นิราศอ้อมกอด ( เขียนเมื่อ ธันวาคม ๒๕๕๑)


นิราศอ้อมกอด

  จำใจพรากจากโรงเรียนจึงเพียรจด
บันทึกถ้อยรอยขานที่ผ่านพจน์ ให้ปรากฏลายลักษณ์ประจักษ์พยาน
วันที่สิบธันวาปีห้าหนึ่ง ทัวร์ตะบึงภาคกลางอย่างสุขศานต์
ร่วมเพื่อนน้องผองพี่วิชาการ ลากสังขารอ่อนแอย่ำแย่มา
นัดผองเพื่อนก่อนมาจะพาย่ำ ดูงามขำธิดาโดมอวดโฉมสง่า
กลับนัดหมอขอให้ได้ฉีดยา เพื่อรักษาไข้หวัดที่ขัดคอ
ความแน่นอนไม่มีที่ตามหลอน เหมือนสั่งสอนชีวิตไซร้ไม่แน่หนอ
เพียงหนึ่งวันผันเปลี่ยนเจียนเจ็บท้อ อย่าหวังขอใดมั่นนิรันดร
เคยได้ขวัญกำลังใจให้ไปเที่ยว และเก็บเกี่ยวความรู้ดูการสอน
คือห้าพันต่อคนด้นสัญจร ถูกตัดรอนสองพันห้าคราปีนี้
ไปเมืองนอกเข้าสิมีให้มาก เหตุผลจากผอ.ล้อเล่นนี่
เศรษฐกิจเมืองไทยไม่เข้าที ไยชวนชี้ชมนอกออกเงินตรา
เอ่ยอำลาครูลำยองอยากลองเย้า ครูคอยเฝ้าดลเจ๊เสน่หา
คราเจ๊เอ่ยเปรยคำจำนรรจา ให้ครูติดอุราทุกคราคำ
ไหว้หลวงพ่อ สธ.ขอปกปักษ์ ช่วยพิทักษ์คนจรที่อ้อนพร่ำ
ให้ปลอดภัยพ้นพาลมารกระทำ ทุกเช้าค่ำสนุกสุขสบาย
ห้านาฬิกานัดหมายกลายเป็นหก นิรมลจิตตระหนกด้วยตื่นสาย
ดูแลแม่ตัวร้อนกว่าผ่อนคลาย ผิดนัดหมายขอโทษโปรดเอ็นดู
แล้วรองฯโต้งจับไมค์ไขคำกล่าว เพื่อบอกข่าวคนสานการกินอยู่
สาครรัตน์เอียดจิ๋มภักดีที่อุ้มชู ู ติ๊กพจนามาคู่ครูใจบุญ



ผ่านสี่แยกหลักเมืองเรื่องศักดิ์สิทธิ์ จงปัดพิษผองภัยไกลว้าวุ่น
ดลเจ๊ศรีแจ่มจ้าด้วยการุณย์ คุณครูอุ่นใยรักจากใจเจ๊
สะพานจุลฯเชื่อมคล้องคนสองผั่ง สะพานรั้งสัมพันธ์ไม่หันเห
แต่เมืองไทยไร้ฝั่งยังซวนเซ ยังว้าเหว่ขาดคนสานสะพานใจ
เข้าหลังสวนจวนปั๊มต่างร่ำร้อง ระบายท้องสักคราพาสดใส
ปั๊มจิงโจ้โก้ออกรีบบอกไว ทันสมัยห้องน้ำเกย์ดูเท่ห์ดี
เสียงสำรวจตรวจนับครับค่ะครบ รถเลื่อนหลบวิ่งลู่สู่วิถี
อ.มาโนชย์วิ่งไล่ไม่รอรี สุรภีดื่มกาแฟลืมแลกัน
เปิดบรรเลงเพลงมาร์ชชมพูเขียว ตบมือเกรียวเสียงร้องก้องแข็งขัน
รอจนจบเพลงลาสถาบัน พี่จี๊ด(วรรณ)คว้าไมค์ใส่อารมณ์

พี่เดียนารู้ทุกเรื่องช่างเปรื่องปราด มิมีขาดเฮฮาพาสุขสม
แมวไม่มาหนูซ่าลาทุกข์ตรม ทิ้งความทุกข์กับลมให้ลับลา
เพ็ญยวนจี๊ดอี๊ดสุวิทย์ประดิษฐ์เสียง บุณยฤทธิ์พร้อมเพรียงสุดหรรษา
เราสะดุ้งตื่นพลันทันวาจา ที่แว่วว่า”ร้องหมายให้ควายฟัง”
โอเกะเก่าเย้ายวนล้วนวาบหวิว ชวนสยิวสุวัฒน์จ้องตาตั้ง
ตัวอักษรหลอนตาพาผิดพลั้ง นะจังงังตะลึงแลแต่เอวองค์
ขึ้นเพลงคู่หูซ่านเสียงตาลเฉาะ เสียงเสนาะนุ่มนวลชวนใหลหลง
พี่สุวิทย์เสียงชายหมายมั่นคง หญิงอนงค์สลับเวียนเปลี่ยนจิ๊ด,มล
เสียงกระเซ้าเย้าเยือนเพื่อนเจ๊ศรี เดี๋ยวเพลงนี้ขอคะแนนเป็นมรรคผล
สักหนึ่งร้อยสอยมาตั้งหน้ายล กลับเล่นกลคะแนนถอยด้อยกว่าคำ

เพลงแผ่นแล้วแผ่นเล่าที่เฝ้าเปลี่ยน เสียงบทเรียนก่อนวิวาห์พากันขำ
สุวิทย์สะกิดยวนชวนแนะนำ เดี๋ยวยวนย้ำเร่งครูบอกหนูไว
บทเรียนนี้ล้าสมัยรุ่นใหม่นี้ เด็กรู้ดีกว่าบทเรียนที่เขียนไข
ความเขินอายลาลี้วิถีไทย ต้องทำใจซึมซับกับเปลี่ยนแปลง
“เธออยู่ไหนฉันอยู่นี่ที่รักจ๋า” เสียงแซวมาอยู่โรงเรียนเพียรขันแข็ง
เจ๊คงเพลินเดินดูด้วยเรี่ยวแรง ทุกหนแห่งสะอาดตาคราสั่งการ
แวะกินข้าวแม่กิมลั้งสั่งมากโข น้ำพริกผักกองโตโชว์อาหาร
กุเราเค็มเครื่องยำนำใส่จาน อีกหอยดองจัดจ้านทานอิ่มฟรี
ครูสุทายขนอะไรในที่ลับ มลขานรับขนของหนีภาษี
เป็นคำแสร้งแฝงแอบแยบยลมี ี ฟังต้องตีความนัยเพื่อไขความ

“บัวตูมบัวบาน” หวานถูกหู เสียงคุณครูประภาสสาดเสียงหวาม
อีกกระทงหลงทางพลางติดตาม รักน้องพรคนงามตามนาเกลือ
ฟังเพลงเก่าเกาใจให้ชอกช้ำ คนตัวดำเคยกล่อมขวัญแล้วพลันเบื่อ
ทุกค่ำคืนกล่อมขวัญพลันลาเรื้อ ตกเป็นเหยื่อหน้ามลคนตัวดำ
ถึงทางแยกเลี้ยวซ้ายหมายสวนผึ้ง ทางแยกขึงแยกรักจักระส่ำ
มาแยกคู่เคยพบลบรอยจำ ทางแยกทำรักลาพาลืมเรา

หน้าหนาวนี้จะไปไหนใครใครถาม หนาวนี้ตามหาอ้อมกอดแห่งขุนเขา
หวังอ้อมกอดแน่นหนามาบรรเทา ช่วยปัดเป่าปวดร้าวเมื่อหนาวมา
เมื่อหนาวกายได้ผ้าห่มช่วยข่มหนาว เมื่อปวดร้าวหนาวใจใครรักษา
หนาวน้ำคำเราะรานผ่านวาจา ยากจะหาปกปิดไม่คิดเจอ

เข้าสวนผึ้งคิดถึงข่าวคราวก่อนนี้ ก็อตอามีสร้างตำนานทางการเผลอ
หวังต่อรองพม่าพาเขาเธอ มีแผ่นดินเสนอสานเผ่าพงศ์
ก็อตอามี่ไร้ผืนดินดิ้นต่อสู้ ช่วยกอบกู้คงไว้ไม่ลืมหลง
เราคนไทยพร้อมสรรพกลับยุยง เคยคิดตรงแตกไปไม่กลมเกลียว

ธารน้ำร้อนบ่อคลึงพึงโพสท์ท่า หลายลีลาขาถ่างย่างหวาดเสียว
คำแนะนำครูมลชอบกลเชียว ทำซุกเซี้ยวสัปดนปนคะนอง
ด้วยฝนตกภาคใต้หลายวันนัก หวังไอร้อนช่วยรักษ์ราทั้งผอง
ให้น้ำร้อนฆ่าเชื้อนวลเนื้อทอง เหล่านวลน้องยืนถ่างอย่างครื้นเครง




เข้าอ้อมกอดขุนเขาเนาพำนัก ลูกเจ้าของมาทักแหมเหมาะเหมง
รุ่นลูกหลานป้าจำนรรจ์อย่างกันเอง แล้วรีบเร่งขนสมบัติลงจัดการ
เรือนที่พักจำลองถ้ำทำปูนฉาบ มีOUT DOORห้องอาบสะอาดสะอ้าน
เพยกัลยาพาลงอ่างอย่างเบิกบาน หากมิหาญถอดผ้าท้าแสงจันทร์

ทุกห้องน้ำไร้ประตูแอบดูได้ กระจกใสม่านงามมาตามกั้น
หากสิบหกสิบห้าคราก่อนนั้น จะประชันอวดร่างแข่งนางไพร
แต่ตอนนี้ย้อยหย่อนก้อนพุงหลาม จำปิดห้ามอุจาดตาท้าฟ้าใส
โอ้สังขารกาลพาชราวัย จึงปิดไฟไม่มองแม้ห้องงาม

 

มนุษย์ย่ำทำลายแล้วหมายสร้าง มาถากถางไพรขจีที่อร่าม
แล้วจำลองห้องหอล้อเขตคาม ปลูกแมกไม้หญ้าสนามตามโล่งเตียน
จากป่าใหญ่ไพรกว้างสร้างฝูงผึ้ง เหลือหุบเขาล้านซึ่งป่าโล่งเลี่ยน
ป่าคอนกรีตถูกสร้างอย่างแนบเนียน ตั้งวกเวียนแนบเนินให้เดินชม

 
 

 

เดินชมห้องน้องพี่ที่รายรอบ ต่างชื่นชอบทุกที่ดีเหมาะสม
ทุกบ้านชื่อไม้ไทยใจนิยม เช่นชวนชมซ่อนชู้คู่เฟื่องฟ้า
บ้านโป๊ยเซียนเวียนดูอยู่เคียงสระ ลักษณะซ่อนแอบแนบผืนผา
เขียวลูกปัดเรียงย้อยห้อยเตะตา เหมือนราชาสุลต่านเปิดม่านคอย
แต่สุลต่านท่านนี้มีเมียหนึ่ง งามตาตรึงร่วมชิดคอยติดสอย
ได้แต่มองสุลต่านสานตาปรอย เก็บรูปรอยเตียงนอนก่อนจากมา

 

นฤมลส่งภาษามาดังลั่น บัวสวรรค์บ้านหนูสุดหรูหรา
ห้องสวีตสีชมพูคู่วิวาห์ คนที่อยู่เกือบชรายังเดียวดาย
มื้อคำนี้มีบุปเฟ่ต์เหล่ผักผัด วิมลรัตน์เจ้ามือผู้ซื้อจ่าย
คือเก้าพันปันน้ำใจไปมากมาย อิ่มสบายเกินพอขอขอบคุณ
เมื่อกินมากปากอร่อยย่อมย่อยยาก ท้องแน่นมากไม่ถ่ายให้ว้าวุ่น
กินกินกินอย่าเห็นว่าเป็นคุณ มิอยากตุนของเสียให้เปลี้ยกาย

 

เฮเนเกนท์พิมพ์ใจใฝ่หาเลี้ยง ถือแก้วเคียงเฮฮาพาหนาวหาย
บ้างรับลมดมกลิ่นผกากราย คลี่ขจายกลิ่นหอมให้ดอมดม
ที่มีคู่อยู่ชิดติดเคียงแนบ ก็อิงแอบยิ้มรื่นเราขื่นขม
จำใจแสร้งแกล้งเย้าเข้าชื่นชม เพียงขุนเขากันลมช่วยข่มใจ

 

ถึงเวลาละครดังต่างนั่งเฝ้า น้องเอยเศร้ารักพี่วิกที่จิกใส่
รอพี่วิกเปล่งวาจาว่าอภัย ดูคราใดใจร้าวเศร้าตามเอย
ค่ำคืนนี้ไร้อ้อมกอดให้ออดอ้อน มีเพียงหมอนแอบอิงนอนนิ่งเฉย
รอพี่เอียดเบียดกอดสอดแขนเกย หวั่นพี่บ๊ะจะเปรยเอ่ยตัดรอน
เห่อห้องใหม่หมอนหอมจำยอมหลับ รุ่งรอรับสีสันตะวันอ่อน
ในอ้อมกอดขุนเขาที่เนานอน ไร้ไอร้อนอบอุ่นให้กรุ่นทรวง
  ๑๐ ธันวาคม ๕๑



ยามรุ่งเช้าเขียวมะนาวพราวไสว จากน้ำใจพี่ภักดีไม่มีหวง
เสื้อภูฟ้างามตากว่าทั้งปวง ชักติดบ่วงของฟรีสิแล้วเรา
อาหารเช้าในอ้อมกอดยอดเยี่ยมยิ่ง ทานทุกสิ่งสิ้นสรรพไม่อับเฉา
ได้เวลาด่วนเดินจากเนินเนา พบเพื่อนเก่าเบญจมราชูทิศ
ราชบุรีที่หมายเบญจมฯ ทัศนะการศึกษาภารกิจ
อาชีพครูจะรุ่งเรืองอยู่เนืองนิตย์ ครูต้องคิดพัฒนาวิชาการ
รองผอ.รอรับกับคณะ กล่าววาทะเชิดชูครูทุกท่าน
ชมวีดิทัศน์จัดมาว่าเชี่ยวชาญ ชมผลงานเกียรติประวัติจัดมาโชว์





พบพี่ป้อมเพื่อนเรียนเวียนมาทัก มีผลงานประจักษ์อยู่อักโข
หมอภาษาคุณธรรมทำใหญ่โต มิใช่โอ่อ้างอิงล้วนจริงแท้
กลุ่มงานช่างช่างประดิษฐ์คิดโคมหรู มิเพียงดูมอบให้ได้เผื่อแผ่
เป็นตัวอย่างนักเรียนรู้จากดูแล ฝีมือแน่ควรกล่าวชาวราดรี





กิจกรรมชุมนุมดุ่มศึกษา พิพิธภัณฑ์เสริมค่าสง่าศรี
นักสะสมของเก่าเขามากมี ชุมนุมดีวิธีเด่นเป็นเพราะครู
ขอขอบคุณอาหารทานเต็มอิ่ม มากผักจิ้มแล้วนี่ซึ่โครงหมู
เต้าเจี้ยวหลนสนใจอีกแล้วตู หากอดสูกินนักจักอายกัน


เข้าคูบัวเคลื่อนย้ายหมายซื้อผ้า ไม่รอช้าคว้าสตางค์วางท่ามั่น
คนละผืนสองผืนยืนประชัน ใบละพันจับจ่ายง่ายเหลือเกิน
จากปักษ์ใต้ครูเศรษฐีมีเงินถัง สวนปาล์มยังยางพาราน่าสรรเสริญ
กวดวิชาเงินมาพาเพลิดเพลิน มิอาจเมินหนีหน้าแม้ผ้าแพง
เราเงินน้อยหอยน้อยทุนต้อยต่ำ คว้าผ้าดำหลักร้อยสอยมาแต่ง
เศรษฐีเลือกผ้าดีสีเขียวแดง ยังมีแรงเรียกร้องอีกสองร้าน
จิปาฐะพิพิธภัณฑ์ครูหันกลับ ก้าวฉับฉับผ้ามณีสีจัดจ้าน
ผ้าคูบัวหมายมั่นฉันต้องการ พิพิธภัณฑ์แต่วันวารเพียงผ่านตา


จากราดรีเข้าเมืองนิลถิ่นพลอยใส    หวังจะไปซื้อมณีที่เสาะหา
เหรียญสลึงถึงร้อยทยอยมา วางแผนล่ามณีที่ประมูล
วิมลรัตน์เตรียมของขวัญปันพวกพ้อง คอยจับจองตัดหน้ามิให้สูญ
ปีใหม่มีศิลามณีนี้เกื้อกูล แจกประยูรเพื่อนพ้องได้ต้องใจ
มามอบมุกสีขาววาวแวววับ พร้อมสำทับตัวเราเอาไว้ใส่
คงรำคาญการแต่งไม่แข่งใคร ด้วยเยื่อใยน้อมรับซับไมตรี

อ่านต่อด้านล่าง >>>  

หมายเลขบันทึก: 504599เขียนเมื่อ 5 ตุลาคม 2012 12:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 ธันวาคม 2012 14:43 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

 

 

นิราศอ้อมกอด...ไพเราะนะคะ

 

ขอบคุณค่ะ

จากราดรีเข้าเมืองนิลถิ่นพลอยใส หวังจะไปซื้อมณีที่เสาะหา
เหรียญสลึงถึงร้อยทยอยมา วางแผนล่ามณีที่ประมูล
วิมลรัตน์เตรียมของขวัญปันพวกพ้อง คอยจับจองตัดหน้ามิให้สูญ
ปีใหม่มีศิลามณีนี้เกื้อกูล แจกประยูรเพื่อนพ้องได้ต้องใจ
มามอบมุกสีขาววาวแวววับ พร้อมสำทับตัวเราเอาไว้ใส่
คงรำคาญการแต่งไม่แข่งใคร ด้วยเยื่อใยน้อมรับซับไมตรี


เข้าเฟลิกซ์โรงแรมดีที่พิงพัก โอ่โถงนักเกินหน้าเงินตรานี่
ห้องกว้างขวางทุกแห่งตกแต่งดี ี แล้วเร็วรี่ล่องแควแลวิวงาม
บรรยากาศยั่วยวนชวนคลอคู่ แต่เหลียวดูหญิงล้วนชวนให้ขาม
จึงอิจฉาท่านรองฯคู่ครองตาม ู่ แล้วหักห้ามใจตนจนค่อยคลาย
อาหารดีเพื่อนดีไมตรีล้อม สุวิทย์กล่อมเพลงเก่าให้เหงาหาย
วางภาระไว้ก่อนขอผ่อนคลาย ความคับข้องมากมายทิ้งลงแคว




ถึงเวลาชะชะช่ามาเขย่า อายุเยาว์เป็นปลื้มลืมความแก่
ส่งสะโพกโยกย้ายส่ายบนแพ ความชะแร่ชราวัยไม่เหลือรอย
สายแควไหลทางเดียวไม่เลี้ยวย้อน เหมือนจะสอนเวลาไม่ล่าถอย
โอกาสมาคว้าพลันอย่ารั้นคอย จะหลุดลอยหากช้าไม่คว้าไว้
ขึ้นจากแพไร้ทุกข์สุขท่วมท้น ทุกทุกคนรอ”ใจร้าว”เฝ้าร่ำไห้
เปิดประตูรีบดิ่งสิ่งถูกใจ ลุ้นเมื่อไรน้องเอยเปิดเผยคำ
ที่นอนดีอากาศดีนอนมีสุข ไม่อยากลุกเวลาดีที่ดื่มด่ำ
เพียงแต่เก็บกลิ่นอวลค่าควรจำ บันทึกนำเก็บอ่านกาลต่อมา
๑๑ ธันวาคม ๕๑

อาหารเช้าไม่รอท่าให้ช้าได้ เพื่อนจะไปเลือกนิลถวิลหา
คนละพวงสองพวงร้อยบ่วงคว้า กรุณาเผื่อแผ่แหมถูกใจ
เราแสร้งนิ่งพิงเฉยละเลยอยู่ ู่ พี่เอ็นดูกำนัลปันนิลให้
เงินอยู่ครบจบเที่ยวไม่เกี่ยวใคร ด้วยอาศัยของฟรีแหมดีจัง
อิ่มจังตังค์อยู่ครบแอบขบคิด เพื่อนสนิทหลงเล่ห์เจ๊จุ๋มตั้ง
เห็นของขายส่ายหน้าไม่อินัง พอเพื่อนสั่งค่อยแจมอ้อมแอ้มเอา

จากเมืองกาญจน์ผ่านอู่ทองท่องขุนแผน สู่ดินแดนวัฒนธรรมย่ำของเก่า
สงวนหญิงรอรับกับพวกเรา ของดีเขามากมีชี้แนะนำ
สงวนหญิงรักนวลสงวนน้อง ให้ผุดผ่องมากค่านะคมขำ
ของสงวนล้วนศักดิ์ศรีมีค่าล้ำ อย่าด่วนทำของสงวนเสียนวลนาง
รองวิชาการการเก่งดูเคร่งครัด รายงานชัดนำโยงเรื่องโครงสร้าง
จะเจาะลึกใดดีชี้แนวทาง จัดคนวางเดินดุ่มกลุ่มสาระ



คิดวิเคราะห์อ่านเขียนทำเนียนแนบ จดจำแบบประจักษ์ลักษณะ
เด็กอ่านเขียนปั่นป่วนด่วนชำระ ทำติดปะมองเห็นดูเด่นดี
มารยาทประกาศมีทุกที่ผ่าน คมคำขานขออภัยในทุกที่
ขอขอบคุณนะคะสวัสดี ต่างชวนชี้จำแบบแอบเอาไป



ถนนสุพรรณสรรค์สร้างเส้นทางเยี่ยม ถนนไหนฤๅเทียมเปรียบปานได้
ถนนตรงคงแน่วเป็นแนวไกล คงเหมือนใจท่านบรรหารบ้านสุพรรณ
บึงฉวากลากปลามาทั่วทิศ ท่านบรรหารเนรมิตคิดสร้างสรรค์
เพื่อชาวบ้านมีถิ่นทำกินกัน เมืองขุนแผนจึงพลันได้เจริญ


พิพิธภัณฑ์ควายหลายครูอยากดูนัก มะลิจักดูควายจึงหมายเกริ่น
มีนัดหมายข้างหน้ามาเชื้อเชิญ จึงจำเมินมุ่งหน้าลาฝูงควาย


ขึ้นหอคอยคอยคนรักพักร่วมหอ คอยเคลียคลอล้อเราพอเหงาหาย
แม้ครานี้มีเพียงเพื่อนออกเกลื่อนกาย กลับเดียวดายเพียงตนบนหอคอย
น้ำพุเต้นเล่นระบำทำจังหวะ ฉะช่าฉะเลียนเล่นเต้นหยอยหยอย
ฉากน้ำตกซัดซ่านดุจม่านย้อย ละอองฝอยลิ่วมาหาเนื้อเย็น


คุ้มสุพรรณผันกายาหาห้องพัก ต่างประจักษ์อาหารค่ำนำมาเห็น
เลี้ยงโต๊ะจีนอิ่มหนำไม่ลำเค็ญ พี่เอียดเป็นเจ้าภาพซาบซึ้งใจ
รองผู้การวีระน่ะเอื้อเฟื้อ ด้วยกูลเกื้อรองฯพิกัดจัดการให้
อาหารค่ำจึงยิ้มย่องผ่องอำไพ ฟังเพลงไปลิ้มอาหารสำราญดี
คนสุพรรณเสียงดีเป็นที่หนึ่ง ต่างรู้ซึ้งเสียงร้องต้องที่นี่
ถิ่นนักร้องก้องกังวานมานานปี นักร้องมีมากหน้าเกินกว่านับ
หากร้องดีมีอวบอั๋นมาดันเสริม ก็ยิ่งเพิ่มมนตราตาคอยจับ
เมื่อบัวตูมเด่นตาล้นผ้ารับ มิขยับกะพริบตาลาเพลงฟัง
๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๑
ครั้นรุ่งเช้าเข้าอิสานบ้านพี่ติ๋ม จะไปชิมไก่วิเชียรที่เพียรหวัง
ไก่ขึ้นชื่อลือเลื่องเรื่องโด่งดัง พี่ติ๋มสั่งตำยำทำมากมาย
คนใต้บุกรุกแคว้นแดนอิสาน เสียงส้อมจานขานสั่งดังเหลือหลาย
พวกปลาร้าถูกรังเกียจมิเฉียดกราย หากสมหมายกลุ่มปลาร้าห้าหกคน
ทั้งไก่บ้านไก่พันธุ์ช่างสรรหา มีมากมายเกินอัตราส่ายหน้าบ่น
หัวเราะร่วนป่วนลั่นนฤมล อิ่มท่วมท้นพี่ภักดีใจดีเกิน
จากเสียงดังนั่งเงียบอย่างเรียบร้อย เมื่อตำรวจไม่น้อยคอยเกร่เกริ่น
พลตำรวจเอกพัชรวาทมาดชวนเชิญ มิขัดเขินทักทายคล้ายกันเอง

เมื่อกินหมดรถออกขยอกขย้อน ที่นั่งโยกโขกคลอนกระดอนเด้ง
ที่อยู่หลังนั่งสะเทือนเลื่อนลอยเคว้ง มือกำเกร็งยื้อยุดฉุดเบาะไว้
พี่เดียนาสิ้นเสียงเอียงคอพับ ท้องแน่นคับหลายคราพาลมใส่
เพลงโอเกะแว่วมาล้าเกินไป ที่เงียบไซร้ลมจับรับรู้กัน


สองข้างทางเขียวขจีสีเขียวข้าว ความปวดร้าวชาวนาพาโศกศัลย์
หวังกำไรจากนาข้าวปวดร้าวครัน น้ำท่วมพลันข้าวตายหลายครั้งครา
หวังกำไรปีนี้คงดีแน่ ต้องท้อแท้ร่วงกราวข้าวไร้ค่า
กระดูกสันหลังชาติทาสวาจา คนไร้นาคลังข้าวเจ้าเงินทอง
พี่สุดานายหน้ามาคุยโม้ ได้ส้มโอฟรีฟรีนี่ตั้งสอง
พี่กินอิ่มชิมล้นชวนคนลอง จนเจ้าของขายดีพี่ทำเป็น


ไร่บุญคงดงมะขามต่างถามหา ความเป็นมาอธิบายให้ได้เห็น
สีชมพูสีทองในห้องเย็น ไม่ยากเข็ญซื้อหาสี่ห้าร้อย
กำนัลจุลวุ่นว้าการหาซื้อ ส่วนปากหรือชิมพลางอย่างอร่อย
จนอิ่มท้องต้องหยุดนุชตาปรอย กลัวไม่ย่อยแน่นท้องจำต้องพอ


วกตีกลับอยุธยาในขากลับ เสียงเพลงขับรับกันคั่นหัวร่อ
อ.ประพาสเสื้อแดง นปช. ขับเสียงคลอสุวิทย์บุณยฤทธ์ตาม
จิ๋มแขกยวนเพ็ญจี๊ดอี๊ดแอ๊ดอิ๋ว เสียงแผ่วพลิ้วเพียงตาลที่หวานหวาม
คนเป็นลมพี่เดียนาพยายาม จะหักห้ามสังขารประสานเพลง
เมื่อรถหยุดเร่งรุดเข้าสุขา สุรภีรีบคว้าไมค์เหมาะเหม็ง
ทูลทองใจเพราะดีขอจี๊ดเอง แอบบรรเลงคนเดียวไม่เกี่ยวใคร
คนร้องดีเสียงดียังมีซ่อน คือพี่เจี๊ยบอรชรซ่อนเสียงใส
เพียงนั่งนิ่งยิ้มอ่อนซ่อนคมไว้ ร้องเมื่อไรไพเราะเสนาะกรรณ
ฟังเพื่อนร้องหมองหม่นถึงคนรัก เคยหนุนตักพักอิงแอบมิ่งขวัญ
เพลงรอยเล็บเหน็บรักปักใจครัน คราโศกศัลย์พี่กล่อมย้อมอารมณ์
“คนหนักโลก”มองโลกใจห่อเหี่ยว ส่งเสียงเกี้ยวลอยมาพาสนิทสนม
เสียงไพเราะกินใจใฝ่ชื่นชม คนหนักโลกลวงลมจมน้ำตา

