หลวงพ่อวีระนนท์กับพระเถราจารย์ ตอนที่ ๔ พระธรรมโกศาจารย์ (ท่านพุทธทาสภิกขุ) แห่งสวนโมกขพลาราม จ.สุราษฎร์ธานี
“จงเป็นสาวกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า รู้จักพระนิพพานโดยแท้จริงว่า
เป็นจุดปลายทาง
ชีวิตนี้มีปลายทางอยู่ที่นิพพาน
ถ้ายังไม่บรรลุนิพพานอยู่เพียงใด
มันยังไม่หยุด
มันจะดิ้นรนกระวนกระวายกระเสือกกระสนอยู่นั่นเอง
จนกว่าจะพบพระนิพพาน
เหมือนปลาที่มันดิ้นไปบนบกก็แถกๆ
กระเสือกกระไสไปจนกว่ามันจะพบน้ำน่ะ
คือ นิพพาน มันจึงจะหยุด;
เราก็เหมือนกัน
ดิ้นรนกันอยู่บนแผ่นดินอันร้อนของกิเลส
ดิ้นรนไปจนกว่าจะพบน้ำที่ถึงที่สุด
คือ พระนิพพาน”
"หลวงพ่อวีระนนท์กับหลวงพ่อพระพุทธทาส"
กิตติศัพท์อันเลื่องลือ พระนักปราชญ์พุทธศาสนาแห่งสวนโมกข์ ทำให้หลวงพ่อวีระนนท์ ต้องเดินธุดงค์มาจากวัดหนองป่าพง เพื่อขอศึกษาธรรมะ และการปฏิบัติจากหลวงพ่อพระพุทธทาส การเดินเท้าทั้งกลางวันและกลางคืน ตลอดสิบห้าวัน จะพักบ้างก็เป็นเพียงชั่วครู่ชั่วยาม จึงนำพาให้คำสอนเรื่องจิตว่าง เสพกามจากจิตว่าง ประทับตราตรึงอยู่ในใจหลวงพ่อวีระนนท์ตราบเท่าทุกวันนี้
ครั้งนั้นหลวงพ่อวีระนนท์ไปถึงสวนโมกข์ เมื่อเข้าไปกราบพระพุทธทาส ท่านทักขึ้นทันทีว่า “ มาถึงแล้วเหรอ เรารอท่านอยู่นะ”
ซึ่งเป็นที่อัศจรรย์อย่างยิ่งว่า การไปศึกษาธรรมที่สวนโมกข์ หลวงพ่อวีระนนท์ได้เดินธุดงค์ไปคนเดียว ก็ไม่ได้บอกล่วงหน้ากันมาก่อน
หลวงพ่อวีระนนท์กล่าวไว้ตอนหนึ่งว่า
“ท่านเป็นผู้มีภูมิธรรมมีปัญญาสูง
ท่านไม่ถือเนื้อถือตัว
ไม่ติดในลาภสักการะ
ไม่ติดในคำสรรเสริญ
ไม่ติดในโลกธรรมแปด
ท่านมักจะนั่งอยู่บนก้อนหินบนแคร่ทุกวัน
เป็นพระแท้ เป็นพระตัวอย่าง
ไม่สนใจเรื่องเงินเรื่องทอง
ใครจะใช้ก็ใช้ ให้มันเป็นประโยชน์
ไม่ติฉินนินทาใคร ไม่กระทบพระไม่ว่าพระ
คือจะพูดธรรมะไปตรงๆเลย นั่นเรื่องของธรรม
เพียงแต่จะบอกเตือนท่านทั้งหลายให้มีสติ
มีปัญญาอย่าตามใจกิเลส
ถ้าตามใจกิเลสจะกลายเป็นตัวกู ของกู
มีแต่ตัวกูมากกว่าตัวกายจะทำลายทุกอย่าง
นี่คือสิ่งที่ท่านพูดอยู่เป็นประจำ”
หลวงพ่อวีระนนท์กับพระเถราจารย์ ตอนที่ ๓
เรียบเรียง ธรรมบุตร
วารสารกระแสใจ
วัดป่าเจริญราช คลอง๑๑ ลำลูกกา ปทุมธานี