เคล็ดลับสุขภาพ อาหารเป็นยา


"ความไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ" ถือว่าเป็นคำกล่าวที่ถูกต้องเสมอ เพราะตราบใดที่เรามีโรคภัยมากล้ำกลาย
ก็จะเกิดความลำบากทั้งร่างกายและจิตใจ ทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดน้อยถอยลงไป
เพราะฉะนั้นควรกันไว้ดีกว่าแก้

หนังสือเล่มนี้จึงเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่รักสุขภาพและใส่ใจสุขภาพร่างกายของตนเอง ถ้าเราเลือกกินให้เป็น
ให้ถูกต้องกับความต้องการของร่างกายก็จะทำให้ปลอดโรคภัยที่จะมาเบียดเบียนตัวคุณและเงินในกระเป๋าที่คุณจะต้องเสียไปกับการใช้จ่ายในการรักษาโรคอีกด้วย

หนังสือเล่มนี้ช่วยให้เรารู้ว่าสารอาหารที่ได้รับจากอาหารที่เรากินมีอะไรบ้าง ยกตัวอย่างเช่น

มะเขือเทศ

          ในผลมะเขือเทศมีสารจำพวกแคโรทีนอยด์ ชื่อไลโคพีน (Lycopene) ซึ่งเป็นสารสีแดง และวิตามินหลายชนิด เช่น วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินเค โดยเฉพาะวิตามินเอ และวิตามินซี มีในปริมาณสูง มีกลดมาลิค กรดซิตริก ซึ่งให้รสเปรี้ยว และมีกลูตามิค (Glutamic) ซึ่งเป็นกรดอะมิโนช่วยเพิ่มรสชาติให้อาหาร นอกจากนี้ยังประกอบด้วยสารเบต้าแคโรทีน และแร่ธาตุหลายชนิด เช่น แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก เป็นต้น

ประโยชน์ของมะเขือเทศ

          ผลมีรสเปรี้ยวช่วยดับกระหาย ทำให้เจริญอาหาร บำรุงและกระตุ้นกระเพาะอาหาร ลำไส้ ไต ให้ทำงานได้ดี ช่วยขับพิษและสิ่งคั่งค้างในร่างกาย เนื่องจากเป็นยาระบายอ่อน ๆ เหมาะที่จะเป็นอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคนิ่ว วัณโรค ไทฟอยด์ หูอักเสบและเยื่อตาอักเสบ ให้รับประทานผลสดลดอัตราการเกิดโรคมะเร็งในลำไส้ และมะเร็งต่อมลูกหมาก

          ผิวหนังที่โดนแดดเผา สามารถใช้ใบของมะเขือเทศนำมาตำให้ละเอียดแล้วทาบริเวณที่เป็นนำราก ลำต้น และใบแก่ต้มกับน้ำรับประทานแก้อาการปวดฟัน

          นำน้ำมะเขือเทศพอกหน้า หรือผลมะเขือเทศสุกฝานบาง ๆ แปะบนใบหน้า จะช่วยให้ผิวหน้าอ่อนนุ่มรักษาสิว สมานผิวหน้าให้เต่งตึง

          การรับประทานมะเขือเทศสุกเป็นประจำจะช่วยลดการแข็งตัวของผนังหลอดเลือด รักษาโรคลักปิดลักเปิด เลือดออกตามไรฟัน ช่วยบำรุงสายตา และช่วยย่อยอาหาร ลดความดันโลหิต และช่วยบรรเทาอาการป่วยของผู้ป่วยเป็นโรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง และโรคตับอักเสบ

          คั้นน้ำมะเขือเทศสุกหรือปั่น ดื่มรับประทาน ลดอาการท้องอืดเฟ้อ และอาหารไม่ย่อย ช่วยดับกระหายคลายร้อน และช่วยรักษาโรคแผลร้อนใน

คำสำคัญ (Tags): #อาหารเป็นยา
หมายเลขบันทึก: 513795เขียนเมื่อ 22 ธันวาคม 2012 20:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 ธันวาคม 2012 20:22 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท