วิชาการ และความเป็นวิชาการ


 

 

วิชาการ  และ ความเป็นวิชาการ

วิชาการคืออะไร ???
วิชาการ  คือ สิ่งประดิษฐ์ชนิดหนึ่ง  สร้างจากข้อเท็จจริง แล้วนำมาร้อยเรียงกัน
แล้วนำเสนอในรูปแบบภาษา 

วิชาการสมัยโบราณเป็นอย่างไร ???
ถ้าจะโยงจากลัทธิตะวันตกนิยม  รากฐานมาจากกรีก
เริ่มมาจาก ปรัชญา จิตนิยม และ วัตถุนิยม
ปรัชญาวัตถุนิยม กลายเป็น ลัทธิวิทยาศาสตร์นิยมที่เราบูชากันในยุคสมัยนี้
ถ้าจะโยงจากลัทธิตะวันออกนิยม รากฐานมาจากอินเดีย
มีรากฐานมาจากจิตนิยม  ส่วนเจ้าลัทธิวัตถุนิยมมีน้อย

รากฐานหนึ่งของวิชาการ คือ การตั้งคำถามและแสวงหาคำตอบ
แม้จะเป็นคำถามเดียว แต่ก็สามารถหาคำตอบได้หลายแนวทาง
อันเนื่องมากจุดยืนและแนวความคิด ความเชื่อ และองค์ความรู้
อันเป็นประสบการณ์เดิมของแต่ละคน 

สิ่งที่มีอิทธิพลแห่งยุคสมัยทางวิชาการปัจจุบันคือวิทยาศาสตร์
กระบวนการวิจัย กระบวนการแสวงหาความรู้ ล้วนแต่อ้างอิงขั้นตอน
ทางวิทยาศาสตร์  ยิ่งจะศักดิ์สิทธิ์มากขึ้นถ้ามีตัวเลขทางสถิติ ยืนยัน
อิทธิพลทางวิทยาศาสตร์พยายามที่จะขยายอิทธิพลไปยังมนุษยศาสตร์
สังคมศาสตร์  

มนต์ขลังของวิชาการแบบวิทยาศาสตร์  คือ คิดว่าไม่มีอคติ ไม่ลำเอียง
แม่นยำ ทำนายได้   แต่ภายหลังได้มีการถกเถียงกันประเด็นเหล่านี้
ก็พบว่า  ที่ว่าไม่มีอคติ ไม่ลำเอียง แม่นยำ  นั้นมีข้อโต้แย้งมากมาย
เนื่องมาจากวิทยาศาสตร์นั้นแยกสาขาออกเป็นส่วน ๆ  แล้วเรียนรู้แบบ
ลึกเข้าไปในศาสตร์  ไม่ได้เชื่อมโยงกับบริบทอื่น  ยกตัวอย่างง่าย ๆ
การศึกษาเรื่อง การเจริญเติบโตของพืชในแปลงทดลอง  เป็นการศึกษา
ชีววิทยาแยกส่วนเพื่อเก็บหาข้อมูลที่ควบคุมได้ในแปลง  ซึ่งไม่ได้สัมพันธ์
กับนิเวศวิทยาตามธรรมชาติ ซึ่งมีความสลับซับซ้อน  ผลของการศึกษา
ชีววิทยาแบบนี้ก็คือการควบคุมการผลิตพืชโดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์.
ผลก็คือ ควบคุมด้วยปุ๋ย  ทำลายสัตว์ในนิเวศด้วยยาฆ่าแมลง  เป็นคำตอบ
สำเร็จรูปแบบวิทยาศาสตร์ 

คำถาม อีกคำถามหนึ่ง  ถามว่า วิชาการ ต่าง ๆ ทีประดิษฐ์ขึ้น มีความเป็นกลางไหม
วิชาการ ขึ้นอยู่กับคนเอาไปใช้  เช่น อัลเฟรด โนเบล  ประดิษฐ์ระเบิดขึ้น  แต่คนที่เอา
ไปใช้ฆ่าคน  จนคนคิดประดิษฐ์ขึ้นต้องสร้างเจดีย์ส่วนตัวล้างบาป คือ รางวัลโนเบล
ไอน์สไตน์ คิด ทฤษฎีสัมพันธภาพ  นำไปสู่การสร้างระเบิดปรมาณู  ซึ่งทำให้คนใน
ฮิโรชิมา และ นางาซากิ  ตายไปเป็นจำนวนมาก  การคิดยารักษาโรคซึ่งแทนที่จะ
รักษามวลมนุษยชาติให้พ้นจากความทุกข์  กลับกลายเป็นทรัพย์สินของบริษัทยา
ที่ขูดรีดคนยากจนไม่ให้เข้าถึงยา  สิ่งประดิษฐ์ของนักการศึกษาบางอย่างกลับกลาย
เป็นการบ่อนทำลายสมองบางส่วนของผู้เรียน 

