ติดตามอ่านย้อนหลังได้ที่ลิงก์ข้างนี้ครับ
http://www.naewna.com/columnist/1104
ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์
ในช่วงเวลา 35 ปีที่ผมได้ทำงาน เรื่องทรัพยากรมนุษย์ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างมากในเรื่องความสำคัญของทรัพยากรมนุษย์
เกือบทุกประเทศในโลกก็ให้ความสนใจเรื่อง ทรัพยากรมนุษย์มากขึ้น บางประเทศเน้นไปถึงทุนมนุษย์ด้วยซ้ำ จีนและอินเดียไม่มีกระทรวงแรงงานแล้ว มีแต่กระทรวงทรัพยากรมนุษย์
การก่อกำเนิดของกระทรวงแรงงาน ซึ่งมี ศ.นิคม จันทรวิทูร และตัวผมเองได้ช่วยกันผลักดันจนสำเร็จ แต่การเกิดของกระทรวงแรงงานมาจากวัฒนธรรมของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมองแรงงานเป็นเรื่องความมั่นคง ไม่ใช่เรื่องยุทธศาสตร์ในการพัฒนาประเทศทางด้านเศรษฐกิจสังคมและการเมือง
ช่วงแรกๆ มองว่าผู้ใช้แรงงานมีค่านิยม อันตรายต่อความมั่นคงของประเทศ เป็นช่วงที่ขัดแย้งทางอุดมการณ์ฝ่ายขวา ฝ่ายซ้าย
บางคนจึงเรียกกระทรวงแรงงานในปัจจุบันว่า มหาดไทย สาขา 2 งานพัฒนาฝีมือแรงงานและความรู้ แรงงานต่างด้าวและ
การสร้างงานหรือนโยบายการมีงานทำ จึงไม่ได้รับการดูแลเท่าที่ควร แต่ไปเน้นการปฏิวัติตามกฎหมายเป็นหลัก
ในช่วงหลังๆ ผมมีโอกาสได้กลับไปช่วยงานกระทรวงแรงงานเป็นครั้งเป็นคราว พบว่ามีข้าราชการดีๆ มีคุณภาพหลายคน จึงอยากเห็นบทบาทของกระทรวงแรงงาน ในการเป็นกระทรวงพัฒนาทุนมนุษย์หรือพัฒนาทรัพยากรมนุษย์มากขึ้น ซึ่งก็เป็นแนวทางที่เหมาะสมกับแนวโน้มของโลก
ในขณะที่ชื่อกระทรวงแรงงานไม่เปลี่ยน แต่มีกระทรวงสวัสดิการสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ขึ้นมา ทำให้คนไทยส่วนหนึ่งสับสนมากกว่าเป็นกระทรวงดูแลทรัพยากรมนุษย์หรือไม่? ความจริงแล้วกระทรวงนี้ดูแลเด็ก ผู้พิการ ผู้หญิง ผู้สูงอายุและผู้ด้อยโอกาส จึงไม่ใช่กระทรวงทรัพยากรมนุษย์โดยแท้
ผมได้รับเกียรติให้ร่วมอภิปรายหัวข้อ “แนะแนวอย่างไรเพื่อก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)” ร่วมกับ
คุณนรา รัตนรุจ ที่ปรึกษาในคณะอนุกรรมาธิการแรงงานสภาผู้แทนราษฎร ดร.ณัฐวุฒิ พงศ์สิริ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายทรัพยากรบุคคลและพัฒนาองค์กรธนาคารแห่งประเทศไทย และมี ดร.โชคชัย สุทธาเวศ เป็นผู้ดำเนินการอภิปราย จัดโดย กองส่งเสริมการมีงานทำ เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2555 ณ วังยาว ริเวอร์ไซด์รีสอร์ท จ.นครนายก
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
ผมจึงอยากขอให้ผู้เกี่ยวข้อง นำประเด็นเหล่านี้มาพิจารณา เพื่อปรับปรุงการทำงานของกระทรวงแรงงาน เปลี่ยนบทบาทหน้าที่ที่ควรจะเป็นและในที่สุดอาจจะเปลี่ยนชื่อกระทรวงให้เป็นกระทรวงพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในที่สุด
เมื่อวันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา ผมมีโอกาสรับเชิญไปร่วมอภิปรายและแสดงความเห็นให้เจ้าหน้าที่แนะแนวทั่วประเทศของกรมการจัดหางานที่จังหวัดนครนายก ซึ่งปัจจุบันควรจะชื่อ กรมการสร้างงาน แต่ใช้ชื่อกรมการจัดหางาน ทำหน้าที่คล้ายๆ ช่วยให้ผู้จ้างกับลูกจ้างได้พบกัน เน้นไปที่แรงงานระดับล่างมากกว่าแรงงานระดับกลาง และระดับบน
ยิ่งไปกว่านั้นกรมนี้มีหน้าที่เพิ่มขึ้น จะต้องศึกษาบางเรื่องมากขึ้น เช่น
1.โครงสร้างประชากรของไทย ซึ่งมีเด็กเกิดน้อย ผู้ใหญ่เยอะ มีผู้สูงอายุมาก
2.แรงงานต่างด้าวซึ่งเข้ามาในประเทศไทยกว่า 3 ล้าน 5 แสนคนจะบริหารจัดการอย่างไร?
3.ลดปัญหาว่างงานระดับปริญญาตรี โดยเน้นแรงงานอาชีวะให้เพิ่มมากขึ้น แต่ทำยาก เพราะเด็กไทยไม่เรียนอาชีวะ
4.พัฒนาศักยภาพของแรงงาน โดยเฉพาะให้คุณภาพของทุนมนุษย์ ขั้นพื้นฐาน
-เช่น คุณธรรม จริยธรรม ระเบียบวินัย ความสุขในการทำงาน ทำงานอย่างยั่งยืน
-เน้น Networking และความคิดสร้างสรรค์
-ทำงานเป็นทีม บริหารความหลากหลาย (Value Diversity)
-ภาษาต่างประเทศ เช่น ภาษาอังกฤษและภาษาอาเซียน
-สุดท้ายงานที่สำคัญ คือ ส่งเสริมทักษะอย่างเดียวไม่พอ ต้องเน้นไปที่การเพิ่มศักยภาพของทุนมนุษย์เหล่านั้น เช่น ความรู้และความใฝ่รู้ คิดเป็น วิเคราะห์เป็น
ฯพณฯ พลเรือเอกชุมพล ปัจจุสานนท์ องคมนตรีที่ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีมอบรางวัล
ASEAN COMMERCE AWARDS 2012 เมื่อ วันที่ 18 ธันวาคม 2555 ณ โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------
ผมได้เน้นว่า จะต้องค้นหาว่า ตนเองต้องปรับตัวอย่างไร?มีช่องว่างอะไร? เพื่อทำงานให้สำเร็จ จิตวิทยา ทีมเวิร์ก การใฝ่รู้การเจรจาต่อรอง
มี 2 ประเด็นที่น่าสนใจในการสัมมนาครั้งนี้ พบว่า กรมการจัดหางาน ควรจะเร่งรัดบทบาทของผู้แนะแนวใน 3 จังหวัดภาคใต้ให้มากขึ้น เพื่อลดปัญหาความไม่มั่นคง เพราะยิ่งวัยรุ่นใน 3 จังหวัดภาคใต้ว่างงานมากก็จะสร้างความรุนแรงทางการเมืองมากขึ้น
ผู้แนะแนวจะต้องเน้นการทำงานร่วมกับผู้แนะแนวของโรงเรียนและมหาวิทยาลัยมากขึ้น เพื่อให้ครบวงจร โดยมีคุณภาพของทรัพยากรมนุษย์ที่เหมาะสมกับตลาดแรงงาน
แต่ที่สำคัญมากกว่านั้นในอนาคตคือ จะแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานของไทย เพราะอัตราการเกิดของประชากรของไทยลดลงอย่างมากทำให้แรงงานใหม่การเกิดของตลาดแรงงานอัตราช้าลงอย่างมาก จึงต้องบริหารแรงงานต่างด้าวให้เหมาะสมกับความต้องการของประเทศ
การเข้าอาเซียนจึงจะต้องใช้ทรัพยากรมนุษย์ของอาเซียนให้เป็นฐานการผลิตเดียว (Single Production base) ซึ่งใช้โครงสร้างประชากรแตกต่างกัน เช่น เขมร พม่า ลาว ยังมีแรงงานส่วนเกิน จะเป็นกำลังสำคัญในเรื่องแรงงานให้ไทยในอนาคต จะบริหารจัดการอย่างไรให้เกิดมูลค่าเพิ่มสูงสุด
ส่วนเรื่องอื่นๆ ในสัปดาห์นี้
ขอประณามผู้ที่ทำร้ายคุณราเมศ รัตนะเชวง ทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ ตำรวจควรจะจับตัวคนร้ายให้ได้ รัฐบาลชุดนี้ควรจะดูแลความปลอดภัยของประชาชนให้ปลอดภัย
ธนาคารโลกทำวิจัยว่า 2 ปี การจำนำข้าว รัฐขาดทุนไปแล้ว 2 แสน 5 หมื่นล้าน หมดไปที่ใคร ประชาชน เกษตรกร ได้ 30% ที่เหลือไปไหน?
นโยบายกระตุ้นกิเลสให้คนไทยเป็นหนี้โดยซื้อรถคันแรก ได้ผลเพราะนโยบายแจกเงินแสนใครๆ ก็ชอบ แต่อันตรายในระยะยาว
-นโยบายด้านขนส่งมวลชนไม่เกิด
-ปัญหาสิ่งแวดล้อมและรถติด
-ขาดวินัยการเงิน หนี้เสียมากขึ้น
สุดท้าย ผมขอขอบพระคุณ ฯพณฯ พลเรือเอก ชุมพล ปัจจุสานนท์องคมนตรีที่ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีมอบรางวัล ASEAN COMMERCEAWARDS 2012 ทำความปลื้มและภูมิใจ แด่ผู้ได้รับรางวัล
งานนี้คือ การสร้างความสัมพันธ์ ที่ดีระหว่าง ไทย-Asean+จีน
ผมได้เห็นศักยภาพของจีนในอนาคตที่จะมีบทบาทในไทย หนังสือพิมพ์ People Daily จะตีพิมพ์ในไทย ทุกๆ เดือน คนไทยต้องรู้เรื่องเมืองจีนมากขึ้นรวมทั้งภาษาจีนด้วย
ดีใจที่มีส่วนร่วมเล็กๆ ทำให้ความสัมพันธ์ยั่งยืน
Local/Global ครับ
ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์
เลขาธิการมูลนิธิพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ระหว่างประเทศ
[email protected]
www.gotoknow.org/blog/chiraacademy
แฟกซ์ 0-2273-0181
บทความดีๆ สำหรับคนไทย
หวังว่าคงจะไม่เป็นแต่ทฤษฏีน่ะครับ
นำไปปฏิบัติและนำไปใช้อย่างจริงจัง