จากบันทึกครั้งหนึ่งชีวิต ทางสำนักระบาดเชิญให้เป็นวิทยากรเล่าเรื่องราวประสบการณ์การเขียนรายงานสอบสวนโรคให้มีคุณภาพและทรงคุณค่า ร่วมกับวิทยากรอีก 2ท่านที่ได้รับรางวัลเช่นกัน โดยมีคุณหมอพจมาน เป็นผู้ดำเนินการอภิปราย เล่าเรื่องราวได้อย่างสนุกสนาน ไม่เบื่อ พร้อมกับนำเสนอวิธีการ ยกตัวอย่างจากประสบการณ์จริงไปด้วย และนำเสนอต่อยอดให้ รองผอ. รศ.พญ.เนสินี ไชยเอีย หัวหน้าทีมได้อภิปรายเพิ่มเติม เป็นการชูประเด็น ยกย่อง ให้เกียรติผู้บังคับบัญชาด้วยที่ให้การสนับสนุน ให้ทำงานด้านนี้และส่งเสริมให้เข้าอบรมในหลักสูตร FEMT ร่วมกับท่าน จนได้มีผลงานเชิงประจักษ์ ได้รับรางวัลการเขียนรายงานสอบสวนโรคที่ทรงคุณค่า ในระดับประเทศของเครือข่ายระบาดวิทยาและ SRR ประจำปี 2555
เรื่องราวที่เล่าได้เตรียมเนื้อหาไว้ ตามที่ประเด็นของผู้จัดงานอยากให้แบ่งปันประสบการณ์ ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติมของผลงาน จะนำมาเล่าต่อในตอนที่ 2 คะ
เล่าเรื่องการพัฒนาประสบการณ์การเขียนรายงานสอบสวนโรคที่มีคุณภาพ/ทรงคุณค่า
ประวัติของวิทยากร ผู้ดำเนินการอภิปรายบอกว่า ให้วิทยากรแนะนำ เ่ล่าเองว่า เส้นทางชีวิต มาทำงานด้านระบาดวิทยาได้อย่างไร
ก่อนอื่นขอเล่าเรื่องราวที่นำเข้ามาสู่เส้นทางของการทำงานด้านการทำงานเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคติดต่อเป็นเครือข่าย SRRT ในฐานะและตัวแทนของCUP โรงพยาบาลศรีนครินทร์กว่าจะได้มีโอกาสมาแบ่งปันประสบการณ์การพัฒนาการเขียนรายงานสอบสวนโรค คือเมื่อปี 2551 มีโอกาสเข้าร่วมประชุมเชิงเครือข่ายระบาดวิทยาที่จังหวัดอุดรธานี และปีต่อมาเข้าร่วมประชุมที่เชียงใหม่ มีแรงบันดาลใจมีความฝันอยากจะได้มีโอกาสเดินขึ้นเวทีเพื่อรับรางวัลที่มีเกียรติและภาคภูมิใจสักครั้งหนึ่งในชีวิต
เส้นทางชีวิตเริ่มจากการทำงานเป็นผู้ช่วยพยาบาลในปี 2522 ที่หอผู้ป่วยอายุรกรรม 2 ปีหลังจากนั้นมาเป็นครูผู้ช่วยสอนนักเรียนผู้ช่วยพยาบาลของโรงเรียนผู้ช่วยพยาบาลโรงพยาบาลศรีนครินทร์ 4 ปี และสอบเรียนต่อเป็นพยาบาล ปี พ.ศ.2528 กว่าจะเรียนจบก็ใช้เวลา 4 ปี 4 summer และอีก 2 เดือนเมื่อเรียนจบได้กลับมารับราชการเป็นพยาบาลประจำการหอผู้ป่วยหลังคลอดและทารกแรกเกิดอยู่ 15 ปี อายุเริ่มมากแล้วมีครอบครัวที่จะต้องดูแลไม่อยากขึ้นเวรบ่ายดึกแล้วจึงได้ขอเปลี่ยนเส้นทางชีวิตมาเป็นพยาบาลควบคุมการติดเชื้อ (ICN) ที่หน่วยควบคุม โรคติดเชื้อ งานเวชกรรมสังคม ในปี 2547 รับผิดชอบงานด้านการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมการติดเชื้อในหอผู้ป่วยและในปี 2549 ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบงานทางด้านระบาดวิทยาโรคติดต่อเพิ่มเติม โดยงานเดิมที่รับผิดชอบอยู่ไม่ได้ลดลงกลับเพิ่มมากขึ้นเพราะ ขอรับผิดชอบหอผู้ป่วยอายุรกรรมศัลยกรรม กุมารเวชกรรมสูติ –นรีเวช ENT ทั้งหมดในโรงพยาบาลเพื่อที่จะได้ฝึกประสบการณ์การทำงานให้เก่งและมีความชำนาญมากขึ้นการเป็น ICN เป็นงานที่ท้าทายอย่างมากเพราะว่า
1)ไม่เคยผ่านการอบรมด้านนี้มาโดยเฉพาะ
2) พื้นฐานการทำงานไม่ได้มีประสบการณ์ในการดูแลและให้การพยาบาลผู้ป่วยระยะวิกฤติผู้ป่วยทางด้านอายุรศาสตร์หรือศัลยศาสตร์มาก่อน
3) พื้นฐานทางด้านการใช้สถิติการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆยังอ่อนมากๆ
การพัฒนาตนเองทำอย่างไรบ้าง มีมูลเหตุแรงจูงใจอย่างไร
จากแรงบันดาลใจที่ถูกกดดันหลายครั้งว่าจะไม่สามารถทำงานนี้ได้ดี ผลประเมินการทำงานไม่น่าจะผ่าน การเขียนหนังสือ การสรุปรายงานต่างๆทำได้ไม่ดี ถูกแก้แล้วแก้อีกจึงได้ตั้งเป้าหมายและตั้งใจที่จะพัฒนาตนเองให้เป็นที่ยอมรับจากผู้ร่วมงานจากผู้บังคับบัญชาและจากเจ้าหน้าที่ในหอผู้ป่วยพร้อมๆ กับการเตรียมตัวที่จะเขียนผลงานวิชาการเพื่อเข้าสู่ตำแหน่งพยาบาลชำนาญการพิเศษ โดยเริ่มต้นจาก
1) จากการเรียนรู้ด้วยตนเอง อ่านอ่าน หนังสือที่เกี่ยวข้องดาวน์โหลดข้อมูลแนวทางการปฏิบัติจากเว็ปไซด์ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเช่นของCDC และ WHO
2) จากการสอนงานระบบเทรนนิ่ง ของหัวหน้าหน่วยควบคุมการติดเชื้อ จากน้องพยาบาล ICN ที่ทำงาน มาก่อน การสอนงานจากหัวหน้างานเวชกรรมสังคม ที่ท่านจะให้คำแนะนำว่าจะต้องอ่านและศึกษาเรียนรู้เพิ่มเติมอ่านหนังสือให้มาก ลงมือทำให้เห็นและเมื่อมีปัญหาไม่เข้าใจทำไม่ได้ให้ถามผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญ ในข้อนี้เป็นความโชคดีที่มีอาจารย์แพทย์สาขา โรคติดเชื้อประธานคณะกรรมการอำนวยการป้องกันควบคุมการติดเชื้อในโรงพยาบาลรองศาสตราจารย์บุญส่ง พัจจนสุนทร ให้คำแนะนำ
3) ลงมือปฏิบัติจริง จับคู่ทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจะทำให้งานที่เราทำได้รับคำแนะนำตรวจสอบแก้ไขและเป็นที่ยอมรับในเชิงนโยบาย งานเชิงพัฒนาที่ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบงานด้านการป้องกันควบคุมการแพร่เชื้อวัณโรคในโรงพยาบาลพัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วยวัณโรค ทำเป็นคู่มือและแนวทางปฏิบัติ ผลงานวิชาการเป็นผลงานรางวัลแรกที่ได้รับจากการนำเสนอผลงานวิชาการของสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่6 ขอนแก่น
4) จากการเข้ารับการอบรมพัฒนาบุคลากรของหน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุข ด้านการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมการติดเชื้อในโรงพยาบาล ระบาดวิทยาขั้นพื้นฐานโรคติดต่อโรคอุบัติใหม่/อุบัติซ้ำ เข้าร่วมประชุมวิชาการที่เกี่ยวข้อง อย่าปฏิเสธการเสนอชื่อให้ไปอบรมจากหน่วยงาน
5) จากการศึกษาดูงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ศูนย์ระบาดอำเภอเมืองโรงพยาบาลขอนแก่นและทีมระบาดวิทยาของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น
เมื่อมาทำงานระบาดวิทยารู้สึกอย่างไรกับการเขียนรายงานสอบสวนโรค
จากที่ทำงานเป็นพยาบาลควบคุมการติดเชื้อในโรงพยาบาลและได้รับมอบหมายให้ทำงานด้านการเฝ้าระวังโรคติดต่อ เป็น SRRT ในระดับจังหวัดและโรงพยาบาลทำให้การทำงานงานด้านนี้ไปได้ดีและเข้าใจง่ายพร้อมกับการลงมือปฏิบัติควบคุมโรคไปพร้อมกัน
รายงานสอบสวนโรคที่ได้เขียนฉบับแรกในปี 2548 คือรายงานสอบสวนผู้ป่วยสงสัยไข้หวัดนกเฉพาะราย ที่มีแบบฟอร์มให้กรอกข้อมูลทำไม่ยากแต่เมื่อนำมาเขียนเป็นความเรียงเชิงพรรณนารายงานฉบับสมบูรณ์ ก็จะมีรูปแบบที่เป็นมาตรฐาน ความรู้สึกที่เกิดขึ้นยากไหมจะทำได้ไหมความรู้ที่มีอยู่เพียงพอหรือไม่
การเขียนรายงานสอบสวนโรคเหมือนกับการทำ case conference ของพยาบาลแต่มีรูปแบบเฉพาะตามที่กำหนด และดูตัวอย่างจากการเขียนรายงานของคนอื่นๆ รายงานฉบับนี้เป็นฉบับฝึกเขียน และได้นำไปปรึกษากับอาจารย์เมื่อได้เข้าอบรม การพัฒนาบุคลากรฝึกเขียนและคิดว่าถ้าได้รับการอบรมมีผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบให้ก็จะทำให้รายงานสอบสวนโรคน่าอ่านและสมบรูณ์ทางด้านวิชาการอาจารย์เกรียงศักดิ์ เวทีพุฒทราจารย์ บอกว่าคุณประกายลองเขียนมาดูก่อนแล้วอาจารย์จะอ่านและให้คำแนะนำแก้ไขให้ พร้อมกับส่งเข้าประกวด โดยมีผู้ร่วมทีมเป็นผู้นำเสนอ เพราะว่าเวลาทีี่นำเสนอ 2 เรื่องตรงกัน
เมื่อเข้ารับการอบรมระบาดวิทยาขั้นพื้นฐาน อบรมระบาดวิทยาประยุกต์และโรคติดต่อ 2 สัปดาห์ที่ คณะสาธารณสุขศาสตร์ ได้ฝึกการเขียนรายงานสอบสวนโรคฝึกการทำงานร่วมกับทีมครั้งแรกที่เข้าอบรมจะทำงานเป็นกลุ่มร่วมกับนักวิชาการสาธารณสุขจากจังหวัดต่างๆที่มาอบรมด้วยกันมีแต่คนเก่งๆความรู้สึกที่ฝึกเขียนทำไมยากจังไม่เข้าใจการใช้สถิติการศึกษาระบาดวิทยาเชิงวิเคราะห์ แล้วเราจะทำได้ไหม ใครจะช่วยมีคำถามเกิดขึ้นในใจตลอด เมื่อมีการระบาดของโรคติดต่อเกิดขึ้นในพื้นที่จะทำอย่างไรจะออกแบบการเก็บข้อมูลอย่างไรจึงจะได้ข้อมูลครบถ้วนตามแนวทางการเขียนรายงานสอบสวนโรค คำถามในใจ ต้องมีคำตอบเสมอ
สมัครเข้ารับการอบรมหลักสูตรฟื้นฟูระบาดวิทยา และระบาดวิทยาประยุกต์ หลักสูตรการเขียนรายงานสอบสวนโรค ซึ่งจัดโดยสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 จังหวัดขอนแก่น ในปี 2553 โดยที่จะต้องมีรายงานสอบสวนโรคฉบับสมบูรณ์เป็นของตัวเองให้อาจารย์ได้อ่านและช่วยให้คำแนะนำ แก้ไขเพิ่มเติม ฝึกการนำเสนอรายงานสอบสวนโรคอย่างถูกต้อง ให้อาจารย์ ผู้เชี่ยวชาญ ได้วิจารณ์ และให้เพื่อนที่เรียนด้วยกันศึกษาฝึกการวิเคราะห์ ควรเพิ่มเติมส่วนไหน ควรลดส่วนไหน ในเนื้อหารายงาน เพื่อ และนำไปเป็นตัวอย่าง เรียนรู้ แก้ไขให้ถูกต้องตามหลักการเขียนรายงานสอบสวนโรค ทำได้ไม่ดี มีจุดอ่อนเรื่องการออกแบบการเก็บข้อมูล ได้ไม่ครบถ้วน
ในปี 2554 ได้สมัครเข้ารับการอบรมหลักสูตรการบริหารจัดการทีมสอบสวนเคลื่อนที่เร็วภาคสนามSRRT ซึงจัดโดยสำนักระบาดวิทยาเป็นหลักสูตรที่ต้องการอบรมมากที่สุดได้เข้าเรียนในช่วงปลายเดือนธันวาคม 2554 เพื่อที่จะได้เรียนรู้ให้ได้มากที่สุดมีการฝึกปฏิบัติจริงเขียนรายงานสอบสวนโรคนำเสนอรายงานและมีการวิพากษ์จากอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญ แก้ไขและส่งผลงาน หลักสูตรนี้ดีมาก ๆ เรียนครั้งละ 5 วัน แล้วให้การบ้านกลับไปทำงานและทำการบ้านไปพร้อมกัน โดยมีพี่เลี้ยง ช่วยในการให้คำแนะนำ การสอบสวนโรค การเขียนรายงาน
ความลับสุดยอดที่ไม่ได้เปิดเผย ครั้งแรกที่เขียนรายงานสอบสวนโรคเมื่อนำเสนอหรือวิพากษ์จะไม่เหมือนกัน อาจารย์แต่ละท่านก็จะให้คำแนะนำที่ไม่เหมือนกัน เกิดการสับสน แล้วการเขียนรายงานที่ถูกต้องเป็นอย่างไร จนได้มาเรียน หลักสูตรการเขียนรายงานสอบสวนโรคและหลักสูตร FEMT จึงเข้าใจ รายงานสอบสวนโรคที่เขียนขึ้นจะต้องมีคำตอบให้ครบถ้วนตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งขึ้น
ความลับอีกเรื่องคือ เมื่อรับงานระบาดวิทยาโรคติดต่อ ใหม่ๆจำได้ว่ามีนักวิชาการสาธารณสุข ของสสจ.ขอนแก่นคนหนึ่งที่เสียงดังที่จะคอยตามรายงานการสอบสวนโรคแต่ละครั้งก็จะได้รับโทรศัพท์พี่ประกายสอบสวนโรคหรือยังพี่ประกายตามผู้ป่วยได้ยัง พี่ประกายไปตามดูผู้ป่วยเดี่ยวนี้ โดยเฉพาะผู้ป่วย AFP อีก 5 นาทีจะโทรมาขอข้อมูลเพิ่มเติมแล้วพี่ประกายอย่าลืม เขียนรายงานสอบสวนโรคส่งให้ด้วย เกิดความรู้สึกไม่พอใจ มีแต่สั่งไม่ลงมาช่วยแต่พอ สักพักก็ได้รับตัวอย่างการเขียนรายงานสอบสวนที่เคยมีคนเขียนไว้มาให้ดูถ้าไม่มีเธอก็คงจะไม่ได้ฝึกเขียนรายงานสอบสวนโรคอยากจะขอบคุณมากๆที่ช่วยกระตุ้นให้การทำงานเก่งขึ้นให้ต่อสู้และฝึกเขียนรายงานสอบสวนโรคจากตัวอย่างของสำนักระบาดวิทยาที่ส่งให้ดู
จะเขียนรายงานให้ได้คุณภาพควรจะเริ่มต้นอย่างไร
การเริ่มต้นที่จะเขียนรายงานสอบสวนโรคที่มีคุณภาพและทรงคุณค่าสิ่งที่สำคัญคือ
1) มีใจอยากจะเขียนอยากจะทำ รักที่จะทำงานด้านนี้ ตั้งใจที่จะเขียนรายงานสอบสวนโรคให้ได้
2) มีเป้าหมายที่ชัดเจนจะต้องตั้งเป้าว่าในการทำงานภายใน 11 ปีจะเขียนรายงานฉบับสมบูรณ์ เข้าร่วมนำเสนอผลงานวิชาการ อย่างน้อยปีละ 2 เรื่องซึ่งเป็น KPI ของการทำงานค่าตอบแทนประจำปีและ เพื่อนำมาใช้ในการขอตำแหน่งทางวิชาการหรือรักษาสถานภาพตำแหน่งทางวิชาการไว้ มีอยู่ประโยคหนึ่งที่ยังจำไว้เสมอ คือคำว่า “โรงพยาบาลเราสังกัดมหาวิทยาลัย “ จะต้องทำผลงานวิชาการสำหรับการเข้าสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นสั่งสมประสบการณ์และต้องมีการนำเสนอผลงานในเวทีต่างๆด้วยจึงจะสามารถส่งผลงานขอตำแหน่งเป็นพยาบาลระดับ8 หรือพยาบาลชำนาญการพิเศษ
3) ลงมือทำโดยการฝึกเขียนรายงานสอบสวนโรคเฉพาะรายในผู้ป่วยที่มารับการรักษาก่อนเช่นโรคไข้เลือดออก โรคมาลาเรีย โรคอหิวาตกโรค ผู้ป่วยที่มีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงเฉียบพลัน AFP
4) อ่านศึกษาเรื่องโรคการรักษาการแปรผลทางห้องปฏิบัติการของโรคที่เราสอบสวนให้เข้าใจและนำมาเขียนรายงาน แล้วอย่าลืม การใส่ค่า หน่วย ให้ถูกต้อง ถ้าไม่แน่ใจ ให้ถามแพทย์เจ้าของไข้ ผู้รู้ เรื่องนี้หน้าแตกกลางเวทีการประกวดรายงานสอบสวนโรค เวที สคร 6. มาแล้ว ในปี 2554 เขียนรายงานคำศัพท์ต่าง ๆ สำคัญมาก ๆ เขียนให้ถูกต้อง ตรวจสอบรายงานให้ครบถ้วน อย่าให้มีคำผิด อัตราต่างๆ ที่จะนำเสนอ ให้ใส่หน่วยให้ครบและภาษาที่ใช้ให้เหมือนกัน ตลอดทั้งฉบับ
5) อ่านรายงานสอบสวนโรคที่เป็นตัวอย่างที่มีคนเขียนมาก่อนโดยค้นหาจากวารสารทางการแพทย์จาก weekly report จากเว๊ปไซด์ของสำนักระบาด จากเว๊ปไซด์ของสำนักงานป้องกันควบคุมโรคต่างๆ หรือค้นจากอาจารย์กูเกิลใส่คำค้นหาที่ต้องการ แล้วนำมาใช้เป็นตัวอย่างเปรียบเทียบเหตุการณ์อภิปรายผลรายงานสอบสวนโรคของเราที่เขียนว่ามีข้อแตกต่างกันอย่างไรสิ่งที่เหมือนกันอย่างไรเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสัมพันธ์หรือเชื่อมโยงกันอย่างไรและที่สำคัญอย่าลืมค้นหาและอ่านจาก CDC WHO หรือเอกสารวิชาการที่ใช้อ้างอิงว่ามีคำแนะนำในการปฏิบัติอย่างไร
6) ศึกษาประวัติการการเจ็บป่วยการรักษาผู้ป่วยประวัติการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ตัวอย่างที่ส่งตรวจในรายที่ เราสอบสวนโรค หรือในการสอบสวนการระบาดจะต้องศึกษาและเก็บตัวอย่างในการตรวจทางห้องปฏิบัติให้ได้ถูกต้องมากที่สุด เก็บจากอะไรตำแหน่งที่เก็บ จะเก็บใส่ภาชนะอะไรอาหารเลี้ยงเชื้อชนิดใดอุณหภูมิ เพราะว่าจะได้ช่วยยืนยันการวินิจฉัยยืนยันการระบาด
7) การสอบสวนโรค การสัมภาษณ์ผู้ป่วยการศึกษาสิ่งแวดล้อมมีความสำคัญที่จะทำให้ได้ข้อมูลมาสำหรับการเขียนรายงานมากที่สุดสิ่งที่จะทำให้เราตั้งสมมติฐานการเกิดโรคได้สาเหตุปัจจัยเสียงซึ่งจะต้องมีเทคนิคในการสัมภาษณ์ผู้ป่วยที่ง่ายๆคือสร้างความคุ้นเคยและให้ผู้ป่วยไว้วางใจพูดคุยกับผู้ป่วยในประเด็นที่สำคัญๆที่ต้องการพร้อมกับการให้โอกาสผู้ป่วยที่จะเล่าประวัติการเจ็บป่วยประวัติการรับประทานอาหารไม่ชี้ประเด็นนำ ห้ามดุด่าหรือข่มขู่ผู้ป่วย รักษาความลับของผู้ป่วยเมื่อสัมภาษณ์แล้วนำข้อมูลมาบันทึกและวิเคราะห์ ลงมือเขียน ส่วนข้อมูลการศึกษาสิ่งแวดล้อมต่างๆให้ขอให้ถ่ายภาพเก็บไว้ให้ได้มากที่สุดพร้อมทั้งภาพการดำเนินงานควบคุมโรคกิจกรรมที่เกี่ยวข้องเพราะว่าถ้าไม่ถ่ายภาพเก็บไว้เมื่อย้อนกลับไปใหม่จะไม่เหมือนเดิม
8) การเขียนเอกสารอ้างอิงสำคัญที่สุด เขียนอย่างไรให้ถูกต้องใช้ระบบการเขียนแบบไหนให้เขียนเหมือนกัน ก็ต้องศึกษารูปแบบวิธีการเขียน เอกสารหนังสือที่ใช้อ่านประกอบยกตัวอย่างนำมาใช้จะต้องนำมาอ้างอิงให้ถูกต้อง อย่าละเมิดลิขสิทธ์ผู้เขียนรายงานผลงานวิชาการจะต้องมีความซื่อสัตย์ต่อการนำรายงานและเสนอผลงาน ประสบการณ์ในการเขียนเอกสารอ้างอิงเป็นสิ่งที่เขียนยากมากๆ จะต้องเปิดดูทุกครั้งที่เขียนรายงานสอบสวนโรค วิธีที่จะลดขั้นตอนในการเขียนเอกสารอ้างอิงการนำมาใช้การเรียงหมายเลขจะมีโปรแกรมช่วยในการค้นหาบันทึกข้อมูลเอกสารอ้างอิงที่เรานำมาใช้เรียกว่าโปรแกรม ............เคยไปรับการฝึกอบรมเหมือนกันแต่ทำยังไม่เป็นเทคนิคที่ใช้อยู่ในปัจจุบันคือเปิดดูวิธีการเขียนทุกครั้งและมีผู้เชี่ยวชาญช่วยตรวจสอบโชคดีที่เรามีบรรณารักษ์ของห้องสมุดคณะแพทยศาสตร์จะช่วยในการตรวจสอบการเขียนเอกสารอ้างอิงและการค้นหาเอกสาร
9) สร้างเครือข่าย สร้างพันธมิตรในการทำงานร่วมกันเป็นทีม การทำงานด้านการเฝ้าระวังจะทำคนเดียวไม่ได้ต้องมีเครือข่ายช่วยเหลือในการทำงาน ได้แก่อสม. เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการเจ้าหน้าที่ในหอผู้ป่วยห้องตรวจต่างๆหรือหน่วยงานที่สนับสนุนภารกิจด้านการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรค ยกตัวอย่าง เช่นในต้นปีช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคมปี 2551 เกิดการระบาดของโรคหัดในนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่นเป็นครั้งแรกที่ได้แสดงบทบาทหน้าที่ในการทำงานของทีมSRRTเต็มรูปแบบและเขียนรายงานสอบสวนโรคฉบับสมบูรณ์ที่ทำงานร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและทำงานวิจัยร่วมกันกับแพทย์และเจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการควบคู่ไปกับการเขียนรายงานสอบสวนโรคที่มีทีมช่วยกันเขียนรายงานและทำงานร่วมกันเป็นทีม SRRT
มีคนช่วยและให้ข้อคิดเห็นบ้างหรือไม่
มีคนช่วยให้ข้อคิดเห็นในการทำงานช่วยให้ข้อคิดเห็นในการรายงานสอบสวนโรคสอบสวนการระบาดได้แก่ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาโรคติดเชื้อโรคระบบทางเดินหายใจ หัวหน้าทีม SRRT ที่เป็นผู้บริหารของโรงพยาบาลที่จะดูแลรับผิดชอบงานเฝ้าระวังป้องกันควบคุมการติดเชื้อ โรคติดต่อในโรงพยาบาลและในชุมชนและการสร้างเสริมสุขภาพ ซึ่งแต่เดิมงานระบาดวิทยาโรคติดต่อจะดำเนินงานและขึ้นอยู่กับหน่วยควบคุมการติดเชื้อ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลฝ่ายสร้างเสริมสุขภาพรศ.เนสินีไชยเอีย ได้เล็งเห็นความสำคัญของการดำเนินงานเฝ้าระวังควบคุมโรคติดต่อ ความสำคัญของ SRRT ทีม ปัญหาการเกิดโรคในพื้นที่ที่มีความสำคัญเพราะเราเป็น โรงพยาบาลที่สังกัดมหาวิทยาลัย จะต้องเป็นตัวอย่างการดำเนินงานแก่นักศึกษาที่ฝึกงานและสนับสนุนทางด้านวิชาการจึงได้ให้โอกาสและให้จัดตั้งหน่วยระบาดวิทยาโรคติดต่อ แยกออกมาจากหน่วยควบคุมการติดเชื้อและ มอบนโยบายการทำงานทำงานในฐานะหัวหน้าทีมสอบสวนเคลื่อนที่เร็ว สั่งการเน้นในเรื่องการสร้างเสริมสุขภาพป้องกันโรค และเมื่อเกิดการระบาดให้สามารถควบคุมได้โดยเร็ว ลงพื้นที่สอบสวนหาสาเหตุและรายงานให้ทันเวลาตามข้อกำหนดและมาตรฐาน
ที่สำคัญที่สุด ในการเขียนรายงานสอบสวนโรค ครั้งนี้ได้การเขียนรายงานสอบสวนโรคได้ดีขึ้นและเขียนได้ครบทั้งระบาดวิทยาเชิงพรรณาและเชิงวิเคราะห์ เป็นแบบอย่างได้จากการเข้ารับการอบรม FEMT มีอาจารย์ที่เป็นพี่เลี้ยง อาจารย์เฉวตสรร นามวาส ผู้อำนวยการสำนักวัณโรค เพื่อนร่วมทีมที่เข้าอบรมด้วยกันให้กำลังใจ ช่วยกันหาข้อมูล สสจ. ขอนแก่นช่วยหาข้อมูลทำกราฟหาค่าสถิติช่วย และที่สำคัญที่สุดคือหัวหน้าทีมรศ. เนสินีไชยเอีย ที่คำนวนค่าสถิติ แก้ไขบทสรุปอภิปรายผลแล้วนำเสนอให้อาจารย์ที่สอนและทบทวนการเขียนรายงานสอบสวนโรคจากสำนักระบาดวิทยาคุณหมอดารินทร์ คุณหมอพจมานอาจารย์เฉวตสรรที่สอนในเรื่องของการทำกราฟการใช้ข้อมูล อาจารย์คุณหมอสุจิตรา ที่ช่วยในการอ่านวิจารณ์ให้ข้อเสนอแนะแก้ไข
ขอยกตัวอย่างรายงานสอบสวนโรคที่เด่นและเป็นตัวอย่างและนำไปสู่นโยบายการปฏิบัติได้แก่
1) รายงานสอบสวนการระบาดของโรคหัดในนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่นรายงานฉบับนี้จะทำด้วยกันเป็นทีมทั้งทีมแพทย์พยาบาลห้องปฏิบัติการสสจ.ขอนแก่น และนำไปสู่นโยบายการให้วัคซีน MMR แก่นักศึกษาทุกชั้นปีที่ยังไม่ได้รับวัคซีน MMR กระตุ้นในปีพ.ศ.2552 และ 2553 โดยได้รับงบประมาณสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยขอนแก่นและเป็นตัวอย่างการดำเนินงานป้องกันควบคุมโรคหัดของมหาวิทยาลัย
2) การระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 H1N1 ในปี 2552 ซึ่งเกิดการระบาดทั่วประเทศจะดำเนินการสอบสวนร่วมกับทีมจังหวัดและในพื้นที่เป็นเครือข่าย
3) การระบาดของโรคอหิวาตกโรคในจังหวัดขอแก่นจะดำเนินการสอบสวนร่วมกับสำนักระบาดวิทยาสสจ.ขอนแก่น สคร.6 และมีทีมนักศึกษาแพทย์ และนำไปสู่นโยบายการดำเนินงานเฝ้าระวังควบคุมสุขาภิบาลอาหารในโรงอาหารของมหาวิทยาลัยและโรงอาหารของโรงพยาบาล
4) รายงานสอบสวนการระบาดของโรคไข้เลือดออกในนักศึกษา