สิ่งที่ทำให้ข้อเขียนอื่น ๆ แตกต่างกว่างานวิชาการ  ก็คือ การยอมรับของวงวิชาการ
วงวิชาการ ก็คือ ผู้ที่ทำงานวิชาการแบบนั้น ๆ มาก่อน  ครั้งหนึ่งอาจารย์นิธิ เอียวศรีวงศ์
ได้เขียนล้อเลียนการอ้างอิงฟุตโน้ต  และได้ยกย่องงานของอาจารย์ศรีศักร  วัลลิโภดม
ที่ส่งผลงานแล้วไม่ได้ตำแหน่งศาสตราจารย์  เพราะเป็นงานไม่มีฟุตโน้ต  เพราะเป็น
งานสร้างองค์ความรู้ชิ้นแรก ที่ไม่มีใครสร้างสรรค์ผลงานมาก่อน   การยอมรับของวงวิชาการ
เป็นอำนาจอย่างหนึ่ง  เป็นอำนาจของการรับรอง   นักวิชาการหลาย ๆ ไม่ได้ให้ความสำคัญ
ในสิ่งนี้  หลายคนผลิตผลงานมามาก และไม่สนใจที่จะสงผลงานเพราะเห็นอำนาจดังกล่าว
แต่อาจารย์ที่เชี่ยวชาญเหล่านี้ได้มีผุ้ส่งผลงานให้แทน

ส่วนใหญ่สิ่งที่ทำในนามวงวิชาการ มักจะเปิดเผยอะไรบางส่วน  ตีฆ้องร้องป่าว  เหมารวม
เช่น วาทกรรมวิชาการที่ว่า

“คนไทย อ่านหนังสือ แค่ ปีละ 6 บรรทัด”

แต่ไม่ยักกะบอกว่าคุณวิจัยอย่างไร  แล้วคุณเหมารวมนี้หมายถึงอะไร คนไทยที่คุณอ้างอิง
คือใคร  เมื่อนำเสนอแบบนี้ มีความหมายถึงว่าคนไทยโง่เพราะอ่านหนังสือน้อย

หรือ  “เด็กไทย ไอคิว เท่าเดิม”

แต่คุณไม่ยักบอกว่า วิจัยอย่างไร  เครื่องมือของคุณคืออะไร เป็นการสรุปแต่ผลการวิจัย
แล้วตีฆ้องร้องป่าว 

หรือ  “ผลสัมฤทธิ์นักเรียนตกต่ำทั่วประเทศ”

วิชาการ เหมารวม แต่ไม่ได้บอกรายละเอียดว่า เด็กในเขตเมืองผลสัมฤทธิ์สูง 
โรงเรียนที่คัดเลือกเด็กเข้าไปเรียนผลสัมฤทธิ์สูง   การนำเอาผลมาป่าวประกาศแบบเหมารวม
แบบนี้นอกจากไม่ก่อให้เกิดการแก้ไขอย่างไร เพราะเหมารวมทั้งหมด

 หรือ  “กระทรวงศึกษาธิการได้รับงบประมาณมากมาย ไร้ประสิทธิภาพ และ ได้ผลลัพท์ตกต่ำ”

วิชาการแบบเหมารวมแบบนี้  มักจะไม่บ่งบอกรายละเอียดให้ชัด ๆ งบประมาณเหล่านั้น
หน่วยที่ผลิตคนจริง ๆ ได้ไปเท่าไร  หน่วยงานทำธุรการ ได้ไปเท่าไร  ไม่มีรายละเอียดเหล่านี้อยู่เลย
หรือข้อจำกัดของการศึกษาวิจัยของคุณ คุณได้กล่าวสิ่งเหล่านี้หรือไม่

หรือวิชาการแบบนี้ ที่ศิษย์เก่าดีเด่นมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใกล้ท่าน้ำ สร้างงานวิชาการเกี่ยวกับ
การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ  ในขณะที่อาจารย์ในมหาวิทยาลัยแห่งนั้น รับจ๊อบทำ
ประเมินผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมให้เป็นผลดีกับนายทุนสัมปทาน  ทำในเรื่องเดียวกัน
จึงพอจะอนุมานได้ว่า วิชาการมันเป็นอะไรก็ได้  แต่ที่สำคัญนั้น รับใช้ใครมากกว่า
 

หรือโพล สถิติ ที่มีส่วนชี้นำทางการเมือง ตามใบสั่ง
ก็ทำในนามวิชาการด้วยทั้งนั้น 

สรุป  วิชาการที่เป็นสิ่งประดิษฐ์ของมนุษย์  นั้นจะออกมาอย่างไรก็ได้
ออกมาเพื่อเป็นการเมือง เพื่อจะประณาม เพื่อจะปรับปรุงแก้ไข หรือแม้
เป็นเพียงตรรกะ ที่จะสร้างเงิน  สร้างงาน สร้างตำแหน่ง ให้กับคนสร้าง
แต่ที่แน่ ๆ วิชาการไม่ได้เป็นกลาง  วิชาการมักจะรับใช้อะไรบางอย่าง
อยู่เสมอ  วิชาการนั้น คล้ายกับโฆษณาอย่างหนึ่ง  ที่แสดงผลแต่ข้อดี
ปิดผลอะไรไว้บางอย่าง 
 

คำสำคัญ (Tags): #วิชาการ
หมายเลขบันทึก: 506378เขียนเมื่อ 21 ตุลาคม 2012 15:09 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 ตุลาคม 2012 16:04 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

วิชาการ  คือ ...สิ่งประดิษฐ์ชนิดหนึ่ง  สร้างจาก.... ข้อเท็จจริง แล้วนำมาร้อยเรียงกัน....
แล้วนำเสนอ.....ในรูปแบบภาษา

 

ขอบคุณท่านมากนะคะ

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท