ทฤษฎีตัวยู (U theory) เป็นทฤษฎีของ อ๊อตโต้ ชาร์มเมอร์ เป็นทฤษฎีว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงภายในที่เกิดจากการใคร่ครวญภายในจิตใจ เมื่อรับรู้สิ่งใดมาอย่าเพิ่งตัดสินใจให้แขวนความรู้นั้นไว้ก่อน อย่าพึ่งใจร้อนด่วนตัดสินและนำมาพินิจพิจารณา สงบ และมีสติ แล้วก็จะเกิดปัญญา ซึ่งพระสัมมาสัทพุทธเจ้าตรัสไว้ว่าใครพูดอะไรอย่าเพิ่งปฏิเสธให้แขวนไว้ก่อนหรือวิธีการทางบวกที่เรามองความสำเร็จทำให้เกิดพลังเพิ่มขึ้นและไม่เริ่มต้นจากความทุกข์เมื่อเราพูดว่าทุกข์มาก ความทุกข์ก็จะท่วม ตามลักษณะไดอะแกรมดังนี้
ตามลักษณะไดอะแกรม ประกอบไปด้วยขาลง 4 ขั้นตอน และขาขึ้น 3 ขั้นตอนดังนี้
1. ขาลงของตัวยู มี 4 ขั้นตอนดังนี้
ขั้นที่ 1 Downloading คือการเชื่อมโยงกับข้อมูลเดิมกับที่เรามีอยู่ นำมาใช้งานพิจารณา (แต่อย่าพึง performing นะคะ ไปขั้นที่ 2 ก่อนค่ะ)
ขั้นที่ 2 Open Mind คือการเปิดความคิดและเปิดสายตาให้กว้าง (seeing) ออกมา มองนอกปัญหา เราจะมองเห็นสิ่งใหม่
ขั้นที่ 3 Open Heart คือการเปิดหัวใจรับรู้ความรู้สึกร่วม (sensing) การเอาใจเขามาใส่ใจเรา โดยที่เราก็ยังเป็นตัวของตัวเอง เพื่อความเข้าใจอย่างลึกซึ่ง
ขั้นที่ 4 Open Will หรือ Presencing คือการอยู่กับปัจจุบันที่สุด เราจะเห็นคำตอบมากมาย ทางเลือกหลากหลาย และความเป็นได้ทุกทางในอนาคต
2. ขาขึ้นของตัวยู มี 3 ขั้นตอนดังนี้
ขั้นที่ 1 Crystallizing คือการตกผลึกของความคิดให้ชัดเจนเข้มแข็ง
ขั้นที่ 2 Prototyping คือการนำความคิดนั้นมาแปรให้กลายเป็น "ต้นแบบ" และฝังอยู่ภายในตัวตนความคิดของเรา
ขั้นที่ 3 Performing คือการนำความคิดและการลงมือกระทำทั้งหมดนำไปสู่ผลสำเร็จ
การคิดตามทฤษฎียู เป็นการใช้เหตุผลประกอบการคิดให้มากขึ้น ไม่ใช้อารมณ์ เมื่อดูในไดอะแกรมอาจดูช้า แต่ถ้าเราฝึกบ่อยๆ จะทำให้เราเป็นคนไม่ผลีผลามใจร้อน และมีผลการคิดไตร่ตรองที่ดีขึ้น
ในทฤษฎียู ยังมี เรื่อง 4 Social Fields ดังนี้
1st Field: I-in-me มองความคิดจากประสบการณ์ตนเอง
2nd Field: I-in-it มองจากการบันทึกของตำรา หลักฐาน (open mind)
3rd Field: I-in- You สนใจความรู้สึกของคนอื่น ฟังคนอื่นมากขึ้น (open heart)
4thField: Presencing = Present + sensing มีความคิดปลอดโปร่ง มีสติสัมมปชัญญะ เข้าใจโลก เข้าใจตนเอง เข้าใจผู้อื่น (open will)
..... ขอบคุณ บทความดีดีนี้ค่ะ ..... U theory..