โลกแตก
ความหวาดวิตกเรื่องโลกจะแตกนี้ แพร่ระบาดไปทั่วโลก โดยมีที่มาจากการสิ้นสุดของปฏิทินชาวมายาในวันนั้น ประกอบกับทฤษฎีทางฟิสิกส์ ดาราศาสตร์ และคำทำนายทายทักต่างๆ ซึ่งล้วนแต่เลวร้ายรุนแรงที่บังเอิญมาประจวบกันเข้าอย่างพอเหมาะพอเจาะ ทำให้ผู้คนจำนวนมากอกสั่นขวัญแขวน และบางคนถึงกับเตรียมตัวรับสถานการณ์ดังกล่าว ด้วยการสะสมอาหารและน้ำดื่ม สร้างที่หลบภัย หรือทำอะไรที่คิดว่าจะทำให้ตัวเองมีความปลอดภัยจากเหตุการณ์วันสิ้นโลก
มีหลายคนบอกว่าวันโลกแตกยังไม่น่ากลัวเท่ากับการมีชีวิตอยู่รอดเพียงลำพัง โดยไม่มีสมาชิกในครอบครัว ญาติพี่น้อง มิตรสหาย หลงเหลืออยู่ และไม่ทราบว่าจะต้องเผชิญกับอะไรบ้าง ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องน่ากลัวกว่าการสิ้นไปพร้อมกับโลกเสียอีก อันนี้เป็นเรื่องที่น่าคิดอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะสำหรับคนที่มีชีวิตสมัยใหม่ในเมืองใหญ่ ที่ไม่ค่อยมีโอกาสสัมผัสดิน สัมผัสทราย หรือเรียนรู้การปลูกผัก จับปลา ล่าสัตว์ รวมถึงการมีชีวิตอยู่ในสถานการณ์คับขัน ซึ่งเรื่องแบบนี้จำเป็นที่จะต้องมีการสอนและการฝึกฝนล่วงหน้า
ขณะเดียวกันหน่วยงานของรัฐก็จะต้องมีแผนการว่าจะต้องทำอย่างไรอย่างเป็นขั้นเป็นตอน อย่างน้อยที่สุดก็ควรจะต้องมีสถานที่ที่คิดว่ามีความปลอดภัยไว้รองรับคนจำนวนหนึ่ง พาหนะและเส้นทางที่จะไปสู่จุดนั้น อาหาร น้ำและยาสามัญที่จำเป็น เป็นต้น
ความเห็น (8)
สวัสดีปีใหม่ ครับ อาจารย์ rittichai
- สวัสดีปีใหม่ 2556 ครับ...ขอให้ท่านอาจารย์และครอบครัว มีความสุข ความสมหวังตลอดปีและตลอดไปครับ
สวัสดีครับ 
สามสัก(samsuk)
|
แสงแห่งความดี
|
ปีใหม่นี้ขอให้ครอบครัว มีความสุข ความสมหวังตลอดปีและตลอดไปครับ
สวัสดีปีใหม่ ในบทความนี้อีกครั้ง
วันโลกแตกที่ผ่านมา มีหลายคน หลายกลุ่ม พากัน "หน้าแตก" ทั้งโลกเลยค่ะ สมแล้วที่เป็นวัน "โลกแตก"
เห็นด้วยครับ หน้าแตกมากกว่าโลกแตก เพราะผู้พูดไม่สนใจหลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา
พระพุทธองค์ได้ทรงตรัสกับพระอานนท์ว่า “....เมื่อศาสนาตถาคตล่วงเลยไปถึงกึ่งพุทธกาล สัตว์โลกทั้งหลายที่เกิดในยุคนั้น จะพบกับความลำบากทุกชาติทุกศาสนา ตามธรรมชาติอันหมุนเวียนของโลก ที่หมุนเวียนไปใกล้ความแตกทำลาย แผ่นดินแผ่นน้ำจะลุกเป็นไฟ มนุษย์และสัตว์จะได้รับภัยพิบัติสารพัดทั่วทิศ คนในสมัยนั้น(ปัจจุบัน) จะมีวิสัยโหดดุจกำเนิดจากสัตว์ป่าอำมหิต จะรบราฆ่าฟันกันถึงเลือดนองแผ่นดินแผ่นน้ำ ส่วนเวไนยสัตว์ผู้ขวนขวายในกุศลตามวัจนะของตถาคต ก็จะระงับร้อนไม่รุนแรง บ้านเมืองใดมีความเคารพยำเกรงในพระรัตนตรัย และคุณบิดามารดา เหตุร้ายภัยพิบัติจักเบาบาง แต่ก็จะหนีกฎธรรมชาติไม่พ้น...ในระยะนั้นศาสนาของตถาคตเสื่อมลงมาก เพราะพุทธบริษัทไม่ตั้งอยู่ในศีลธรรม เชื่อคำของคนโกง กล่าวคำเท็จ ไม่เคารพหลักธรรมนิยม คนประจบสอพลอได้รับการเชื่อถือในสังคม ผู้มีศีลธรรมประพฤติชอบ กลับไม่มีคนเคารพยำเกรง พระธรรมจะเริ่มเปล่งแสงรัศ มีฉายส่องโลกอีกวาระหนึ่ง
ขอส่งความสุขและความปรารถนาดีทุกประการตลอดปี2556 และตลอดไปค่ะ..
คิดว่าโลกน่าจะแตกช้า กว่าคนกลัว ที่กลับจะ "สติแตก" เร็วมากกว่า...ค่ะ