ชั้นหนังสือของลูก
รบเร้าไปเซ็นทรัลเพื่อจะไปร้านนายอินทร์เพื่อที่จะไปซื้อหนังสือ
พอดีมีลูกที่ชอบอ่านหนังสือมาก ลูกอายุประมาณ 4 ขวบครึ่ง แต่อาม่าไม่อยากให้ซื้อหนังสือแล้วเพราะหนังสือล้นชั้นวางหนังสือ แต่ลูกก็ยังชอบซื้อหนังสือและอยากอ่านหนังสือเยอะ เพื่อนคนหนึ่งได้ถามว่าทำอย่างไรลูกจึงชอบอ่านหนังสือ แล้วเคยเข้าร้านนวดเพื่อสุขภาพ แล้วหมอนวดก็เคยถามว่าเลี้ยงลูกอย่างไรลูกจึงฉลาด (สงสัยเขาคิดว่าลูกฉลาดจากการที่ลูกคุยและถามตลอดเวลาตั้งแต่เข้าร้านจนกระทั่งออกร้าน) ก็จึงถือโอกาสเขียนบันทึกนี้เผื่อจะเป็นประโยชน์แก่พ่อแม่ทุกคนที่อยากมีลูกที่รักการอ่าน และตนเองก็อยากเห็นสังคมไทยเป็นสังคมที่คนจำนวนมากขึ้นรักการอ่าน ซึ่งก็คงต้องปลูกฝังตั้งแต่เขายังเล็ก
เริ่มอ่านหนังสือและพูดคุยกับเขาตั้งแต่เขาอยู่ในท้อง แต่ไม่มากเท่าไหร่ พอเขาเกิดมา เหนื่อยมาก เพราะตั้งใจจะให้นมแม่ล้วนกับลูก ไม่อยากให้เขากินนมผง เพราะถ้าเขากินนมผง เขาก็จะไม่กินนมแม่ ช่วง 3-4 เดือนแรกจึงยุ่งมาก เหนื่อยมาก เพลียมาก ไม่ได้อ่านหนังสือให้ลูก พอเขาอายุเริ่ม 4 เดือน พอมีเวลา ก็จะอ่านหนังสือให้เขาฟังประจำทุกวัน
เวลาไปเที่ยวไหน เดินทางไปไหน ก็มักจะพาหนังสือให้เขาเอาไปอ่านด้วย ถ้าลูกเห็นพ่อแม่ทำอะไร ลูกก็มักจะทำตาม ทั้งตัวเองและพ่อของลูกต่างก็ชอบอ่านหนังสือและมักจะอ่านหนังสือให้ลูกเห็น แต่ตัวเองก็ชอบเล่นอุปกรณ์โมบาย ระยะหลังจึงพยายามเล่นอุปกรณ์โมบายน้อยลงเมื่ออยู่กับลูก เพราะเมื่อแม่เล่น iPhone หรือ คอมพิวเตอร์ ลูกก็จะถามหา iPad ในช่วง 2 ขวบแรก ไม่ได้ให้ลูกดูทีวี หรือเล่นอุปกรณ์โมบาย ตอนนี้เขาอายุ 4 ขวบก็ให้เล่นบ้าง พยายามไม่ให้เล่นเกิน 2 ชั่วโมงต่อวัน การเล่นอุปกรณ์โมบายเกี่ยวกับการอ่านหนังสือ เพราะถ้าเขาเล่น iPad มาก เขาก็อ่านหนังสือน้อยลง การดูทีวีก็เกี่ยวกับการอ่านหนังสือ เพราะถ้าเขาดูทีวีมาก เขาก็อ่านหนังสือน้อยลง เวลาเด็กมีอยู่จำกัด เราต้องพยายามเลือกสรรกิจกรรมที่เป็นประโยชน์กับเขา แต่ก็ให้สิทธิ์เขาที่จะเลือกทำอะไร กิจกรรมที่คิดว่าเป็นประโยชน์กับเด็กมากคือ การอ่านหนังสือ การวาดรูป การฟังหรือเล่นดนตรี การเล่นกีฬา การเดินเล่นและใช้เวลาในสวนสาธารณะ การไปวัด เป็นต้น
เพื่อนถามว่าคัดหนังสืออย่างไร ถ้าเป็นเด็กเล็กมาก บางทีเขาจะฉีกหนังสือหรือทำหนังสือขาด จึงควรเลือกหนังสือที่เป็นพลาสติกหรือฉีกยาก ตัวหนังสือควรจะโตพอ และมีรูปที่มีสีสรรสดใส พอเขาอายุ 4 ขวบก็พาเขาเข้าร้านหนังสือบ่อยๆ เขาก็จะเลือกหนังสือที่เขาสนใจจะอ่านเอง จะพยายามอ่านหนังสือให้เขาก่อนนอนทุกคืน เขาก็จะรู้สึกว่าเป็นเวลาทีเขาจะอ่านหนังสือ บางทีตัวเองรู้สึกเพลียมาก บอกให้เขานอนเลย เขาจะไม่ยอม เขาจะบอกว่ายังไม่ได้อ่านหนังสือเลย ซึ่งการจัดสรรเวลาแบบนี้ ก็ทำให้ลูกติดนิสัยอ่านหนังสือก่อนนอน
ยอดเยี่ยมเลยค่ะ ไม่ยากเลยที่คุณพ่อคุณแม่ที่อยากให้ลูกรักการอ่านจะนำไปปรับใช้ ที่สำคัญคือ ทุกคนที่ถามนี่แหละที่ตัวเองก็ไม่ค่อยอ่านนะคะ แต่อยากให้ลูกรักการอ่าน พี่โอ๋ยังไม่เห็นบ้านไหนที่พ่อแม่ชอบอ่านหนังสือแล้วลูกไม่ชอบอ่านเลยนะคะ ต้องบอกพ่อแม่ทั้งหลายให้เริ่มปรับนิสัยตัวเองด้วยเนาะ
ตอนลูกพี่เล็กจะมีหนังสือมากมาย สีสรรสวยงาม หนังสือนิทาน แม่ก็จะเล่าให้ฟังก่อนนอนทุกคืน จนเธอจำได้ ช่วงหลังลูกจะเล่าให้แม่ฟังบ้าง ตอนนี้โตแล้ว ลูกยังชอบอ่านหนังสือค่ะ
ส่วนของผมนั้น เมื่อลูกได้ซักขวบกว่าๆ เกือบสองขวบ แฟนผมเค้าจะอ่านนิทานก่อนนอนให้ลูกฟังประจำทุกวัน (อดทนและน่ายกย่องเป็นอย่างมาก) จนลูกติด วันไหนไม่อ่านก็จะทวงแม่ ทวงแล้วทวงอีก จนสุดท้ายลูกเค้าทนไม่ไหวเลยต้องเปิดดูรูปภาพนิทานเอง เลยมีการพัฒนาไปจนถึงการเริ่มอ่าน อ่าน แล้วก็อ่านไปเรื่อยๆ ตอนนี้ลูกผมโตแล้ว อ่านนิทานเด็กไม่รู้กี่ร้อยเล่ม แฮรี่พอร์ตเตอร์อ่านทุกภาคๆ ละหลายๆรอบ ร้านนายอินทร์ไม่ต้องห่วง อยู่ยาว อ่านหมดทั้งร้าน เกรงใจร้านมากๆ แต่ลูกบอกว่าเค้าก็อ่านกันทั้งนั้น เลยสังเกตเห็นว่าเด็กสมัยนี้อ่านเก่งกว่ารุ่นเราเป็นไหนๆ ลูกผมชายหญิง เรียกเก่งทั้งคู่เพราะอ่านเก่ง เลยจำเก่ง คนโตเอ็นหมอได้ คนเล็ก ม.4 สรุปว่าต้องอ่านนิทานให้ลูกก่อนนอนบ่อยๆ ถ้าเป็นไปได้ทุกคืน ต้องอดทนนะครับ เรื่องนี้ผมยกความดีให้ภรรยาผมที่มีความอดทนเป็นอย่างมาก แล้วผลลัพธ์ที่ได้จะคุ้มค่ามากครับ
ลูก ป1 แล้ว กลับไปอ่านหนังสือไม่คล่อง ไม่เหมือนตอน อนุบาล อ่านคล่องกว่านี้ กลุ้มใจมาก