เปลี่ยนความคิดชีวิตเปลี่ยน


เปลี่ยนความคิดชีวิตเปลี่ยน

ฉันเป็นคน หนึ่งที่มีความเชื่อว่าไม่มีอะไรจะมาทำร้ายเราได้มากเท่ากับความคิด เพราะความคิดจะติดตามเราไปทุกหนทุกแห่ง จึงนับได้ว่าความคิดจะใกล้ชิดสนิทสนมกับเรามากยิ่งกว่าเงาเสียอีก ไม่มีวันไหนที่เราจะไม่คิด  แม้แต่ยามค่ำคืนในเดือนที่มืดมิด ความคิดก็ไม่ได้จางหายไปไหนเลย  ถึงตาจะมองไม่เห็น หูจะไม่ได้ยิน จมูกไม่ได้กลิ่น กายไม่ได้สัมผัส แต่ความคิดยังคอยช่วยเราคาดเดาอยู่เสมอ

  ความคิดนั้นแม้เราจะปรุงแต่งมันขึ้นมาเองก็จริงอยู่ แต่แล้วเราก็กลับพาตัวเองเข้าไปอยู่ในอำนาจของมันทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่าความคิดนั้นเราทุกข์ได้ไม่น้อยเลย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะต้องคอยพึ่งพามัน ต้องอาศัยความคิดมาช่วยกำกับ เห็นด้วยตาได้ยินด้วยหูแล้วก็ยังไม่พอยังไม่แน่ใจต้องเอาความคิดมาสำรวจตรวจ สอบอีกที และมันก็เป็นอยู่แบบนี้เสมอ กับความคิดที่อยู่ติดตัวเราทุกคน ส่วนจะคิดมากคิดน้อยก็ขึ้นอยู่แต่ละบุคคลที่ต้องคิด  ความคิดนั้นมีคุณอย่างไรเห็นได้ไม่ยากนัก แต่ขณะเดียวกันมันก็มีโทษด้วย และโทษของความคิดเกิดขึ้นได้ สาเหตุสำคัญเพราะเราคิดมากเกินไป  การคิดในทุกเรื่องนั้นยังพอทำเนา แต่การคิดในทุกที่ทุกเวลานั้นสิที่เป็นตัวปัญหา

  เรามักไม่ตระหนักว่าการคิดเรื่อยเปื่อยนั้นเป็นการสร้างอำนาจทางความคิดใน ทางที่ผิด ยิ่งปล่อยใจไปตามความคิดมากเท่าไร ความคิดนั้นก็ยิ่งเติบใหญ่มีพลังมากขึ้นเท่านั้น จนในที่สุดเราควบคุมมันไม่อยู่  คิด ๆ คิด ๆ จนกลายเป็นฟุ้งซ่าน วิตกกังวลจนในที่สุดขาดสติไปก็มี เพราะว่าความคิดของตัวเราเองที่ไปกังวลสงสัยและเฝ้าครุ่นคิดจนสิ่งนั้นกลับ มากดดันทำให้ใจเราเป็นทุกข์

  ยกตัวอย่างเช่น บางครั้งความรักของเราอาจจะดีอยู่แล้ว แต่ด้วยความคิดของเราที่เฝ้าตั้งคำถาม สงสัยหวาดระแวง ครุ่นคิดจนวิตกกังวลและในที่สุดมันก็กลายเป็นปัญหา  เราน่าจะผ่อนคลายปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติอย่างที่มันจะเป็น อย่าฝืน ไม่ต้องเฝ้าตั้งคำถามสงสัยหรือเฝ้าคิดให้มันกลายเป็นปัญหาขึ้นมา

  ถ้าเราเอาแต่คิดจิตก็เหนื่อย แต่เมื่อหยุดคิดจิตก็ได้พักผ่อนและพร้อมที่จะคิดได้อย่าเต็มที่  ความคิดของคนเรานั้นมีอยู่สองรูปแบบคือการคิดในแง่บวกกับการคิดในแง่ลบ เมื่อใดก็ตามที่เราเผชิญหน้าอยู่กับความคิดในแง่ลบชีวิตเราจะตกอยู่ในห้วง แห่งทุกข์ ดังนั้นวิธีการหลุดพ้นจากความคิดที่เป็นทุกข์ ก็คือการเปลี่ยนแปลงความคิดใหม่ในแง่บวกนั้นเองเพราะการคิดในแง่บวกทำให้เรา มีความสุขมากกว่าความทุกข์

  ดังนั้นคนเราสุขทุกข์อยู่ที่ใจ อยู่ที่วิธีคิด การเปลี่ยนแปลงความคิดจะทำให้ชีวิตเราเปลี่ยนแปลง  หยุดคิดในแง่ลบให้คิดในแง่บวกจงคิดอย่างสร้างสรรค์  วิลเลี่ยม  เจมส์ กล่าวไว้ว่า  การค้นพบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษย์ในยุคผมก็คือการที่มนุษย์สามารถเปลี่ยน แปลงชีวิตได้ด้วยการปรับเปลี่ยนทัศนคติของตนเอง กล่าวคือการที่เราสามารถเปลี่ยนแปลงความคิดของเราได้นั้นเอง เปลี่ยนจากร้ายกลายเป็นดี เปลี่ยนจากโกรธกลายเป็นไม่โกรธ เปลี่ยนความเกลียดมาเป็นความชอบ เปลี่ยนจากความไม่พอใจให้มาเป็นยินดี เปลี่ยนความแค้นให้มาเป็นความรัก ฯลฯ เปลี่ยนทุกอย่างให้มันดีขึ้นด้วยความคิดของเราเอง กำจัดความคิดในแง่ลบออกไปแล้วคิดใหม่ในทางบวกกับทุกเรื่องในชีวิต

  ชีวิตนี้สามารถเป็นสุขได้ในทุกขณะ  โดยไม่ต้องรอให้รวยหรือมีโชคเสียก่อน เพราะความสุขที่แท้จริงนั้นอยู่ที่ใจของเรานี้เอง หากรู้จักมองในทางบวกคิดในทางบวก พอใจในสิ่งที่มี ปล่อยวางอารมณ์ที่หมักหมม  และคลายความยึดติดในตัวตน ชีวิตก็จะเบาสบายและเป็นสุข  แม้ประสบกับความผันผวนปรวนแปรของชีวิต ความพลัดพรากสูญเสีย ขงจื๊อ กล่าวไว้แล้วว่ามนุษย์มีทั้งดีใจเสียใจสมหวังผิดหวังสุขทุกข์เป็นของคู่กัน ที่มนุษย์จะต้องพบเจอก็เท่านี้เองชีวิต ดั้งนั้นเราอย่าไปยึดติดกับสรรพสิ่งในชีวิตนั้นแหละดีที่สุด

  ชีวิตนี้เป็นสิ่งที่เราสามารถเปลี่ยนแปลงไปได้ทุกขณะโดยไม่ต้องรอเทศกาลปี ใหม่ หรือรอให้ใครเปลี่ยนแปลงเสียก่อน สิ่งสำคัญอยู่ที่การเปลี่ยนแปลงตนเอง  เปลี่ยนแปลงตนเองอย่างไร ก็เริ่มจากการเปลี่ยนมุมมอง เปลี่ยนวิธีคิด และสร้างคุณภาพใหม่ให้แก่จิตใจ เพื่อให้ตื่นรู้และเท่าทันความเป็นจริงของชีวิต เปลี่ยนชีวิตให้ได้รับแต่สิ่งดี ๆ ต้องเปลี่ยนที่วิธีคิด  เพื่อสร้างความตื่นรู้และเท่าทันความเป็นจริงของชีวิต พร้อมกับมีน้ำใจเกื้อกูลผู้อื่น หากทำได้เช่นนี้ ชีวิตจะไม่มีวันตกต่ำและทุกข์ภัยใด ๆ ก็ไม่อาจแผ้วพานได้ 

  ยามใดที่รู้ท้อแท้ สิ้นหวังกำลังใจ จงเริ่มต้นชีวิตใหม่โดยการเปลี่ยนแปลง Change เชื่อเถอะแล้วชีวิตคุณจะดีขึ้นขอเพียงไม่อ่อนแอแต่เข้มแข็ง  รู้จักปรับตัวปรับใจ เปลี่ยนวิธีคิดเสียใหม่ ย่อมจะพบหนทางอันสว่างไสว ทำให้ก้าวเดินไปสู่เป้าหมายชีวิตที่ดีกว่าได้อย่างแน่นอน ชีวิตคนเราเมื่อมันถึงจุดจุดหนึ่งมันก็จะเปลี่ยนไปสู่อีกจุดหนึ่งเสมอ ดูเหมือนอาจจะลี้ลับซ่อนเร้นอะไรบางอย่างลึก ๆ ลงไปที่อยู่เหนือการควบคุมเสมอที่ทำให้เราต้องเปลี่ยน เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วว่าต้องเปลี่ยนแล้วทำไมเราไม่ฝึกที่จะเรียนรู้ที่จะ อยู่กับการเปลี่ยน ไม่ต้องกลัวกับการเปลี่ยนอีกต่อไป อยู่ให้มันมีความสุขกับชีวิตที่ได้ผ่านการเปลี่ยน เพราะทุกการเปลี่ยนแปลงย่อมมีอีกสิ่งหนึ่งสิ่งใดเข้ามาแทนที่เสมอของการ เปลี่ยนแปลงนั้น ๆ เมื่อมันเปลี่ยนและเปลี่ยนจงเปลี่ยนเสีย

 

คำสำคัญ (Tags): #เปลี่ยนความคิด
หมายเลขบันทึก: 511448เขียนเมื่อ 9 ธันวาคม 2012 20:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 9 ธันวาคม 2012 21:17 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ชอบการเขียนแนวนี้มากนะคะพี่มณีเทวาเป็นกำลังใจให้นะคะ รับไปเลยค่ะดอกไม้สวยๆๆอิอิ...


คนเรามักจะทุกข์เพราะความคิดนะคะ คิดแล้วคิดอีกคิดจนวกวน นะคะ ขอบคุณแนวคิดที่ดีๆๆนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท