ส่วนใหญ่เขาเริ่มมาจากความโชคดีหน่อยที่มี "ครูภูมิปัญญาคืนถิ่น" นำทางเขา
บวกกับความเบื่อหน่ายต่อระบบทาสแรงงานสมัยใหม่ในเมือง ตามโรงงาน
ทำงานดีขนาดไหน ทุ่มเทขนาดไหนก็แค่ประคองตัว "รอดไปวันๆ"
เขามองไกลๆเลยว่า ชีวิตแบบนั้น "ไร้ความหมาย" ไม่มีโอกาสเป็น "ไท" แก่ตัว
ทำงานไม่นาน พอแก่หน่อยเขาก็จะถูกไล่ออกแบบเดียวกับนิทาน "หมาล่าเนื้อ" ล่าไม่ได้ ก็ถูกปล่อยทิ้ง
อย่างมากก็ได้เศษเงินมาก้อนหนึ่ง กับความโทรมๆของร่างกาย
เงินที่ได้ ใช้แค่รักษาสุขภาพของตัวเองก็อาจไม่พอ
ชีวิตมีเท่านั้นหรือ
แต่ถ้ากลับมาสร้างชีวิตของตนเอง มันจะได้ทั้งวันนี้ วันหน้า
ตอนแก่ก็จะมีทุกอย่าง มีที่อยู่ ที่กิน มีอาหารที่ดี สะอาดปลอดภัย
มีสังคม มีเพื่อน มีครอบครัวที่อบอุ่น ลูกหลานพร้อมหน้า มีที่ให้ลูกหลานอยู่
มีทุน มีต้นไม้ไว้สร้างบ้าน มีป่าไว้เดินเล่น มีฟืนไว้เผาตัวเอง
และสร้างสรรความรู้ ทรัพยากรให้กับชุมชน และพื้นที่ได้อีกมากมาย
แล้วเขาเหล่านั้นก็กลับมา พบคน "ครูคืนถิ่น" ช่วยชี้นำ
ทำงานไม่นานจนสำเร็จอยู่ได้จริง ที่เร็วหน่อยมีทุนเดิมบ้างก็ภายใน 3 ปี บางคนทุนน้อยหน่อยก็ 5 ปี
"บัณฑิต" เหล่านี้ จึงเป็นกรณีตัวอย่างที่มี "ชีวิตจริงๆ" ไม่ใช่แค่ตัวหนังสือ
ปัจจุบันทุกท่านที่กล่าวมาเป็น "ครูคืนถิ่น" ได้แล้วทุกคน
เป็นตัวอย่างจริง สอนได้จริง นำทางได้จริง เลยครับ
ที่ผมเล่ามาก่อนหน้านี้ทั้งหมด ผมก็ได้มาจากกลุ่มคนเหล่านี้แหละครับ
ขอบคุณที่มาให้กำลังใจ ถ้ามีโอกาสช่วยเผยแพร่ให้ด้วยนะครับ ถือว่าทำบุญช่วยชาติจริงๆนะครับ
Walk on. Sir.
Though we are some distance apart, I am walking with you.
We are not alone.
We can look through the city street lights,
and see the the stars yonder...
ขอบคุณอีกครั้งครับที่มีแนวคิดสนับสนุนกันครับ
ขอบคุณท่าน ดร.ที่ให้แง่คิดดีดีค่ะ
ด้วยความยินดีครับ
เรียนท่านอาจารย์ค่ะ
หวังอยู่ว่า คงมีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับท่านอาจารย์นะคะ
....
ข้ามความตั้งใจส่วนนี้ไปร่วมยี่สิบปี
ชะตา...พาย้อนรอยเข้าหมู่บ้าน
วันที่ ๕ ธันวาที่ผ่านมา กำสตังค์ไม่กี่ร้อยนอนน้ำตาไหล...
ด้วยความสะเทือนใจกับเด็กน้อยในหมู่บ้าน ที่เห็นตำตาว่าแม่...หาเงินมาคืนเราได้อย่างไร
ทำให้พลังใจเมื่อวัยเรียนมัธยมกลับคุโชนขึ้นมาใหม่ค่ะ
ห้องเรียนกลับทาง...ที่เคยเป็นความหวัง ของเรากับแม่ เกิดจริงเป็นจริงได้แน่ๆค่ะ
ขอบพระคุณบันทึกทรงพลัง เป็นแนวทางและกำลังใจร่วมฝันอีกหนึ่งค่ะ
โฮ้...สุดยอด มหัศจรรย์ งึดหลายค่ะอาจารย์
กลับจากทุ่งซะมืด นั่งทานข้าวที่บ้านตัวเอง แต่เปิดทีวีไว้บนบ้านน้องดังๆ
เสียงปฏิบัติกร...ตุ๊หล่างเบามาก แต่เสียง ปฏิบัติกรอีกท่าน เข้มดีจัง
พอได้ยินคำว่า..."ใจ...ต้องใหญ่กว่าเมล็ดหญ้า"!!
อั้ยย่ะ สำนวนคุ้นหูแท้(ว้า)...วางมือ วิ่งอ้าวขึ้นชั้นสองตาตั้ง :)
คว้ากล้องออกมาเล็งจอทีวีทันใด ภาพพอใช้ได้ นำมาแสดงว่าได้ชมได้ฟังจุใจเลยค่ะ
ภาพนาข้าว สุดยอดจริงๆค่ะ ต้องจองรายการภาคค่ำแล้วสิคะ (รายการการศึกษาเมื่อค่ำวานก็เข้มดี)
กราบขอบพระคุณสำหรับวิทยาทานค่ะอาจารย์ สาธุ