ร่างอุทธรณ์คำสั่งไม่อนุญาตให้เพิ่มชื่อบุคคลในทะเบียนบ้าน เคสลุงตู่


ที่

  28 มกราคม 2556

เรื่อง  อุทธรณ์คำสั่งไม่อนุญาตให้เพิ่มชื่อบุคคลในทะเบียนบ้าน

เรียน  นายทะเบียนท้องถิ่น เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย

อ้างถึง  คำสั่งนายทะเบียน ตามคำร้องเกี่ยวกับทะเบียนราษฎร ท.ร. 31 ที่ 302/2556

ตามที่นายทะเบียนท้องถิ่น เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ซึ่งกระทำการในฐานะนายทะเบียนท้องถิ่น ตามมาตรา 8/2 แห่งพระราชบัญญัติการทะเบียนราษฎร พ.ศ. 2534 แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 2 พ.ศ. 2551 ได้มีคำสั่งตามคำร้องเกี่ยวกับทะเบียนราษฎร ท.ร. 31 ที่ 302/2556 ลงวันที่ 14 มกราคม 2556 ว่า “ไม่อนุญาต ตามคำร้องรายการที่ 2. ขอเพิ่มชื่อบุคคลในทะเบียนบ้าน และแจ้งให้ผู้ร้องทราบเหตุผลที่ไม่อนุญาต เพราะพยานเอกสารไม่เพียงพอ เห็นควรสอบพยานบุคคลเพิ่มเติม” รายละเอียดท่านทราบดีอยู่แล้วนั้น

ข้าพเจ้าในฐานะผู้ร้อง ซึ่งเป็นผู้ซึ่งได้รับความเสียหายจากคำสั่งทางปกครองดังกล่าว ขอโต้แย้งว่าคำสั่งทางปกครองดังกล่าวเป็นคำสั่งทางปกครองที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะในการออกคำสั่งทางปกครอง ผู้ช่วยนายทะเบียนท้องถิ่น เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ซึ่งกระทำการในฐานะนายทะเบียนท้องถิ่น ผู้ออกคำสั่งไม่ได้พิจารณาพยานหลักฐานที่จำเป็นแก่การพิสูจน์ข้อเท็จจริงของข้าพเจ้าอย่างละเอียดครบถ้วนก่อนมีการออกคำสั่ง เนื่องจากข้าพเจ้าได้ดำเนินการยื่นคำร้องเพื่อขอเพิ่มชื่อบุคคลในทะเบียนบ้าน ในวันที่ 14 มกราคม 2556 และในวันเดียวกันท่านได้ออกคำสั่งไม่อนุญาต โดยไม่ได้สอบปากคำข้าพเจ้าเพื่อประกอบคำร้อง รวมถึงไม่ได้แสวงหาพยานเอกสาร และแสวงหาข้อเท็จจริงจากพยานบุคคลทั้งตามที่ข้าพเจ้ากล่าวอ้างและตามความจำเป็นแก่การพิสูจน์ข้อเท็จจริง ตามมาตรา 29 แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539เพื่อให้ท่านได้รับข้อมูล ความคิดเห็นอย่างครบถ้วนก่อนการวินิจฉัยออกคำสั่ง

อย่างไรก็ตามโดยข้อเท็จจริงแล้วข้าพเจ้าขอยืนยันว่า ข้าพเจ้ามีข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบเพื่อพิสูจน์สิทธิในสัญชาติไทยโดยการเกิด กล่าวคือ ข้าพเจ้ามีบิดาและมารดาเป็นคนสัญชาติไทย และข้าพเจ้าเกิดในประเทศไทย รวมถึงอาศัยอยู่ในประเทศไทยมาโดยตลอด ข้าพเจ้าจึงเป็นผู้ทรงสิทธิที่จะได้รับการเพิ่มชื่อในทะเบียน  (ท.ร. 14) ในสถานะคนสัญชาติไทยนั้น โดยอาศัยมาตรา 36 พระราชบัญญัติการทะเบียนราษฎร พ.ศ. 2534 แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 2 พ.ศ. 2551ประกอบข้อ 93 ระเบียบสำนักทะเบียนกลาง ว่าด้วยการจัดทำทะเบียนราษฎร พ.ศ. 2535 เพราะการที่ข้าพเจ้าไม่มีชื่อในทะเบียนบ้าน  (ท.ร. 14) ในช่วงเวลาที่ผ่านมา เนื่องจากตกสำรวจตรวจสอบเพื่อบันทึกชื่อในทะเบียนราษฎร พ.ศ. 2499 ดังนั้น คำสั่งทางปกครองไม่อนุญาตลักษณะดังกล่าวจึงเป็นคำสั่งซึ่งกระทบสิทธิของข้าพเจ้าในการเพิ่มชื่อบุคคลในทะเบียนบ้านและกระทบสิทธิของข้าพเจ้าในฐานะความเป็นผู้ทรงสิทธิในสัญชาติไทย ซึ่งการท่านไม่เปิดโอกาสให้ข้าพเจ้าได้รับทราบข้อเท็จจริงอย่างเพียงพอ และโต้แย้งแสดงหลักฐานของก่อนมีการออกคำสั่งทางปกครองดังกล่าว ทั้งนี้ เหตุผลประกอบคำสั่งทางปกครองดังกล่าวซึ่งระบุว่า พยานเอกสารไม่เพียงพอ เห็นควรสอบพยานบุคคลเพิ่มเติมนั้น ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญ ข้อกฎหมายที่อ้างอิง ข้อพิจารณาและข้อสนับสนุนในการใช้ดุลยพินิจ อันเป็นสาระสำคัญในการทำคำสั่งทางปกครองตาม หลักการใน มาตรา 37 แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539  ส่งผลให้ข้าพเจ้าซึ่งเป็นผู้ได้รับความเสียหายจากคำสั่งทางปกครองไม่สามารถโต้แย้งหรืออุทธรณ์ข้อเท็จจริงตามคำสั่งทางปกครอง จึงเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักการในการพิจารณาก่อนทำคำสั่งทางปกครองในมาตรา 30 แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 

อย่างไรก็ดี นับแต่วันที่ 16 มกราคม 2556 เป็นต้นมา ท่านได้ดำเนินการสอบปากคำของข้าพเจ้าและพยานบุคคลที่ข้าพเจ้ากล่าวอ้างมาโดยตลอด ข้าพเจ้าจึงตระหนักว่าท่านได้พยายามอย่างเต็มที่ในการดำเนินการแสวงหาพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงประกอบการพิจารณาคำร้องของข้าพเจ้าในการขอเพิ่มชื่อบุคคลในทะเบียนบ้าน

 ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น และเพื่อรักษาสิทธิฟ้องศาลคดีต่อศาลปกครอง ข้าพเจ้าจึงมีความประสงค์ขอให้ท่านได้โปรดมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งทางปกครองอันไม่ชอบด้วยกฎหมาย และได้โปรดดำเนินการแสวงหาพยานหลักฐานอันจำเป็นต่อการพิสูจน์ข้อเท็จจริงของข้าพเจ้าจนแล้วเสร็จ เพื่อพิจารณาประกอบคำร้องขอเพิ่มชื่อบุคคลในทะเบียนบ้านดังกล่าว ข้าพเจ้าขอสงวนสิทธิที่จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


จึงเรียนมาเพื่อทราบและดำเนินการต่อไปด้วย

ขอแสดงความนับถือ

(นายชาญ สุจินดา)



หมายเลขบันทึก: 517520เขียนเมื่อ 26 มกราคม 2013 16:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 31 มกราคม 2013 15:53 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ได้ดำเนินการยื่นคำร้องเพื่อขอเพิ่มชื่อบุคคลในทะเบียนบ้าน ในวันที่ 14 มกราคม 2556 และในวันเดียวกันท่านได้ออกคำสั่งไม่อนุญาต โดยไม่ได้สอบปากคำข้าพเจ้าเพื่อประกอบคำร้อง รวมถึงไม่ได้แสวงหาพยานเอกสาร และแสวงหาข้อเท็จจริงจากพยานบุคคลทั้งตามที่ข้าพเจ้ากล่าวอ้างและตามความจำเป็นแก่การพิสูจน์ข้อเท็จจริง ตามมาตรา 29 แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท