เช้านี้ตื่นมาร่วมทำบุญในตอนเช้ากันด้วยกันนะครับ จิตใจจะได้แจ่มใส ละ ลด ความตระหนี่ ความเป็นตัวตนบ้าง (เกือบไม่ทันเหมือนกันเพราะ ตื่นช้าไปหน่อย อิอิ...)
แต่เรื่องจะเล่าในวันนี้คือ เมื่อวันเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมาได้มีโอกาสดูหนังเรื่องหนึ่ง ตอนแรกก็คิดว่าจะดูหรอก เพราะไม่น่าจะสนุก หรือได้สาระอะไรหรอกมั่ง (คิดเอง เออ เอง ไปแล้ว อิอิ...) แต่พอได้ดูจนจบก็รู้ได้ทันทีว่า หนังเรื่องนี้แหละ.... หนังเรื่อง The last samurai
เป็นเรื่องที่พระเอกเป็นชาวอเมริกันนั้นเป็นครูฝึกทหารเพื่อทำให้มีทักษะการต่อสู้และเคยขับไล่อินเดียแดงที่เคยเป็นชนเผ่าดั่งเดิมที่เคยเป็นผู้อาศัยอยู่ก่อนแล้ว เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้พระเอกต้องรู้สึกไม่ดีตลอดเวลา จึงเกิดคำถามขึ้นมาในใจว่า อะไรคือ ความหมายของชีวิตของเรา ต่อมาพระเอกก็ได้ถูกว่าจ้างให้มาทำงานให้ประเทศญี่ปุ่น เพราะญี่ปุ่นต้องการเป็นประเทศที่เจริญ
แต่ด้วยมีอยู่กลุ่มซามูไรหนึ่งที่ยังคงยึด การใช้ชีวิตแบบดั่งเดิม โดยการต่อสู้ด้วยดาบ เพราะดาบคือชีวิต และจิตวิญญาณ แทนที่จะเป็นปืนทำไร่ ทำนา อยู่กับธรรมชาติแบบพึ่งพาอาศัยกัน มีชีวิตที่เรียบง่าย มีการสวดมนต์ ไหว้พระ มีการฝึกสมาธิด้วย เรียกได้ว่าเป็นชุมชนที่มีความสุขแต่ทางการญี่ปุ่นกลับคิดว่า กลุ่มซามูไรนี้เป็นตัวถ่วงความเจริญของประเทศจึงต้องกำจัดให้สิ้นไปโดยเร็ว
ทางการญี่ปุ่นก็มีการยกพลไปกำจัดกลุ่มนี้ และพระเอกก็ไปด้วย สุดท้ายกองทัพของทางการต้องพ่ายแพ้ย่อยยับกลับไป และพระเอกก็โดนจับไปเป็นเชลย โดยถูกพาตัวมาที่หมู่บ้านซามูไรด้วย พระเอกก็ได้เรียนรู้ ชีวิตความเป็นอยู่ในแบบซามูไร
ที่เต็มไปด้วยความเรียบ ง่าย สงบ ร่มรื่น กลางป่า ภูเขา สายน้ำ อากาศแสนสดชื่น และได้เรียนรู้การเป็นซามูไรด้วย โดยมีหลักอยู่ว่า ดาบเจ้าของดาบต้องเป็นหนึ่ง จงสิ้นคิด ทำจิตให้ว่าง ใจโล่งๆ โปร่ง สบาย(ขอยืมคำของ ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ) อย่าสนใจสิ่งรอบข้าง สติอยู่ที่ดาบในมือ (นี่ก็คือการฝึกเจริญสตินั้นเอง) พระเอกก็เริ่มรู้แล้วว่านี้หรือเปล่าคือสิ่งที่ตามหามาตลอดชีวิต นี้คือความหมายของชีวิต มีอยู่ตอนหนึ่งพระเอกกล่าวว่า ชีวิตเราสามารถลิขิตด้วยตัวเราเองได้ และไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ มนุษย์สามารถทำได้ทุกอย่าง ขอเพียงเราลงมือทำ สิ่งที่ยากที่สุดที่ความคิดก่อนลงมือทำว่ายาก แต่เมื่อเราลงมือทำแล้วจะรู้ว่ามันง่ายนิดเดียว
แล้วพระเอกก็ร่วมต่อสู้เพื่อปกป้องพื้นแผ่นดินซามูไรสุดท้ายให้คงอยู่...จะเป็นอย่างไรต่อก็ลองจินตนาการดูก็แล้วกันนะครับ อิอิ... จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ แต่ตั้งเป็นจินตนาการที่มีสติที่ได้รับการฝึกฝนแล้วด้วยนะครับ
สิ่งที่ได้จากการดูหนังนี้ก็คือ จงอย่าลืมว่าเราเป็นใคร มีบรรพบุรุษเป็นอย่างไร มาจากที่ไหน มีชีวิตอยู่เพื่ออะไร และจะทำอะไรไว้เพื่อให้โลกจดจำ
ขอบคุณนะครับที่กรุณาอ่านบทความนี้ หากมีอะไรผิดพรากก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย