คนเราเมื่อมีอาการเจ็บป่วย มักจะตอบคำถามในใจก่อนว่า”เราไม่เป็นอะไรมาก...ทานยา...พักผ่อน เดี๋ยวก็หาย” แต่เชื่อเถอะว่า ลึก ลึก ในใจ “คน” มีความกลัวอยู่ 3 อย่าง 1. กลัวการเข้าโรงพยาบาล 2. กลัวผี 3. กลัวตาย และเมื่อความกลัว...เดินทางมาถึง ข้อที่3 แล้ว ( ต้องจำใจและจำยอม...เข้าโรงพยาบาลทุกคน) และนี่เป็นที่มา เรื่องราวของดิฉันเอง
ดิฉันเป็นคนสุขภาพดี( มาก ) มาโดยตลอด แต่เวลาที่มีประจำเดือนมักจะปวดท้อง ปวดหลัง ปวดหัว เมื่อต้นปี 54 ยังคงมีอาการแบบเดิม จนถึงออกเป็นลิ่มเลือดในที่สุด การแก้ไขเบื้องต้นคือการทานยาพาราฯ ทุกเดือน เพื่อระงับอาการปวด เพราะเคยได้ยินว่า “ คนที่มีเลือดออกมาก จะเป็นการขับเลือดเสียออกมา" จนกระทั่งใน ช่วงน้ำท่วม ได้อพยพครอบครัวไปอยู่แถวประตูน้ำ บ้านญาติห่างๆ ( เป็นช่วงก่อนมีประจำเดือน 3 วัน ) ในคืนหนึ่งเวลา 21:00 น. เกิดปวดหลัง( แทบหลุด)จึงลุกมาทานยาพาราฯ 2 เม็ด และนอนพักต่อ รู้สึกตัวเวลา 23:00 น. คราวนี้เกิดปวดหลัง ร้าวมาถึงลิ้นปี่ เจ็บชายโครงสองข้าง จนยืนไม่ไหว ทางบ้านให้ไปโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ซึ่งใกล้ที่สุดในเวลานั้น คุณหมอมาถามอาการ และฉีดยา 1 เข็ม หลับไปประมาณ 40 นาที ( พอตื่นขึ้นมา แรงมา อยากกลับบ้านทันที ) แต่คุณพยาบาลแจ้งว่า ขอเจาะเลือดเพราะผิวดูซีดขาวมาก ผลเลือดออกมา พบว่า เกร็ดเลือดต่ำมาก ( โดยปกติผู้หญิงจะมีเกร็ดเลือดที่ 33-36 แต่วันนั้นมีแค่ 21 จึงถูกสั่งให้เลือดทันที จำนวน 2 ถุง เป็นเวลา 6 ชั่วโมง จนถึง 08:00 น. ของเช้าวันใหม่ คราวนี้มีการถามประวัติต่างๆจนมาถึงเรื่องของการมีประจำเดือนแต่ละรอบ เวลา 09:00 น. ถูกส่งตรวจภายใน และรอผล 2 ชั่วโมง ปรากฏว่า “เป็นเนื้องอกที่มดลูกขนาด 9ซ.ม ( เก้าเซนติเมตร ) คุณหมอแนะนำให้ผ่าตัดมดลูกออกเลย (กลัวมาก) ทำใจรับไม่ได้ ในใจคิดว่า เราควรให้โอกาสโรงพยาบาลอื่นบ้าง เลยปฏิเสธการผ่าตัด กลับบ้านทันที ผ่านไป 3 สัปดาห์ ย้ายไปตรวจที่โรงพยาบาลวชิรพยาบาล ผลตรวจคือ เป็นเนื้องอกที่มดลูก ขนาด 9.6 ซ.ม คุณหมอแนะนำว่า ต้องตัดมดลูกทิ้งเพราะมิฉะนั้น เนื้องอกจะโตขึ้นเรื่อยๆ ได้แต่ คิดในใจว่า แค่ 3 สัปดาห์เอง เพิ่มอีก 0.6 ซ.ม จึงยอมเข้าโรงพยาบาลที่วชิรพยาบาลผ่าตัด โดยคุณหมอได้นัดไปเจาะเลือด ตรวจคลื่นหัวใจ ตรวจปอด ( จัดหนัก ชุดใหญ่) เข้ารับการผ่าตัดตั้งแต่เวลา13:00 – 18:00 น. มารู้สึกตัวเวลา 19:00 น. ( เพลียสุดๆ เหมือนโดนรถสิบล้อทับ) พักฟื้นวันที่ 2 คุณหมอที่ผ่าตัดมาพูดคุยและแจ้งว่า “ ได้ตัดมดลูกออกทั้งหมด ซึ่งมีขนาด เท่ากับ 12 ซ.ม ( โตมากกว่าเดิม เกือบ 3 ซ.ม แต่โชคดีที่ไม่ใช่เนื้อร้าย) ต้องฝึกเดินใหม่ทั้งหมด ทำกายภาพบำบัด ประมาณ 1 เดือนกว่า ถึงจะเดินเป็นปกติได้ การที่กล้าออกมาเปิดเผยไม่ใช่อยากเด่นแต่อยากให้เป็นวิทยาทาน กับคนที่มีอาการปวดประจำเดือน แต่ไม่กล้าพบหมอ อายหมอ จงอย่ากลัวกับโรคภัย ก่อนจะสายไป นอกจากเราจะรักตัวเอง ต้องรู้จักที่จะรักคนในครอบครัวด้วยนะคะ....( Teacher..Kae )
ไม่มีความเห็น