5) การสอบสวนการระบาดของโรคสุกใสในโรงพยาบาลศรีนครินทร์ที่ได้รับรางวัลทรงคุณค่าในครั้งนี้ จากการศึกษาและอภิปรายผลการศึกษานำไปสู่นโยบายการดำเนินงานเฝ้าระวังคัดกรองผู้ป่วยและญาติที่มารับการรักษาในโรงพยาบาลศรีนครินทร์และการคัดกรองบุคลากรการตรวจหาภูมิคุ้มกันของโรคสุกใสและดำเนินการให้วัคซีนป้องกันโรคสุกใสแก่บุคลากรกลุ่มเสี่ยง
ความสำเร็จครั้งนี้คิดจะขยายผลต่อไปยังทีมเครือข่ายในจังหวัดหรือไม่อย่างไร
ความสำเร็จในครั้งนี้จะต้องขยายผลต่อไปยังทีมเครือข่ายในจังหวัดและเครือข่ายของอำเภอเมืองในการช่วยเหลือเป็นแหล่งข้อมูลทางวิชาการสนับสนุนให้คำแนะนำฝึกการเขียนรายงานสอยสวนโรคและเป็นวิทยากรร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนำเสนอประสบการณ์การสอบสวนโรคการดำเนินงานควบคุมโรคระบาดที่เกิดขึ้นเพราะว่าส่วนใหญ่แล้วจะเกิดขึ้นที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ก่อนพื้นที่อื่นทุกครั้งอาจจะเกิดจากการตรวจจับเฝ้าระวังทีมีเครือข่ายที่เข้มแข็ง
สิ่งที่ต้องการพัฒนาตนเองด้านการเขียนรายงานสอบสวน ได้แก่
1) ด้านการใช้ข้อมูลที่มีอยู่รวบรวมเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องจะนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในทางวิชาการ
2) ระบบการจัดเก็บรวมรวมข้อมูลที่จำเป็นต้องใช้ให้เป็นระบบสารสนเทศนำ IT เข้ามาใช้และพัฒนาให้เกิดประโยชน์เข้ารับการอบรมการใช้สถิติเชิงวิเคราะห์
3) พัฒนาการเขียนรายงานสอบสวนโรคต่อไปไม่ควรที่จะหยุดเขียนและเป็นพี่เลี้ยงให้กับทีมพัฒนาเครือข่ายให้เข้มแข็งและมีผลงานวิชาการนำเสนอต่อไป
สิ่งที่ต้องการการสนับสนุนจากส่วนกลาง
1) เรื่องของการอบรมวิชาการการสัมมนาต่างๆหรือนโยบายที่ทางโรงพยาบาลจำเป็นต้องปฏิบัติเพราะว่าโรงพยาบาลศรีนครินทร์เป็นโรงพยาบาลตติยภูมิที่รับรักษาผู้ป่วยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือทั้งหมดโรงพยาบาลมักจะถูกลืมไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมจากหน่วยงานที่จัดซึ่งบางครั้งเมื่อสอบถามจะได้รับคำตอบว่าจังหวัดจะเป็นผู้ถ่ายทอดต่อซึ่งบางครั้งถ้าได้มารับการอบรมชี้แจงด้วยตนเองจะทำให้เข้าใจและรับทราบนโยบายและนำไปปฏิบัติได้โดยเร็ว
2) อยากให้จัดหลักสูตรอบรมFEMT ให้กับทุกทีมในภูมิภาค
3) การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินงานป้องกันควบคุมโรคอยากให้ใช้วัคซีนป้องกันโรคสุกใส เข้าในระบบ EPI มากที่สุด
มีภาพบรรยากาศการเล่าเรื่องราว จะนำมาลงทีหลังนะคะ ดึกมากแล้ว ขอเขียนรายงานสอบสวนโรคที่จะเสนอ รอง ผอ.ก่อนนะคะ
การนำเอาข้อมูลแปลงสู่การเขียน
เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ ..
ชื่นชมครับพี่ -
ขอบคุณคะ ตอนนี้ก็งานเข้า สอบสวนโรคในศูนย์ฝึกอบรมตำรวจ งานช้าง