เมื่อหายนะในอีเมล์ลูกโซ่ทำให้เป็นหายนะของครูน้อย


มีนักเรียนรับอีเมล์ลูกโซ่แนวหายนะโลก มามากมาย จึงเกิดหายนะของครูคือ ต้องรับอีเมล์เหล่านี้จากนักเรียนจำนวนมากและหัวข้อสนทนาในเฟสบุ๊ก ไม่ต้องหลับไม่ต้องนอนกัน จนครูมานั่งตั้งคำถามกับตัวเอง ว่า ทำไมนักวิทยาศาสตร์มักใช้คำว่า หายนะ มหันภัย สูญสิ้นอารยาธรรม สายเกินแก้ ฯลฯ กันจังเลยนะ นักเรียนคนหนึ่งถามว่าครูคะ เราจะตายกันหมดในอีกไม่ถึง 40 ปีจริงเหรอคะ ครูก็บอกไม่หรอกลูก เราก็รักษาสิ่งแวดล้อมสิ เค้าว่าหายนะล้างโลกมันเพราะโลกร้อนมิใช่หรือ ครูก็ตามน้ำไป นักเรียนก็ว่า ถ้าหนูรักษาคนเดียวคนอื่นไม่รักษา หนูก็ตายเหมือนเดิมใช่ไหมคะ เค้าว่า อีกไม่ถึง 15 ปี กรุงเทพฯจะเพราะโลกร้อน แม่น้ำทุกสายจะแห้งเพราะหิมะละลายหมด ที่แย่กว่านั้นนะคะครู พอน้ำแข็งละลายทั่วโลกละลายหมด ภูมิอากาศโลกจะเปลี่ยน ไทยจะเป็นประเทศที่อยู่ไม่ได้อีกต่อไป ขาดแคลนน้ำและอาหาร อากาศร้อนมาก แห้งแล้ง ฝนไม่ตกอีกต่อไป ไม่เหมาะกับการมีชีวิตค่ะครู ครูขาหนูยังไม่อยากตายค่ะ ครูก็ได้แต่ถอนหายใจ แล้วถามต่อว่า เค้าไม่ได้บอกวิธีแก้ไขมาใน FW mail เหรอลูก ลูกศิษย์ก็ว่าเค้าบอกค่ะว่าเราต้องหยุดการใช้พลังงานฟอสซิลและการปล่อยแก็ซเรือนกระจกทุกประเภทให้หมดภายใน 2 ปีค่ะครู ว่าแต่ไอ้พลังงานฟอสซิลนี่มันคืออะไรคะ ครูอดหัวเราะก๊ากไม่ได้ เลยได้แต่อธิบายว่า ที่เค้าว่ามาทั้งหมดถ้าให้ใช้อย่างประหยัดก็เห็นด้วยลูก แต่ถ้าให้หยุดสงสัยเราต้องหยุดหายใจ หยุดกินช้าว หยุดกิจกรรมการดำรงชีวิตทุกอย่างหนะลูก เพราะชีวิตคนเราในทุกกระบวนการมันปล่อยสารจำพวกนี้ทั้งนั้น แต่ถ้าใช้คำว่าใช้อย่างประหยัดและรู้คุณค่าน่าจะดีกว่าคำว่าหยุดไหมคะ แล้วครูก็ต้องนั่งอธิบายให้ลูกศิษย์ช่างสงสัยคนนั้นอีกนานมาก ก็เลยมานั่งอ่านอีเมล์เหล่านั้นอย่างละเอียด มันก็น่าวิตกมากพอ ๆ กับเมล์ 2012 เลย แต่ข้อมูลเหล่านั้นมันได้มากนักวิทย์ฝรั่งระดับโลก มีดีกรีพ่วงท้ายมากมาย ไหนจะองค์การนาซ่าอีก ซึ่งมักจะเล่นกับกับว่าหายนะซะมาก บอกหายนะโลกเป็นฉาก ๆ แถมกำหนดระยะเวลาพร้อม แถมนักวิทย์ไทยบางคนโดยเฉพาะที่ชอบทำนายภัยภิบัติ ก็ทำนายหายนะกับเค้าด้วย จากที่เห็นข้อความ แถมตบท้ายด้วยว่า ถึงท่านจะปลูกต้นไม้ไปก็เท่านั้นไม่ทันแล้วท่านจะต้องตายหมู่กันแน่ ๆ ถ้ายังไม่หยุดใช้น้ำมัน หยุดใช้ไฟฟ้า หยุดนั่งเครื่องบิน หยุดทำการเกษตร หยุดขับรถ หยุดใช้แอร์ หยุดใช้กระดาษ หยุดอะไอีกมากมาย ...... ฯลฯ  ที่ทุกวันนี้ก็ยังเห็นใช้กันปกติ ไม่มีมาตรการใดในการประหยัดเลยหากมันหายนะกันขนาดนั้นจริง ๆ นี่ คือคำถามจากนักเรียน ที่ไม่ใช่นักวิทย์ระดับชาติ หรือ ระดับโลกใดๆ เลย ครูขาถ้าโลกเรามันเสี่ยงจะสูญพันธ์ขนาดนั้นแล้วไม่ใช่ระยะหลักร้อยปี แต่แค่ไม่เกิน 50 ปีนี้แท้ๆ ทำไมผู้ใหญ่เค้าไม่ทำอะไรเลยคะ เค้าไม่กลัวเหรอ ถ้าผู้ใหญ่บอกว่าทำแล้วดี หนูก็จะทำตามนะคะ ทำไมทุกคนยังใช้ชีวิตเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นหละคะ แล้วนักวิทยาศาสตร์ดัง ๆ ของไทยที่อ้างชื่ออยู่ในบทความเหล่านี้ ไม่บอกนายกฯ หละคะ น่ากลัวขนาดนี้ นายกต้องสนใจแน่ ๆ  ซึ่งครูเองก็ได้แต่สะท้อนใจว่าจริงด้วยสิ ทำไมไม่ทำให้มันเป็นกิจลักษณะ แทนที่จะออกมาในรูปของสื่อฯ และแพร่ระบาดเป็น FW mail และขนาดประเทศที่เป็นต้นสังกัดของนักวิจัยเหล่านั้นยังไม่ยี่หระกับผลวิจัยเหล่านั้นเลย อันที่จริงบันทึกนี้มันก็ไม่มีสาระอะไร แต่เนื่องจาก ได้เห็นโฆษณาทางโทรทัศน์เกี่ยวกับการประหยัดพลังงาน แต่ก็ไม่มีปินโยบายในการบังคับใช้เพราะไอ้ลำพังจิตสำนึกมันสร้างได้กับคนแค่บางคนแต่ไม่ใช่คนมากมายขนาด 65 ล้านคนหรอ่ก มันก็เหมือนรณรงค์ให้เลิกบุหรี่แต่ก็ยังรอกินภาษีจากการขายบุหรี่นั่นแหละนะ บอกว่าแก๊ซใช้แล้วหมดไป แต่ก็ยังอนุญาติให้เปิดปั๊มแก๊ซกันโครม ๆ แถมยังเติมได้ไม่จำกัด เพราะต้องการเงินค่าสัมปทาน หรือที่เค้าลือกันว่าที่ประเทศเราไม่มีการพัฒนาเรื่องพลังงานทดแทนเพราะคนใหญ่คนโตมีหุ้นในบริษัทน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ  มันจะจริง แต่รณรงค์แค่เป็นฤดูกาลนี่เค้าเรียกสร้างความตระหนกแต่ไม่สร้างความตระหนักเลย  ไม่แม้แต่มีมาตรการป้องกันซึ่งกับคนหมู่มากหากมีปัญหาใหญ่กันจริงๆ แม้แต่ต้องใช้กฏหมายบังคับก็ต้องทำ แต่นี่มีแต่รณรงค์กันแบบอ่อนปวกเปียก คนดูคนฟังก็แค่อ๋อ เหรอ ท้ายที่สุดลูกศิษย์ตัวดีก่อนเข้านอน หย่อนประเด็นทิ้งไว้ในเฟสบุ๊กครูว่า ครูค่ะ เล่นเฟสบุ๊กค่ำ ๆ แบบนี้เปลือกไฟ โลกร้อน นะคะ อ้อ สุดท้ายนี้ ครูขา มีคน (นักสิ่งแวดล้อมจากมหาวิทยาลัยใหญ่ของไทยแห่งหนึ่ง) บอกว่าแค่คิดจะมีลูกตอนนี้ก็ผิดแล้ว เพราะลูกที่เกิดมาจะต้องพบกับหายนะโลกในเร็ววันและเค้าจะไม่พร้อมจะมีชีวิตในอนาคต แถมคนหนึ่งคนแค่เกิดก็สร้างปัญหาให้โลกแล้ว ครูคิดถูกแล้วเหรอคะที่จะมีลูก ครูเห็นแล้วก็หัวเราะ แล้วนึกว่า นี่เธอ ฉํนจะคลอดอยู่สิ้นปีนี้แล้วนะจ๊ะ คงไม่ทันแล้วหละ ว่าแต่ เอ !!!  ลูกเราจะรอดไหมหนอ มันก็น่าคิดนะ นี่ฉันมีลูกฉันคงบาปกับโลกนี้มาก  จริง ๆ แล้วถ้าได้ออกจากชายแดนไปเที่ยวกรุงเทพบ้างก็คงดี เพราะถ้าถูกน้ำท่วมคงไม่มีโอกาสได้เห็นแล้วจะไปถามท่าน ดร. จากนาซ่า ว่า อีกแค่ 10 เองเหรอคะที่ หิมะหิมาลัยจะละลายหมด รวมถึงท่าน ดร. จาก ม. ดังใน กทม ท่านนั้น้ด้วยว่า หนูคิดผิดใช่หรือไม่ที่มีลูก ถ้ามันร้ายแรงถึงขั้นนั้น ท่านน่าจะส่งสารนี้ถึงท่านผู้ใหญ่ในบ้านเมืองนะคะ เด็กเล็กตาดำ ๆ จะได้ไม่ถามว่าทำไมผู้ใหญ่ไม่ทำอะไร

หมายเลขบันทึก: 508521เขียนเมื่อ 12 พฤศจิกายน 2012 20:09 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 ธันวาคม 2012 12:30 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท