โรคแพ้ละอองเกสร


ไม่เป็นพิษต่อมนุษย์หรือสิ่งมีชีวิต

โรคแพ้ละอองเกสร
โดยทั่วไปละอองเกสรที่ผึ้งงานเก็บเข้ารัง มาจากละอองเกสรสองชนิด คือละอองเกสรที่สามารถปลิวไปตามลมได้ แต่ถ้าไม่มีลมช่วยพัดพาไป ผึ้งก็สามารถลงตอมและเก็บเกสรได้เช่นกัน เช่น เกสรจากดอกข้าวโพด หรือดอกพืชตระกูลใบเลี้ยงเดี่ยว ใบเลี้ยงคู่บางชนิด และตระกูลสน อีกชนิดหนึ่งคือละอองเกสรที่ไม่สามารถปลิวไปตามลมได้ ต้องอาศัยแมลงช่วยผสมเกสร ได้แก่ ดอกไม้ผลเกือบทุกชนิด

ภาษาวิชาการเรียกดอกไม้พวกนี้ว่า เป็นพืชที่ต้องการแมลงผสมเกสร จัดเป็นเกสรที่มีคุณภาพต่อมนุษย์และผึ้ง โดยธรรมชาติของผึ้งงานมันรู้ว่าเกสรชนิดไหนที่มีคุณค่าแก่มัน แต่ถ้าเกสรขาดแคลนมันก็ไม่สามารถที่จะเลือกได้ จำเป็นต้องเก็บ

ปกติร่างกายมนุษย์มีการสร้างภูมิคุ้มกัน โดยสร้างสารต่อต้านหรือแอนตีบอดี ( antibody ) และปลดปล่อยสารที่เรียกว่า ฮีสตามีน ( histamine ) ซึ่งมีปริมาณไม่มากนัก แต่ถ้าสูดเอาละอองเกสรที่ปลิวมาตามลมเข้าไปมากๆ บางคนเกิดการแพ้ จะเกิดการปลดปล่อยฮีสตามีนออกมามาก

เมื่อสารนี้เข้าไปในจมูก ทำให้เกิดอาการแสบร้อน น้ำมูกไหล ระยะต่อมาเยื่อโพรงจมูกขยายและเกิดความดัน คัดจมูก ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ ไม่สบาย และในที่สุดไม่สามารถทำงานได้ บางคนจะเกิดอาการแพ้อย่างรุนแรง เรียกว่าเป็น โรค เฮย์ ฟีเวอร์ ( hay fever ) คือหายใจเอาละอองเกสรเข้าไป

โดยเฉพาะเกสรตระกูลหญ้า หรือเกิดเป็นโรคหอบหืด ในต่างประเทศ มีการพยากรณ์ปริมาณละอองเกสรที่ปลิวอยู่ในอากาศ ในแต่ละวันไว้ด้วย เพื่อจะได้ทราบว่า ควรจะเดินทางออกไปนอกบ้านหรือไม่
คงจะเป็นอย่างที่คนโบราณว่า หนามยอกให้เอาหนามบ่ง ผู้ที่เป็นโรคแพ้ละอองเกสรนั้น สามารถรักษาหรือบรรเทาอาการได้ โดยรับประทานเกสรผึ้ง

ความเป็นพิษของเกสรโดยทั่วไปละอองเกสร จะไม่เป็นพิษต่อมนุษย์หรือสิ่งมีชีวิต โดยเฉพาะเกสรที่ต้องอาศัยสิ่งมีชีวิตเป็นสื่อในการผสมเกสร มิฉะนั้นพืชชนิดนั้นจะต้องสูญพันธุ์แน่นอน เพราะเกสรและ/หรือน้ำต้อยที่มีอยู่ในดอกไม้นั้น คือสิ่งล่อให้แมลงผสมเกสรมาลงตอมดอก

ยมีรางวัลให้แก่แมลงผสมเกสร คือเกสรและน้ำต้อย มีดอกไม้บางชนิดเท่านั้น ที่ผึ้งงานเก็บมาเลี้ยงหนอนแล้ว ทำให้หนอนหรือตัวอ่อนของผึ้งมีการตายเกิดขึ้น เช่น เกสรจากดอกชา เป็นต้น ซึ่งชาโดยปรกติไม่มีอันตรายสำหรับมนุษย์ แต่มีสารที่อาจทำให้ตัวอ่อนผึ้งอ่อนแอหรือตายได้


ความสำคัญทางเศรษฐกิจ
เกสรจัดเป็นทรัพยากรทางธรรมชาติ ที่มนุษย์สามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ได้ โดยมิได้ทำลายให้เกิดความเสียหายแก่ต้นพืชแต่อย่างใดเลย และพืชก็สามารถผลิดอกใหม่ สร้างเกสรใหม่ทดแทนได้ แต่ถ้าเราไม่เก็บเกี่ยว เกสรก็จะสูญเปล่าไป

เกสรสามารถทำเงินให้แก่ผู้เลี้ยงผึ้ง เท่ากับเป็นการช่วยให้ประเทศมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น มีประโยชน์อย่างยิ่ง การเก็บเกสรมีต้นทุนที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับการผลิตสินค้าอุตสาหกรรม ที่ต้นทุนสูงและมีการนำเข้าวัตถุดิบที่นำมาผลิต

คำสำคัญ (Tags): #apiculture
หมายเลขบันทึก: 51386เขียนเมื่อ 23 กันยายน 2006 10:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 15:15 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท