ใน Kidney International Supplements (2013) 2, 419–428; doi:10.1038/kisup.2012.77 ซึ่งเป็นวารสารของ the International Society of Nephrology ได้ออกคำแนะนำใหม่ล่าสุดที่น่าสนใจมากสำหรับโรคไตเรื้อรัง (Chronic kidney disease) โดยในระบบการแยกระดับของภาวะโรคไตใหม่นี้มีการใช้ทั้งค่า GFR (Glomerular Filtration Rate) และระดับ albumin ในปัสสาวะ เพื่อช่วยเพิ่มความแม่นยำในการประเมินภาวะของไต โดยค่า GFR นั้นใช้การตรวจเลือดมาคำนวณเพื่อดูการทำงานของไต ส่วนระดับอัลบูมินในปัสสาวะใช้เพื่อประเมินความเสียหายของไต ซึ่งการใช้ทั้งสองการทดสอบนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำนายโอกาสเสี่ยงต่อภาวะไตวายเรื้อรังและภาวะโรคหลอดเลือดหัวใจ ในคำแนะนำครั้งใหม่ล่าสุดนี้ยังมีคำแนะนำเพื่อช่วยแพทย์เรื่องความถี่ที่เหมาะสมในการตรวจติดตาม GFR และ อัลบูมินในปัสสาวะด้วย
เก็บมาฝากแพทย์บ้านเราที่ดูเหมือนจะต้องทำงานหนักในการดูแลคนไข้โรคไตไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าประเทศอื่นๆเลยนะคะ เอาไว้อัพเดตจากคำแนะนำที่สมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย ที่น่าจะมีอยู่แล้วด้วยนะคะ
คุณหมอป. กรุณาเอาฉบับ pdf มาฝากซึ่งมีทั้งหมด 150 หน้า มีรายละเอียดครบถ้วนว่าแนวทางคำแนะนำนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร อาจจะใช้เวลาอ่านสักหน่อย แต่เขาก็มีบทสรุปไว้ให้เลยเหมือนกันค่ะ มีแผนภาพที่ดูง่ายพอสมควรเลยขอตัดแปะมาฝากเลยเผื่อท่านที่ยังไม่มีเวลาอ่านฉบับเต็ม
มาสวัสดดีปีใหม่ครับ ท่านอาจารย์
เรื่องนี้ใกล้ตัว น่าสนใจเรียนรู้นะครับ
สวัสดีปีใหม่คะพี่โอ๋ ขออนุญาตนำ link pdf มาแปะเพิ่มเติมคะ
http://www.kdigo.org/clinical_practice_guidelines/pdf/CKD/KDIGO_2012_CKD_GL.pdf
ขอบคุณน้องหมอป.มากๆค่ะ ดีจังเลย
เอาแบบกดตามลิงค์ไปดูได้เลย ที่นี่ค่ะ