มื้อค่ำนี้ฟรีอีกครั้งยังอิ่มตื้อ รองฯเจ้ามือครูจิ๋มยิ้มรอท่า
เจ้าปลุกสามอร่อยสุดอยุธยา ด้วยศรัทธามิอาจขัดซัดเต็มพุง
ค่ำคืนนี้วรบุรีคือที่พัก คนคึกคักวุ่นวายหญิงชายยุ่ง
แบกกระเป๋ายืนเร่เกือบเซตุง เพื่อนพยุงยึดยั่นจึงมั่นคง
้ห้ าศูนย์เก้าเข้าห้องสองคนเพื่อน มิอุ่นเหมือนหนุ่มเหน้าเข้ามาส่ง
วัยชะแร่แก่ชราใครคว้าลง ได้แต่ปลงยอมรับกับความจริง
เปลี่ยนเสื้อผ้าลาน้ำอุ่นนอนหนุนหมอน มาเพื่อนอนแท้แท้แม่ยอดหญิง
พี่เอียดค่อนขอดว่าทำท่าติง เรานอนนิ่งม้วนเดียวจอดตลอดคืน

๑๓ ธันวาคม ๒๕๕๑


ครั้นรุ่งเช้าทัวร์ตลกวกอิสาน องุ่นหวานแวงเดอเรย์เร่ระรื่น
หวังได้ลิ้มชิมอมดื่มดมกลืน ให้แช่มชื่นใสสดด้วยรสไวน์
ทิวทางผ่านทานตะวันประชันดอก เหมือนจะหยอกเย้าตะวันฉันสวยไหม
เหลืองระยับจับตาหน้าภูไพร เจ้าดอกไม้เก่งกล้าท้าตะวัน
เพียงดอกไม้กลับกล้าท้าสู้แสง คนแข็งแรงกลับมิกล้าน่าเดียดฉันท์
คราคับข้องฤดีมักหนีพลัน อับอายครันพ่ายแพ้แม้มาลี




แวงเดอเรย์คุณจเรเร่รอรับ ต่างพรึ่บพรั่บขยับพลันขมันขมี
เจ้าของมัวบรรยายหลายนาที ครูเร็วรี่จับจองไม่ต้องเชิญ
น้ำองุ่นร้อยเปอร์เซ็นต์เร้นหายล่อง พี่เพยจองยึดไว้ไม่ขัดเขิน
คนที่ฟังบรรยายจึงสายเกิน อดเพลิดเพลินน้ำองุ่นให้กรุ่นทรวง
หลายคนซื้อไวน์ดีเตรียมปีใหม มอบเมรัยไมตรีที่เป็นบ่วง
คล้องสัมพันธ์สัญญามาทักท้วง ่ ยังหวงห่วงภักดีอารีกัน
เมาเมรัยพักอยู่เพียงครู่หาย เมาคำชายหลายปีชังยังโศกศัลย์
เมาคำชมลมลวงเพียงห้วงวัน เกือบตายพลันแล้วเราเมาคำชม

มีที่หมายไร่ปภัสรามุ่งหน้าต่อ จะร้องขอถ่ายรูปคู่ดูเหมาะสม
“กบ” ไม่อยู่ดูไร่ไร้อารมณ์ ฟังระงมเสียงม้าขอลาที
กินสเต็กแอ็คชั่นฉันหัวสูง แท้เพื่อนฝูงเลี้ยงหรอกออกเงินนี่
สามสี่วันที่อ้วนล้วนกินฟรี ทัวร์ภักดีอิ่มจังตังค์อยู่ครบ
เพื่อนขยาดขลาดเอาเรามาด้วย เพราะต้องช่วยจ่ายเงินตนจนทัวร์จบ
หวั่นพี่เอียดระอาไม่มาคบ จุ๋มคงพบเหว่ว้าอีกคราแล้ว
ก็เบี้ยน้อยหอยน้อยคนต้อยต่ำ ได้แต่ทำหน้าสวยด้วยตาแป๋ว
อ้อนพี่เอียดเบียดพี่รัตน์ถนัดแนว ก็คลาดแคล้วรังเกียจเดียดฉันท์ตน

กลับอีกครั้งอยุธยาคราเย็นย่ำ อาหารค่ำมื้อนี้ฟรีอีกหน
พี่สาครเจ้ามือมื้อท่วมท้น มากมายจนเกินกินสุดยินดี
รู้สึกอายกินฟรีพี่หลายมื้อ มิอาจยื้อแย่งจ่ายจากหลายพี่
เป็นเนื้อหนูแปะเนื้อช้างอย่างไรมี ด้วยเจียมตัวหรอกพี่มิจ่ายทอน
ค่ำคืนนี้มี "ยอยศยิ่งฟ้าฯ " โบกมือลาแล้วหนอขอลาก่อน
สังขารโหยโรยร่วงด้วยง่วงนอน ขอพักผ่อนสักคราจุ๋มล้าแล้ว
๑๔ ธันวาคม ๒๕๕๑


ลาเมืองเก่ารุ่งเช้าเข้าวันใหม่ ไหว้วัดใหญ่ชัยมงคลดลผ่องแผ้ว
ครบเวลาห้าวันต้องผันแจว จิตใจแป้วปั่นป่วนไม่ชวนลา
มีสายไหมบังบีจากพี่แขก มาจ่ายแจกถุงละคนจนถ้วนหน้า
แถมหมี่กรอบอร่อยสุดอยุธยา จุ๋มตีตราเจ้าของเขียนจองคุม
รีบตะลอนดอนหวายสุดท้ายนั่น ต่างหมายมั่นสรรซื้อมะรุมมะตุ้ม
ตะเพียนต้มสลิดทอดจอดรอรุม ซื้อให้คุ้มนานทีจะมีทาน
เป็ดพะโล้บังหนับสับใส่กล่อง ฝากเพื่อนพ้องน้องพี่ที่อยู่บ้าน
พริกตาแดงหน่อไม้ต้มสมดวงมาลย์ ขนมโบราณมากมายหากหมายซื้อ
ผักสีเขียวผลไม้หลายชนิด เพียงแต่คิดหมายมองท้องอิ่มตื้อ
ที่หอบหิ้วห้าถุงยุ่งเต็มมือ ส่ายหน้าหวือเดินลู่ไปสู่รถ

จบเส้นทางสุดท้ายที่หมายมั่น ความสุขสันต์ค่าล้ำขอจำจด
ท่านรองฯโต้งพยายามอย่างงามงด เราทั้งหมดขอบคุณที่อุ่นไอ
ขอขอบคุณพี่ภักดีที่น่ารัก แม้ป่วยหนักมาจัดการสานต่อให้
แม้พี่จะเออร์ลี่ยังมีไฟ มอบน้ำใจมากค่ากว่ารำพัน
ขอขอบคุณ ผอ.ประภาศรี ท่านมากมีความคิดกิจสร้างสรรค์
อนุมัติเงินให้ใช้จ่ายกัน จะขยันตอบกลับรับไมตรี
สมาคมผู้ปกครองต้องกล่าวขาน เขาจัดการทุนเติมเสริมมันนี่
ทำให้ครูได้ทัวร์ทั่วทุกปี สอนเด็กดีเขาสรรปันน้ำใจ


ตามอ้อมกอดสอดหาห้าวันแล้ว ก็ยังแห้วอ้อมกอดหาสอดไม่
ห้าวันหนาวเท่านี้มิเป็นไร ด้วยชินหนาวหัวใจเนิ่นนานมา
ขออยู่ในวงล้อมอ้อมแขนเพื่อน คงอุ่นเหมือนกอดพี่ที่ใฝ่หา
อ้อมกอดนี้มีไมตรีมีเมตตา อุ่นอุราคงมั่นนิรันดร
จึงขอจบบันทึกผนึกถ้อย เก็บร่องรอยงานครูดูการสอน
รวบรวมถ้อยร้อยรัดทัศนาจร จากพักผ่อนเพิ่มพลังดังรายการ
มิเทียบรุ่นสุนทรภู่ครูอาลักษณ์ ขาดรสรักสลักคำที่ฉ่ำหวาน
ไม่โศกเศร้าเร้ารุมกลุ้มดวงมาลย์ เพียงจดจารจากใจใฝ่เขียนเอย ฯ

ครูภาทิพ ศรีสุทธิ์
๑๕ ธันวาคม ๒๕๕๑
๑๓.๐๐ น.

สวัสดีค่ะ 

Ico48

Dr. Ple

เพิ่งมาสังเกตเห็นว่าข้อความที่โพสต์ไป  แสดงไม่ครบ  จึงต้องนำมาลงต่อค่ะ   ขอบคุณที่แวะมาอ่านค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท