เป็นเรื่องยากมาก สำหรับการทำงานในเรื่อง ฟลูออไรด์ นี้ แต่ว่า หมอหวี่ ผู้เล่า ก็บอกว่า ในเรื่องนี้ก็มีเบื้องหลังการทำงานให้สำเร็จมากมาย คงต้องไปแคะเอาจากทีมทำงานกลุ่มนี้ต่อยอดเอาละค่ะ
ตรงนี้ก็เป็นข้อสรุปการเรียนรู้ของผู้เล่า ที่ได้บอกกล่าวไว้
- ในกระบวนการทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนถึงอาเซียน มีความรู้เกิดขึ้นเยอะจากการประชุมหลายครั้ง เพราะว่าเป็นการประชุม 2 ด้านที่จะต้องหาข้อสรุป ร่วมกับมีการสำรวจหลายครั้ง เพื่อเอาข้อมูลมาใช้ จึงมีการสะสมความรู้ขึ้นในเรื่องนี้
- การ ลปรร. เกิดขึ้น ทั้งผู้ผลิตก็มีความรู้เรื่องฟันตกกระ เพราะปกติเขาก็ไม่ได้ concern ในเรื่องนี้ มีการ ลปรร. เรื่องยาสีฟัน 1,500 ppm ทั้งข้อมูลที่เราหา ข้อมูลจากอาจารย์ต่างประเทศ ข้อมูลระบาดวิทยาของเราเอง ข้อมูลของอาเซี่ยน
- พฤติกรรมการใช้ยาสีฟันของคนไทย ก็เป็นสิ่งที่หามา support เรื่องนี้
- และเกิดการจุดประเด็นขึ้นในเรื่อง ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ ในเขตอาเซียน เพื่อการหารือ หรือตกลงกัน
ความรู้ที่เราเอามาใช้ในการดำเนินการเรื่อง ยาสีฟัน 1,500 ppm ก็มีหลายเรื่อง เพราะไม่ได้ใช้เรื่องของวิชาการฟลูออไรด์ หรือยาสีฟันอย่างเดียว ปัญหาเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่ยาสีฟันปริมาณฟลูออไรด์ 1,500 ppm แต่เป็นพฤติกรรมคนไทย ที่อาจจะบอกได้ว่า การใช้ฟลูออไรด์ ในปริมาณ 1,500 ppm ไม่เหมาะสมกับบริบทของคนไทย ... ทั้งในเรื่องสภาพภูมิศาสตร์ และพฤติกรรมดำเนินชีวิตของไทยไม่เหมือนประเทศในเขตตะวันตก หรือเขตสากล
ไม่มีความเห็น