ผ่าตัดไส้ติ่ง แต่ไม่ใช่ไส้ติ่ง


เมื่อวันก่อนแพทย์ set “ผ่าตัดไส้ติ่ง” ตอนหกทุ่มครึ่ง หลังจากเปิดช่องท้องเข้าไปพบว่าไส้ติ่งปกติดี ไม่มีการอักเสบ (Normal Appendix) จึงตรวจสอบดูภายในช่องท้อง ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ พบว่ามีการอักเสบของถุงที่ผนังลำไส้ใหญ่ ห่างจากไส้ติ่งประมาณ ๒ ฟุต (diverticulitis)

ปกติถุงนี้จะไม่มีในลำไส้ แต่มันเกิดขึ้นเพราะผนังลำไส้บางส่วนอ่อนแอ ทำให้เยื้อบุลำไส้โดนดันยื่นผ่านจุดอ่อนในผนังกล้ามเนื้อลำไส้ พอมันเป็นถุงยื่นออกไป อุจจาระก็ติดอยู่ในนั้นและนำไปสู่การอักเสบได้ ก็จะคล้ายๆ ไส้ติ่งอักเสบคือถ้าไม่รักษาก็อาจจะแตกทะลุเข้าช่องท้อง ทำให้เกิดการอักเสบรุนแรงและอาจถึงแก่ชีวิตได้

นพ.วสันติ 'ศัลยแพทย์ได้ตัดไส้ติ่งออก (Appendectomy) เย็บปิดช่องท้อง และส่งต่อ (Refer) ผู้ป่วยไปรพ.มหาราช นครราชสีมา เพื่อตัดต่อลำไส้บริเวณตำแหน่งที่เกิดเหตุออก ศัลยแพทย์วินิจฉัยว่าเป็น Meckel's diverticulitis

๒ วันต่อมา.. คนได้ได้รับการส่งต่อกลับมาที่รพ.สูงเนิน ได้ทำผ่าตัด Diverticulectomy c ileus Anastomosis (โดยเปิดแผลตำแหน่งเดิม ที่เราผ่าไส้ติ่ง และทำการตัดต่อลำไส้) ให้กลับมาทำแผลและฉีดยาต่อ

หลังทบทวนพบว่า เป็นการยากที่จะวินิจฉัยแยกโรค เนื่องจากอาการแสดงของคนไข้คล้ายไส้ติ่งอักเสบมาก กดเจ็บบริเวณท้องน้อยด้านขวา มีคลื่นไส้ไม่อาเจียน ผลเลือดแสดงว่ามีการอักเสบชัดเจน จะตรวจพบว่าเป็น Diverticulitis ก้ต่อเมื่อเราผ่าตัดเปิดช่องท้องเข้าไปดูเท่านั้น

ได้ไปค้นข้อมูลจากพี่ goo (google) มาฝากค่ะ

Meckel's diverticulitis การติดเชื้อของ Meckel's diverticulum พบได้ไม่บ่อย พยาธิสภาพและลักษณะอาการ คล้ายกับไส้ติ่งอักเสบ แต่ตำแหน่งที่กดเจ็บมักจะค่อนมาทางกลางท้องมากกว่า การวินิจฉัยก่อนผ่าตัด ไม่สามารถแยกจากไส้ติ่งอักเสบได้แน่นอน จึงจำเป็นต้องทำผ่าตัด เพื่อทั้งวินิจฉัยและรักษา โดยตัดเอา diverticulum ออก ผู้ป่วยส่วนหนึ่ง จะมาด้วยลักษณะของ generalized peritonitis เพราะวินิจฉัยไม่ได้ และโรคลุกลามมากขึ้น นอกจากนี้ แพทย์ผู้ทำการผ่าตัด ต้องระลึกถึงโรคนี้ไว้ด้วย ในกรณีผ่าตัดผู้ป่วยที่ลักษณะทางคลินิกบ่งชี้ว่าเป็นไส้ติ่งอักเสบ แต่ผ่าตัดพบไส้ติ่งปกติ ถ้าพบ Meckel's diverticulum ที่ปกติ ควรพิจารณาตัดออกเฉพาะในรายที่มีโอกาสเกิดข้อแทรกซ้อนค่อนข้างสูง เช่น เด็กมีอายุต่ำกว่า 10 ปี หรือพบว่า โคนของ diverticulum มีขนาดเล็ก ซึ่งจะเกิดอุดตันได้ง่าย หรือปลาย diverticulum ยึดติดกับผนังหน้าท้อง ซึ่งอาจทำให้เกิด volvulus หรือลำไส้อุดตันได้ หรือเมื่อพบผนังที่หนากว่าปกติ ซึ่งอาจบ่งว่ามี ectopic gastric หรือ pancreatic tissue

 

หมายเลขบันทึก: 505858เขียนเมื่อ 16 ตุลาคม 2012 19:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 ตุลาคม 2012 09:16 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

เป็นอุบัตการณ์ระดับ F ค่ะ (ได้รับการรักษานานๆขึ้น, ต้องนอนรพ.นานขึ้นกว่าปกติ)

ขอบคุณสำหรับดอกไม้ของ P'Ple Blank อาจารย์ Sila Blank คุณสันติสุข Blank ค่ะ

 

แหม....โดนเจ็บตัวสองรอบเชียวนะคะ

ขอบคุณกับบันทึกที่ทำให้ต้องระวังตัวเองมากขึ้นหากเจ็บท้องด้านขวา

โรคนี้วินิจฉัยยากค่ะ krugui ส่วนใหญ่ตำแหน่งที่กดเจ็บ.. จะค่อนมาทางกลางหน้าท้อง.. แต่บังเอิญคนไข้รายนี้ ตำแหน่งที่กดแล้วเจ็บ เป็นตำแหน่ง Mc' burney point (ตำแหน่งไส้ติ่ง) พอดิบพอดี

จริงๆที่สูงเนินก็ผ่าตัดต่อลำไส้ได้นะคะ แต่เผอิญเราไม่ได้ทำมานานมาก.. จึงไม่ได้นึ่งเครื่องมือจับลำไส้ไว้ และเป็นกลางดึก ซึ่งไม่สะดวกในการทำและรอเครื่องมือ.. ต่อไปทีมงานห้องผ่าตัด คงต้องนึ่งเครื่องมือจับลำไล้ไว้ตลอด (Re sterile ไว้ให้พร้อมใช้) ขอบคุณมากนะคะที่แวะเข้ามาอ่าน

ผมเคยเกือบตาย เพราะไส้ติ่งแตกก่อนผ่าตัดสมัยอยู่ที่อเมริกานะครับ

โชคดีที่ไม่ตาย แต่ก็ต้องนอน รพ.อยู่ตั้ง 28 วัน เลยละครับ เพื่อให้ยาฆ่าเชื้อต่างๆ

โชคดีมากๆ เลยที่รอดมาได้ 555

อาการเริ่มแรกของไส้ติ่ง ส่วนใหญ่มักถูกมองว่าเป็นโรคกระเพราะอาหารอักเสบ หรือปวดท้องอย่างอื่น.. เราต้องดูและสังเกตอาการต่อเนื่องอีกสัก ๓-๔ ชม.ตำแหน่งของการปวดท้องจะเปลี่ยนไปค่ะคุณอักขณิช

บางครั้ง.. จึงถูกมองข้ามไป ถ้าไส้ติ่งแตก ก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ค่ะ มีหลายรายไส้ติ่งแตก และติดเชื้อในช่องท้องและเสียชัวิตไปเลย ถือว่าคุณอักขณิชโชคดีแล้วค่ะ

ขอบคุณที่มาแชร์ประสบการณ์นะคะ

ดีคะ ได้ความรู้ เพิ่มเติม ( พี่ เอ๋ ไม่ค่อยได้ดูแลผู้ป่วย มัวแต่ทำเอกสาร )

ขอบคุณมากค่ะพี่เอ๋

kunrapee แวะไปติดตามผลงานของคุณพี่แล้วนะคะ น่าสนใจมากค่ะ

(เราต่างแลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกันนะคะ)

 

เพิ่งออกจากโรงพยาบาลสดๆเลยค่ะ เป็นแบบนี้เลย ปวดท้องบริเวณไส้ติ่งมากๆประมาณ3วัน แต่ไม่มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือปวดหัวใดๆทั้งสิ้นเลยค่ะ อาการเหมือนคนปกติ แต่แค่ปวดท้องมากๆ เลยไปที่คลินิค หมอคิดว่าน่าจะเป็นไส้ติ่งเลยไปโรงพยาบาล ตรวจไม่เจออะไร เลือดก็ปกติ ปัสสาวะก็ปกติ อัลตร้าซาวน์ก็ปกติ เลยไปตรวจอีกโรงพยาบาลเอ็กซเรย์ก็ไม่เจออะไรอีก พอย้ายไปอีกโรงพยาบาล หมอเอ็กซเรย์ไป ไม่เจออะไร อัลตร้าซาวน์ช่องท้องก็ไม่เจอ เอ็กซเรย์ไปอีก2รอบ(ทั้งสวนทวาร- ฉีดยาอะไรไม่รู้ทำให้ร้อนทั้งตัว) ก็ยังไม่เจออีก เลยโดนอัลตร้าซาวน์รอบที่3 หมอเห็นว่าเหมือนมีการอักเสบอยู่ แต่ไม่น่าจะใช่ไส้ติ่ง แต่วินิจฉัยไม่ได้จริงๆว่าคืออะไร เลยตกลงกับพ่อแม่บอกหมอไปว่าให้ผ่าตัดไส้ติ่งไปเลย ถึงเป็นหรือไม่เป็นก็ตาม ก็ให้ผ่าไปเลยค่ะ พอตกกลางคืนเลยเข้าห้องผ่าตัด ปรากฎเป็น diverticulitis นี่แหละคะ ถึงบางอ้อกันเลย นี่ถ้าไม่ผ่าท้องก็คงไม่มีทางเจอเลยค่ะ โดนหมอแซวว่าแก่แดดด้วย เพราะโรงนี้ส่วนมาจะเกิดกับผู้สูงอายุคะ


พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท