เมื่อวานดิฉันได้รับ email ฉบับหนึ่ง มีข้อความดังต่อไปนี้
เรียนคุณวัลลา ตันตโยทัย
ดิฉันนางสาว...........และนางสาว...........นักศึกษาของสถาบัน.....................มีความประสงค์ต้องการศึกษา " เครือข่ายการจัดการความรู้ เรื่อง การดูแลผู้ป่วยเบาหวานของทางโรงพยาบาลเทพธารินทร์ " ซึ่งเป็นรายวิชา......... 7008 การจัดการความรู้ ตามหัวข้อรายงานดังนี้
หัวข้อรายงาน
จึงเรียนมาเพื่อขอข้อมูลดังกล่าว ขอความกรุณาท่านติดต่อกลับทางอิเมลนี้ด้วย
ขอบพระคุณอย่างสูง (ไม่ลงชื่อ)
ดูชื่อสถาบันและเลขรหัสรายวิชา บอกได้ว่านักศึกษา 2 คนนี้เป็นนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา ยุคนี้นักศึกษาเขาหาข้อมูลทำรายงานกันแบบนี้เอง ไม่รู้ว่าอาจารย์ผู้สอนจะรู้ไหม
ดิฉัน forward email นี้ไปให้คุณธัญญา (หิมะทองคำ) วรรณพฤกษ์ รพ.เทพธารินทร์ทราบด้วย เรามีความเห็นตรงกันว่าจะไม่ตอบกลับ email ลักษณะนี้
วัลลา ตันตโยทัย
ครับ ค่อนข้างสะดวกเกินนิดหนึ่ง อิอิ
เมื่อคืนดึกมากแล้ว นักศึกษาหนึ่งในสองคนข้างต้นส่ง email มาขอโทษ ดังนี้
ขออนุญาตแสดงความเห็น ด้วยความนับถือผู้เขียน (ซึ่งดำรงตำแหน่งสำคัญสำหรับการศึกษา)
ในโลกยุคไซเบอร์ หาข้อมูลจาก เครือข่ายนี้ น่าจะเป็นเรื่องปกติ เข่นเดียวกัยการเข้าห้องสมุดใหญ่ๆ ผู้เข้าค้นคว้าก็จะตาบอด ไม่รู้ว่าเรื่องราวที่ตนค้นคว้าจะไปที่เสาะหาจากตู้ใด ถามใคร แต่เราอาจโชคดีกว่า ที่มีปราชญ์ผู้ซึ่งรู้ว่าการค้นคว้าที่ดีและได้ผล ควรมีการแนะนำและการเรียนรู้เพื่อใช้งานอย่างถูกต้อง เราจึงได้เรียนวิชาการใช้ห้องสมุดและได้รับการฝึกฝน ขัดเกลา มารยาทและความเคารพในการใช้ห้องสมุด
แต่โลกไซเบอร์ หรือเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ไม่มีใครเคยพูดถึงการใช้งานเพื่อการศึกษาอย่างเป็นระบบและจริงจัง ไม่มีใครเคยนิยามเรื่องมารยาทและ คุณสมบัติผู้ดีของการใช้งานในสื่อสมัยใหม่เหล่านี้.ครูผู้สนับสนุนทั้งทางตรงและทางอ้อมให้ค้นคว้าจากสื่อนี้ ก็ไม่ใคร่เห็นผู้ที่อบรมเรื่องมารยาทในการใช้สื่อมากนัก กระทรวงที่แจกกระดานแก้ว ก็สนใจแต่แอ็พ ไม่สนใจเรื่องมารยาทและการใช้สื่อ (ในสมัยก่อนเราได้เรียนวิชาการเขียนจดหมาย เขียนถึงใคร ควรใช้คำขึ้นต้นอย่างไร ลงท้ายอย่างไร ด้วยความนับถือ เคารพและนอบน้อมมีมารยาท).
ขณะเดียวกันในอีกซึกความคิดหนึ่ง เราใช้สื่อเหล่านี้ในฐานะ มุมมองส่วนตัว ซึ่งใครจะเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วยก็ได้ กลายเป็นพื่้นที่ส่วนตัวในสาธาารณะ และเป็นเรื่องปกติ จนความคิดเหล่านี้กลายเป็นอุปนิสัยของคนบางกลุ่มที่ใช้งานผ่านโลกสาธารณะนี้ไปแล้ว
นักศึกษาเหล่านี้ ก็เป็นตัวอย่างอีกกลุ่มหนึ่งของคนที่ ค้นคว้าโดยขาดมารยาท กลายเป็นเด็ก กระด้าง ส่วนจะเป็นมารยาทข้อใดนั้น ก็มากมายจนเหลือเชื่อ เช่น การใช้คำขึ้นต้นจดหมาย ก็ผิดมารยาท การเขียนการผิดมารยาท ลำดับการเขียนเพื่อสื่อความสำคัญ ก็อ่อนหัด (ถือว่าไม่มีมารยาท ขาดการอบรม) การขอความอนุเคราะห์ ขอความช่วยเหลือ ก็ผิดมารยาท ขั้นตอนการประสานงานติดต่อ ก็ผิดมารยาท.. ฯลฯ
ขอท่านผู้เขียนอย่าได้ถือโกรธ นักศึกษาเหล่านี้เลย... Gotoknow เป็นโลกที่คนจำนวนมาก ยอมรับว่า มีแหล่งความรู้จริง อยู่มาก / และมีมารยาทของการใช้งาน การอ้างถึง การอ้างอิง และการขออนุเคราะห์ยืมไปใช้ ที่ชัดเจน เป็นแบบอย่างได้
เรามาช่วยกันสร้างสรรค์ ชี้ทาง คุณสมบัติผู้ดีและมารยาท ในการใช้งานสื่อสมัยใหม่ แก่คนเหล่านี้ด้วยกันเถิด
ขอบคุณ คุณ Han Min ที่ให้ความเห็นและคำแนะนำนะคะ
ดิฉันไม่โกธรนักศึกษาทั้ง 2 คนนี้ และได้ข้อคิดที่จะต้องนำไปดูแลลูกศิษย์ของตนเองด้วย เพราะบางทีเราอาจจะไม่รู้ว่าเขาไปหาข้อมูลจากแหล่งต่างๆ อย่างไร
นอกจากนี้ยังได้รู้ว่า Gotoknow เป็นพื้นที่ที่ผู้คนเข้าไปหาความรู้เรื่อง KM ซึ่งเป็นเรื่องดีค่ะ