ประกาย~natachoei ที่~natadee
นาง ประกาย ประกาย~natachoei ที่~natadee พิทักษ์

บันทึกถึงพ่อจ๋า


วันนี้ไม่มีพ่ออยู่กับลูกสาวของพ่อแล้ว พ่อจะอยู่ในใจของลูกเสมอ ลูกจะทำตามที่พ่อได้ขอสัญญาไว้ตลอดไป และเรื่องราวของพ่อจะเป็นพื้นที่ความสุขของลูกหลาน ให้ลูกได้ระลึกถึงพ่อเสมอ ลูกสาวของพ่อจะนำเรื่องราวของพ่อมาเล่าและแบ่งปัน เรื่องราวดี ๆ ที่พ่อได้ทำไว้สมัยที่ยังเป็นหนุ่ม ลูกอยากบอกว่ารักพ่อมากที่สุด

 พ่อจ๋า วันนี้ลูกคิดถึงพ่อมากๆ พ่อจากลูกไปจะครบ 2 ปี แล้ว ทุกวันเป็นวันพ่อของลูกเสมอ   

         พ่ออยู่ในใจของลูกสาวของพ่อตลอดมา  พ่อบอกว่าพ่อมีลูกสาวอยู่สามสีี่คน  ทุกคนไม่ใช่ลูกที่พ่อให้กำเนิดมา แต่ลูกทุกคนพ่อให้ชีวิตใหม่กับลูก ถ้าไม่มีพ่อให้ชีวิตใหม่กับลูก ลูกก็ยังคิดไม่ออกว่าตอนนี้ลูกจะเป็นอย่างไร ลูกจะทำงานอะไร จะใช้ชีวิตอยู่แบบไหน หรือกำลังเป็นชาวนา เป็นแม่ค้า เป็นกรรมกรก่อสร้าง หรือชาวไร่อ้อย หรือไม่มีอาชีพเลยก็ได้ ไม่ได้เรียนหนังสือ ไม่ได้มีหน้าที่การงานที่ดี  พ่อของลูกชื่อว่า พ่อชาย  

          ลูกสาวคนที่ 1 ของพ่อ   คือผู้เขียนที่กำลังเล่าเรื่องราวของพ่อในบันทึกนี้  

          น้าหนั่น  ผ่องพรรณ ลูกสาวคนที่ 2 ของพ่อ  เป็นลูกน้าชาย น้องของแม่เงิน  พ่อรับน้องมาอยู่ด้วยเนื่องจากน้องเป็นโปลิโอ ตอนน้องอายุ ประมาณ 4 ขวบ   พ่อไม่ได้จดทะเบียนรับเป็นบุตร เพราะว่าเหตุผลพ่ออยากให้น้องมีพ่อแม่ทั้งสองคน การรับมรดก น้องจะได้มรกดกจากพ่อแม่ที่แท้จริงได้ ตอนนี้เปลี่ยนชื่อใหม่แล้ว น้องทำงานเป็นครูโรงเรียนเอกชน  น้องคนนี้ก็อยู่กับพ่อและแม่จนโต พ่อรับผิดชอบการเรียนของน้อง พาน้องไปทำกายภาพบำบัด พาน้องไปกรุงเทพตัดรองเท้าพิเศษใส่ ที่เป็นหล็กดามสำหรับการเดิน จนน้องโตเป็นสาว  ผู้เขียนไปเรียนต่อหลักสูตรผู้ช่วยพยาบาล  น้องเรียนชั้นประถม พ่่อก็จ้างรถสามถีบไปส่งน้องที่โรงเรียน พอน้องสอบได้เข้าไปเรียนโรงเรียนมัธยมสาธิตศึกษาศาสตร์  ซึ่งบ้านน้าชาย พ่อแม่ของน้อง ไปเรียนลำบาก พ่อก็จ้างรถสามล้อไปส่งทุกวัน  น้องสอบเข้าเรียนได้ที่คณะมนุษยศาสตร์ สาขาบรรณารักษ์ น้องก็มาอยู่กับพี่สาวที่บ้านพักในมหาวิทยาลัยขอนแก่น รับผิดชอบเรื่องอาหารการกิน ค่าใช้จ่ายบางส่วน เวลาที่จะไปเรียน  พี่สาว พี่เขย ให้นั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์ไปส่งเรียนที่คณะ  เราสนิทกันมาก 

         หนูน้อย  รพีภรณ์ ลูกสาวพ่อคนที่ 3 ลูกของหลานสาวแม่เงิน  พี่เพ็ญ หอบลูกมาจากกรุงเทพ อายุ 2 เดือน มาที่บ้าน มาอยู่ด้วย ตอนนั้นผู้เขียนทำงานได้ปีกว่าๆ เกือบจะครบสองปีแล้ว และกำลังจะแต่งงาน พ่อเห็นหลานตาดำ ๆ ตากลมโต ตัวขาว ๆ พ่อตัดสินใจรับไว้และเลี้ยงหลานตัวเล็ก ๆ ด้วยตนเอง ตั้งชื่อว่าหนูน้อย  หนูน้อยจะเรียกผู้เขียนบันทึกว่า คุณแม่ เรียกคุณสามีว่า ปะป๋า  เราก็ช่วยกันเลี้ยงหลานหาเงินซื้อนมผงสำหรับเด็ก เลี้ยงกันมาจนโต เรียนหนังสือ พี่เพ็ญก็มาสมัครทำงานที่โรงพยาบาล  หนูน้อยพ่อจะรักมาก เพราะว่าอยู่กับพ่อ ดูแลพ่อ คุยกับพ่อ อ้อนพ่อเก่งกว่าคนอื่น ๆ 

          น้องหนึ่ง เฉลิมพร ลูกสาวคนที่ 4 ของพ่อคือน้องหนึ่ง ที่เป็นลูกติดมากับภรรยาใหม่ของพ่อ น้องหนึ่งมาอยู่กับพ่อตอนเป็นเด็กประถม ชั้น ป5 หรือ 6 จำไม่ได้แน่ชัด  คนนี้พ่อก็ส่งให้เรียนจนจบ  โดยขอทุนการศึกษาให้ และค่าใช้จ่ายบางส่วนก็ขอจากผู้เขียน  น้องหนึ่งเรียนกายภาพบำบัด น้องเรียนเก่ง และขอทุนของคณะ กู้ยืมเงินกองทุนเรียนต่อ จนจบปริญญาตรี ได้เกียรตินิยมอันดับ 2 พ่อหางานให้ทำ อยู่ระยะหนึ่ง หลังจากนั้นก็มาเป็นนักกายภาพที่โรงพยาบาลเดียวกับพี่สาว แต่ก็อยู่ได้ไม่นาน ไม่ได้รับการบรรจุ  ทำงาน 2ปี ยังเป็นลูกจ้างชั่วคราว ก็เลยตัดสินใจไปทำงานโรงพยาบาลเอกชน  

         น้องหนึ่งลูกสาวคนที่ 4 ของพ่อ เป็นคนสร้างบ้านให้พ่อได้อยู่บ้านหลังใหม่ น้องกู้ธนาคาร สร้างบ้านในที่ดินของผู้เขียนที่พ่อยกให้ แล้วผู้เขียนโอนคืนให้พ่อ  เพราะว่าพ่อยกที่ดินอีกแปลงให้  พ่อจะยกที่ดินให้น้องหนึ่งไม่ได้ ซึ่งตามกฎหมายจะโอนเป็นรับมรดก หรือให้โดยเสน่ห์หาไม่ได้ ต้องใช้วิธีขายให้น้อง  โดยที่ไม่ต้องรับเงินจากน้องสักบาท ให้น้องหนึ่งเป็นคนออกค่าใช้จ่าย ค่าธรรมเนียมการโอนเอง คือยกให้ฟรี ๆ เพื่อจะได้สร้างบ้าน มีบ้านใหม่อยู่   พ่อก็มองการณ์ไกล ถ้าไม่ทำแบบนี้ ภรรยาพ่อ ก็จะไม่มีบ้านใหม่อยู่ พ่อก็จะไม่ได้อยู่บ้านใหม่ พ่อก็จะอยู่บ้านห้องแถวไม้  ตอนที่ผู้เขียนสร้างบ้านใหม่ ทำห้องให้พ่อมาอยู่ด้วย พ่อบอกว่าพ่อมีครอบครัวใหม่ของพ่อแล้ว มาอยู่กับลูกไม่ได้หรอก  พ่ออยู่บ้านของพ่อที่ปลูกในที่ดินที่ยกให้ลูกสาวคนโตตั้งแต่ตอนที่แม่ยังไม่ตาย  พ่อก็เลยไม่มีที่ดินเป็นของพ่อ  ลูกสาวก็โอนคืนให้พ่อตอนที่พ่อแต่งงานใหม่ได้ประมาณ 10 ปี คนที่ที่ดินถามว่าลูกสาวพ่อทำไมโง่จัง    โอนที่ดินคืนให้พ่อเพื่อที่จะให้พ่อยกให้ภรรยาใหม่และลูกสาวที่ไม่ใช่สายเลือดของพ่อ เรื่องนี้เป็นที่นินทาของชาวบ้านอยู่หลายเดือน  เราตัดสินใจกันแล้วว่าที่ดินแปลงนี้คือรางวัลตอบแทนที่ภรรยาใหม่พ่อดูแลพ่ออย่างดีมาตลอดระยะ 15 ปี ซื่อสัตย์กับพ่อมาตลอด  

         เล่าเรื่องลูกสาวของพ่อชาย ทั้ง 4 คน  พ่อยังมีลูกชายอีก 2 คน คนโต เป็นหลานชายพ่อลูกของพี่ชาย  ลูกคนนี้พ่อไม่ได้จดทะเบียนรับเป็นบุตร  พี่ชายทำให้พ่อเสียใจตลอดมา ที่ดินที่มีอยู่ต้องแบ่งขายมาใช้หนี้ มาซื้อรถให้กับพี่ชาคนนี้ พี่ชายเจ้าชู้และดื่มเก่ง  พี่ชายคนนี้แต่งงานแยกบ้านไปอยู่กับภรรยาและมีภรรยาหลายคนมาก จนพ่อไม่พอใจ พ่อสั่งไว้ว่า ไม่ให้บอกพี่ชายว่าพ่อป่วยหนักและไม่ให้มางานศพพ่อ   ส่วนลูกชายอีกคนก็น้องเอก เป็นลูกติดภรรยใหม่ของพ่อ  เป็นน้องชายของลูกสาวคนที่ 4 ของพ่อ น้องชายคนนี้พ่อก็ส่งเรียนจนจบปริญญาตรี ฝากให้เข้าทำงานที่เทศบาลนครขอนแก่น  

            พ่อชายฝากลูกหลานเข้าทำงานหลายคนมาก ๆ  เพราะว่าเป็นที่รู้จักของนักการเมือง ช่วยหาเสียง เป็นหัวคะแนน นักการเมืองจะรักพ่อมาก ๆ พ่อซื่อสัตย์ พ่อมีแนวคิดที่ดีในการพัฒนาชุมชนร่วมกับนักการเมืองท้องถิ่น  หรือสส. ของจังหวัดขอนแก่น  พ่อชายกับแม่เงิน จะเป็นที่รักของชุมชน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับคนชุมชน ที่เป็นคนเก่าแก่ของชุมชนจะรู้จักดี และคนเก่าแก่ของชุมชนก็จะรู้จักลูกสาวคนนี้ของพ่อเป็นอย่างดี รักและเอ็นดู 

          พ่อชายเคยเล่าให้ฟังว่าพ่อเห็นหน้าหนูตอนเด็ก ๆ ตัวดำๆ  ตาดำ ๆ คิ้วดกดำ ผมหยิกหยอง  หลานสาวของพ่อ    แม่ทองย้อย จูงมือหนูมาจากบ้านนอกและอุ้มน้องสาวอีกคนที่ยังเล็กมาก ๆ มาด้วย เพื่อที่จะนำลูกสาวมาฝากเลี้ยง แล้วจะไปรับจ้างทำงาน  พ่อชายและแม่เงิน ตัดสินรับหนูมาเป็นลูกสาว  พ่อกับแม่แต่งงานกันมาหลายปีแล้วไม่มีลูก  สมัยก่อนการรับเป็นบุตรไม่ยุ่งยาก และการแจ้งเกิดก็ไม่ได้ยุ่งยาก  ไปแจ้งเกิดที่บ้านกำนัน พ่อบอกว่าถ้าพ่อไม่รับลูกสาวของพ่อคนนี้ มาอยู่ด้วย ลูกก็ต้องถูกแม่กระเดงไปรับจ้างด้วย ส่วนน้องสาวของผู้เขียนบันทึกนี้ ตัวเล็กๆ    เหมือนกัน ผิวขาวกว่า  แม่ทองย้อยต้องเลี้ยงไว้เองเพราะยังไม่หย่านม แล้วพ่อชายก็จัดการหาพ่อใหม่ให้กับน้องได้ แม่ทองย้อยแต่งงานใหม่ มีน้องชายอีก 6 คน  ตอนนี้น้องชายทุกคนโตมีงานการทำที่ดี ทุกคนเป็นช่าง ไม่มีใครรับราชการ  น้องชายทั้ง 6 คน จะกลัวตามาก ๆ   

           พ่อชาย แม่เงิน ปิดความลับว่าลูกสาวคนนี้ไม่ใช่ลูกแท้ๆ อยู่นานหลายปี                   จนทำงาน รับราชการ และกำลังจะแต่งงาน แม่ทองย้อยเทียวมาบ้านบ่อยมาก  มาเห็นลูกสาวแล้วแสดงความรัก อยากกอดลูก และบ่นว่าลูกสาวไม่มีเสื้อผ้าใหม่ ใส่ ทำไมไม่แต่งตัว  ซื้อเสื้อผ้าดี ๆ มาใส่ เงินเดือนก็มีแล้ว  คำตอบที่ให้แม่ทองย้อยคือ เงินเดือนยกให้แม่เงินเกือบหมดทุกเดือนแล้วจะเอาเงินที่ไหนมาซื้อเสื้อผ้าให้  แม่เงินก็ตัดกระโปรง ตัดเสื้อผ้าชุดใหม่ให้อยู่เรื่อยๆ และยังต้องเก็บเงินเรียนต่อ   แม่ทั้งสองคนหายเข้าไปในห้องคุยกัน   ความลับมาเปิดเผยเมื่อลูกสาวจะแต่งงาน  แม่เงินถามว่าจะกลับไปหาแม่แท้ ๆ ไหม  คำตอบที่ให้แม่เงินคือ แม่แงินและพ่อชายเป็นพ่อและแม่  จะรักและเคารพ เหมือนเดิม พ่อกับแม่จะไม่ได้เป็นคนให้กำเนิด  พ่อกับแม่ก็ให้ชีวิตใหม่ ชีวิตที่ดีแก่ลูก ถ้าไม่มีพ่อกับแม่ลูกก็คงจะไม่ได้ทำงาน เรียนหนังสือจนได้ทำงานรับราชการในตำแหน่งที่ดี   

            ตลอดระะยะเวลาที่อยู่กับพ่อ กับแม่ ในช่วงที่ยังไม่แต่งงาน พ่อแม่ดูแลลูกย่างดี  พอมีแฟน พ่อรับรู้ว่าลูกสาวของพ่อมีแฟน พ่อจัดการให้แต่งงานและให้ลูกสาวแยกครอบครัว ไปสร้างครอบครัวใหม่ พ่อกับแม่จะคอยดูแลเป็นกำลังให้อยู่ห่างเสมอ ๆ ทุกวันหยุด เสาร์ อาทิตย์ ก็จะกลับไปที่บ้านหาพ่อกับแม่ จนปี 2528  เข้าเรียนระดับปริญญาตรี ที่คณะพยาบาลศาสตร์  เป็นนักศึกษาพยาบาล  แม่เงินเริ่มจะสบาย มีความสุข แต่ไม่ก็มีความสุขได้ไม่นาน แม่เงินป่วยเป็นมะเร็วเต้านม  ลูกสาวก็ดูแลรักษาแม่ จนแม่จากไปก่อนที่ลูกสาวของแม่จะเรียนจบเทอมสุดท้าย  หลังจากนั้นพ่อก็อยู่คนเดียว ลูกสาวของพ่อกลับมาอยู่บ้านเป็นเพื่อนพ่อ ดูแลพ่อ  ทิ้งให้ลูกเขยของพ่ออยู่บ้านพัก  แล้วลูกสาวก็ไปทำงานเป็นพยาบาลที่หอผู้ป่วยหลังคลอด พ่อดีใจมากวันที่ลูกสาวรับปริญญา พ่อร้องไห้ ปลื้มใจ ชวนพี่น้องมาทานข้าวที่บ้าน  ลูกสาวดูแลพ่อที่เป็นโสด พ่อหม้ายเนื้อหอมอยู่ปีกว่า เหนื่อยมาก ขึ้นเวรบ่ายดึก ดูแลบ้าน ดูแลสามี แล้วก็ต้องดูแลพ่อ ที่อายุประมาณ 60 ปี  พ่อเคยถามลูกสาวว่าจะแต่งงานใหม่ได้ไหม จะได้มีคนมาดูแลพ่อ  ลูกจะได้ไม่ลำบาก พ่อเห็นลูกเหนื่อยมาก ไม่มีหลานให้พ่อได้เลี้ยง  เราคุยกัน ทั้งลูกเขย ลูกสาว ก็อนุญาตให้พ่อแต่งงานใหม่ได้ ช่วยกันเลือกให้พ่อ  แต่พ่อก็ไม่รู้ไปแอบรู้จักภรรยาใหม่คนนี้ของพ่อตอนไหน อายุของภรรยาใหมพ่อห่างจากลูกสาวพ่อไม่ถึง 8 ปี  ยินดีกับพ่อที่มีคนดูแลพ่อแต่งงานใหม่ในวันที่ลูกสาวพ่อต้องนอนโรงพยาบาล ไม่สบายพอดี  จำได้ว่ามีผู้หญิงวัยพี่สาว หน้าตาดี จูงเด็กอายุ 5 ขวบ เข้ามาในห้องพิเศษ แล้วรายงานตัวว่าพ่อให้นำผลไม้มาเยี่ยมและให้มาบอกว่าจะมาอยู่ด้วย เป็นภรรยาของพ่อ ลูกสาวจะอนุญาตไหม  คำตอบที่ให้ยินดีมาก ขอสัญญาแล้วกันว่าให้ดูแลพ่อให้ดี ๆ เป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว 

