
.
คนที่ไม่เป็นเบาหวาน แต่ไม่ได้กินข้าว ออกแรง-ออกกำลัง หรือดื่มหนักก็อาจมีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ และเพิ่มเสี่ยงอุบัติเหตุรถชนได้เช่นกัน
.