หากเชื่อว่า “มนุษย์ คือ ผู้มีศีล 5 ครบพร้อมไม่ขาดแหว่ง”
คำถามที่แท้จึงปรากฏขึ้นว่า
“วันหนึ่ง ๆ ศีล 5 เราครบแค่ไหน”
คำตอบที่ได้กับตนเองแทบร้องจ๊าก เลย
เพราะวัน ๆ ก็ยังแอบหนี แอบเนียน นินทา พูดพร่ำเพ้อ เพ้อเจ้อ หนักเข้าไปอีกว่า รับปากว่าจะทำแต่ก็ ทำไม่ได้
อืม...........ขาดจากความเป็นมนุษย์เสียแล้ว
แค่ศีล 5 ก็ยังไม่ครบ ก็ไม่ต้องพูดถึง ความเป็น เทวดา หรือ อริยะ เลยว่าไหม
งั้นก็ไม่ต้องมานั่งสงสัย ว่าทำไม ชีวิตจึงเหมือนพายเรือวนในอ่างอยู่ร่ำไป
แค่หัวใจที่ยึดมั่นในศีลยังไม่เกิด
ทานก็ยัง กระปิดกระปรอย
ภาวนา เฮอะ ๆ ถ้าไม่ถูกบีบคั้น หรือ บังคับก็ไม่ยอมที่จะใช้ปัญญาเอาเสียเลย
ทบทวนแล้วอยากจะขำ
นี่คือหนึ่งภารกิจที่ครูให้ทบทวนว่า วัน ๆ หนึ่ง ศีลครบพร้อมแค่ไหน จากที่ทบทวนในยามเขียนบันทึก ให้ให้ค่อย ๆ เตือนสติในตนเอง
เป็นการฝึกสติ ฝึกความยับยั้งชั่งใจ ระงับชั่วประพฤติดี สั่งสมไป
ทำได้ก็ทำ ทำไม่ได้ก็ทำ
วันนี้แค่ศีล 5 ก็ยังไม่ครบเต็มวันกับตนเอง แต่ครูก็คอยให้กำลังใจเสมอ
ท่านยังให้กำลังใจอีกว่า “จิตนั้นเปลี่ยนได้ จากเดรัจฉานก็เป็นคน เป็นมนุษย์หรืออริยะได้ อยู่ที่การฝึกฝน”
ครูไม่ได้ให้ฝึกเพียงทบทวนศีล แต่ให้ฝึกครบองค์ของ
ทาน ศีล และภาวนา
คือ ทาน คือ การที่ทบทวนศีล ยับยั้งชั่งใจ เราจะลดการเบียดเบียนตน เบียดเบียนผู้อื่น ได้มาขึ้น ฝึกทานที่ออกมาจากข้างในละโลภ โกรธ หลง
ศีล เป็นการย้ำชัด ว่า อะไรคือ ศีลที่แท้ ในกาย วาจาและใจ
ภาวนา เวลาหนูทำไม่ได้ หนูจะแก้ไขกับตนเองยังไง ทำยังไง ยังแก้เองไม่ได้ ทำเองไม่เป็นครูก็เมตตาชี้ทางและพาทำค่ะ
นี่คือ ตลอดเส้นทางของภารกิจนี้ เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ด้วยต้นทุนจิตที่ติดลบต่ำกว่าความเป็นมนุษย์ของหนู ทำมา 4 ปี แล้วแต่ก็ยังไม่ถึงพร้อม แต่ก็ไม่ได้หมายถึงว่า จะแก้ไขไม่ได้ จะทำไม่ได้ เพราะไม่ได้เลิกทำ
อย่างนักคิดค้น นักวิทยาศาสตร์ในอดีต เขาก็บอกไว้ว่า
รู้สึกจะเป็น ทอร์มัสอันวาเอดิสัน ที่บอกว่า เขาไม่ได้ ค้นพบวิธีทำหลอดไฟ แต่เขาค้นพบวิธีทำหลอดไฟพลาดเป็นพัน ๆ ครั้งต่างหาก
ไม่มีความเห็น