             เขียนเล่าเรื่องราวของพ่อ ไม่จบ ลูกสาวพ่อจำได้หมด พ่อเป็นอย่างไร พูดกับลูกสาวอย่างไรบ้าง พ่ออยู่ในใจของลูกเสมอ  พ่อเคยบอกว่าลูกสาวของพ่อจะอายุมากจนย่างเข้าเลขปีที่50 แล้ว พ่อจะยังคิดเสมอว่าลูกพ่อยังไม่โต ไม่เป็นผู้ใหญ่พอ ลูกพ่อจะดูแลตัวเองยังไม่ได้  ลูกพ่อจะถูกรังแกจากคนรอบข้างหรือไม่ ลูกพ่อจะอยู่กับชุมชนได้ไหม  คนในชุมชนจะรักลูกของพ่อเหมือนกับที่เขารักพ่อไหม  ลูกพ่อจะอยู่อย่างไร เมื่อไม่มีพ่อ ลูกพ่อยังไม่โตเป็นผู้ใหญ่ ทางความคิด สติปัญญา  ลูกพ่ออ่อนแอ อ่อนไหว เชื่อใจคนง่าย  ลูกพ่อจะถูกเอาเปรียบ  ถึงแม้ลูกพ่อจะเรียนจบแล้ว นี่คือคำพูดของพ่อในช่วงที่พ่อป่วยนอนอยู่ในโรงพยาบาล 2 ปีที่แล้ว 

           พ่อบอกลูกว่าพ่อยังตายไม่ได้ พ่อยังมีภาระหน้าที่ที่พ่อจะต้องทำอีกหลายอย่าง ไม่ใช่เฉพาะเรื่องส่วนตัวเท่านั้น พ่อเป็นผู้ปกครองในคริสตจักร พ่อช่วยงานชุมชน เป็นที่ปรึกษาของชุมชน พ่อทำงานหน้าที่การกุศลหลายอย่าง จัดหาทุนการศึกษาให้กับเด็กๆ ในหมู่บ้านได้เรียน จำนวน 500 กว่าคน ที่พ่อได้ดูแลร่วมกับมุลนิธิสุภนิมิตรแห่งประเทศไทย  พ่อ ทำโครงการฝึกอาชีพให้กับพ่อแม่เด็กทุน ในหมู่บ้านต่าง ๆ อีกหลายหมู่บ้าน พ่อถ่ายภาพกิจกรรมที่พ่อได้ทำไว้ ลูกพ่อเก็บภาพถ่ายเหล่านั้นไว้เป็นที่ระลึกถึงความดีของพ่อ พ่อบอกเสมอว่าถึงแม้พ่อจะเรียนจบประถม 4  แต่ความรู้ของพ่อนั้นบอกได้เลยว่าเทียบเท่าปริญญาตรี หรือมากกว่านั้น พ่อชอบอ่านหนังสือ อ่านทุกอย่างที่พ่อจะหาอ่านได้ พ่อทำงานกับทนายความ ความรู้ด้านกฎหมายของพ่อมีมากมาย  พ่อจะสอนลูกของพ่อเสมอ พ่อจะอ่านหนังสือพิมพ์ให้ลูกฟัง อ่านข้อกฎหมายให้ลูกฟังเมื่อครั้งหนึ่งลูกสาวของพ่อถูกฟ้องว่าคดีอาญาฉ้อโกงทรัพย์ เนื่องจากคนที่มาเช่าบ้านลูกสาวอยู่ถูกฟ้องล้มละลาย ลูกสาวพ่อไม่รู้  รับโอนโทรศัพท์เบอร์ที่บ้านให้ซึ่งมูลค่าไม่มากมาย ไม่ถึงหมื่นบาท    พ่อดำเนินการติดต่อหาทนายให้ทันที ลูกสาวพ่อไม่ต้องไปศาล ไม่ต้องทำอะไร เซ็นต์มอบอำนาจแต่งตั้งทนาย แก้ต่างให้ ลูกสาวพ่อชนะคดี ไม่ผิด ศาลท่านให้โอนเบอร์โทรศัพท์คืนให้กับโจทย์ไป  ทนายก็มารับไปเซ็นต์โอนโทรศัพท์ที่องค์การโทรศัพท์ ให้กับโจทย์ไป

           ในช่วงที่พ่อป่วยหนัก ดูแลพ่ออยู่ที่บ้าน บ้านทำเป็นเหมือนโรงพยาบาล มีอุปกรณ์ทุกอย่าง พ่อป่วยเป็นเนื้องอกที่ปอด ก้อนโตมาก ๆ ไอเป็นเลือด และหอบเป็นระยะ   ลูกสาวดูแลพ่อในตอนกลางคืน ภรรยาพ่อรับผิดชอบดูแลตอนกลางวัน ไม่ต้องมานอนโรงพยาบาล อาจารย์หมอบอกว่าถึงมานอนโรงพยาบาลก็ให้การรักษาแบบประคับประคอง ผ่าตัดไม่ได้ พ่ออายุมากแล้ว และพ่อก็ไม่ยอมผ่าตัด พ่อไม่อยากนอนโรงพยาบาล เราดูแลพ่ออยู่ที่บ้าน 6เดือนกว่า  พ่อจะถามทุกครั้ง ทุกวันว่าตอนนี้ทำงานตำแหน่งอะไร ซี 8 ได้ยัง  พ่ออยากเห็นลูกของพ่อได้ซี 8 พ่อเห็นลูกสาวของพ่อแต่งขาวปกติ แล้วพ่อภูมิใจมาก  วันนั้นบอกพ่อไปว่าได้รับคำสั่งแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าหน่วยระบาดวิทยาโรคติดต่อ  เป็นพยาบาลชำนาญการพิเศษ แล้ว พ่อขอหนังสือคำสั่งแต่งตั้ง  พ่ออยากเห็น  พ่อนั่งมองหนังสือ คำสั่งนั้น และเก็บไว้กับตัวพ่อ ใครมาเยี่ยพ่อ พ่อก็จะเอาให้ดู  คำสั่งนี้เอาไปให้พ่อดูก่อน  2 วันก่อนที่พ่อจะจากไป    

            พ่อบอกว่าพ่อหมดห่วงแล้ว  ลูกพ่อมีงานทำที่มั่นคงแล้ว และน่าจะโตเป็นผู้ใหญ่พอ มีลูกน้องที่จะต้องดูแล พ่อขอสัญญาว่าให้ลูกสาวของพ่อจะดูแลพี่น้องของพ่อ  ดูแลภรรยาของพ่อ  ไม่ทิ้งครอบครัวใหม่ของพ่อ  ขอให้พี่น้องทั้ง 4 คน รักกัน  ดูแลช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และอย่าลืมดูแลรับผิดชอบภาระกิจงานในโบสถ์  

               พ่อขอสัญญาอีกข้อจากลูกว่าให้เป็นข้าราชการที่ดี ทำงานอย่างซื่อสัตย์สุจริต  ยึดถือประโยชน์ของผู้รับบริการ ผู้ป่วยที่ลูกดูแล  ลูกเป็นข้าราชการของพระเจ้าอยู่หัว และขอสัญญาให้เป็นแม่ที่ดีของลูก  เป็นภรรยาที่ดีของสามี   เมื่อลูกสาวของพ่อรับปาก  พ่อจึงจากไปอย่างสงบ ในวันที่ 19 มกราคม 2554 

                วันนี้ไม่มีพ่ออยู่กับลูกสาวของพ่อแล้ว   พ่อจะอยู่ในใจของลูกเสมอ ลูกจะทำตามที่พ่อได้ขอสัญญาไว้ตลอดไป    และเรื่องราวของพ่อจะเป็นพื้นที่ความสุขของลูกหลาน  ให้ลูกได้ระลึกถึงพ่อเสมอ  ลูกสาวของพ่อจะนำเรื่องราวของพ่อมาเล่าและแบ่งปัน เรื่องราวดี ๆ ที่พ่อได้ทำไว้สมัยที่ยังเป็นหนุ่ม  ลูกอยากบอกว่ารักพ่อมากที่สุด  

บันทึกที่เขียนถึงพ่อจ๋า ที่ผ่านมาหลายปีแล้ว ติดตามไปอ่านดูนะคะ  http://www.gotoknow.org/dashboard/home#/posts/412110

http://www.gotoknow.org/dashboard/home#/posts/412110

http://www.gotoknow.org/blogs/posts/318246

http://www.gotoknow.org/blogs/posts/318246

http://www.gotoknow.org/dashboard/home#/posts/227185

http://www.gotoknow.org/dashboard/home#/posts/206255

บ้านของพ่อที่น้องหนึ่งสร้างให้ครอบครัวอยู่


คำสำคัญ (Tags): #พ่อ#happy ba#วันพ่อ
หมายเลขบันทึก: 511008เขียนเมื่อ 5 ธันวาคม 2012 10:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 30 พฤศจิกายน 2013 23:57 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

เมื่่อเช้าเขียนเล่าสั้นนิดเดียว พอบ่ายมานั่งแก้ไข ทำไมยาวจังแล้วคนอ่านจะอ่านจบไหม
บันทึกนี้อยากเขียนถึงพ่อจ๋าให้มากที่สุดในวันนี้

ขึ้นชื่อว่า พ่อ แล้ว ทำเพื่อ คนที่ได้ชื่อว่า เป็นลูก เสมอ

อ่านจบครับ อ่านสองรอบด้วย...เพราะการให้และแบ่งปัน นำมาซึ่งความสุข

อ่านบันทึกนี้แล้ว นึกย้อนตอนน้องไก่เล่าเรื่องความสุขที่แบ่งปันในวง Happy Ba ที่บุรีเทวี

ทั้งที่เล่าไม่จบเพราะปิติตื้นตัน แต่คนฟังนั่งคิดต่อ

วันนี้มาฟังเรื่องเล่าของพ่อ......

ต่อเติมเต็มความคิดที่คิดเองในวง  .......สุขจากให้ สุขเมื่อนึกถึง....สุขใจ

  • มีความสุขที่ได้อ่านเรื่องเล่าเกี่ยวกับความรักของพ่อที่มีให้กับลูกๆค่ะ
  • มีภาพพ่อดีเด่นมาฝากค่ะ
  •  

 

ใช่แล้วคะป้าแดง 

Ico48 pa_daeng

พ่อคือผู้ให้จริงๆคะ และสอนให้รู้ลูกของพ่อรู้จักการแบ่งปันด้วย

สวัสดีคะพี่บังวอญ่า 

Ico48 วอญ่า-ผู้เฒ่า-natachoei--

             ดีใจมากคะ พี่บัง อ่านได้ถึงสองรอบ ขอบคุณมาก ๆ คะ คนที่ร่วมวง Happy ba ที่บุรเทวี จะเข้าใจความรู้สึกนี้ได้ดีคะ มีเรื่องเล่าของพ่อมากมายคะที่ให้เขียนให้เล่า พ่อเป็นผผู้ให้ชีวิตจริง ๆคะเด็กๆ ในหมู่บ้าน ได้เรียนหนังสือจนจบเพราะว่าพ่อติดต่อประสานงานเรื่องเงินทุนมาให้เรียน เพื่อนไก่ก็เป็นเด็กทุน ตอนนี้เป็นผอ.วิทยาลัยอาชีว แห่งหนึ่ง มีรุ่นน้องรับราชการตำรวจ ระดับสารวัตร หลายคนที่ตั้งใจเรียน มีงานทำที่ดี ๆทุกคน

             วันที่ทำพิธีศพพ่อ พวงหรีดและเงินมาช่วยเยอะมาก ๆ บ้านนะไม่มีที่จะนั่ง พ่อสั่งให้จัดพิธีศพวันเดียว สวด 3 เวลา แล้วให้ไปฝังตามพิธีศาสนาคริสต์ ลูกหลานจะได้ไม่ลำบาก ไม่เหนื่อย และไม่ต้องลางาน ด้วย   พ่อวางแผนสั่งการไว้หมดก่อนตาย  ยอมรับในความเก่งความสามรถของพ่อ นักวางแผน นักพัฒนา นักปกครอง  และนักไกล่เกลี่ย 

Ico48 KRUDALA

ขอแสดงความยินดีด้วยคะ พ่อดีเด่น ความภาคภูมิใจของลูกหลานและคุณพ่อนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท