การศึกษาไทย กับศตวรรษที่ ๒๑
ผมได้รับจดหมายดังนี้
โดยมีเอกสารแนบ ดังต่อไปนี้
ประเด็นคำถามเพื่อลงในวารสาร School in focus ฉบับที่ 11 สัมภาษณ์ ศ.นพ. วิจารณ์ พานิช
๑. นโยบายของการศึกษาควรจะต้องขับเคลื่อนอย่างไรเพื่อให้สอดคล้องกับการศึกษาในศตวรรษที่ 21
๒. โรงเรียนจะเตรียมพร้อมอย่างไรให้แก่ทั้งผู้บริหาร ครู และนักเรียนเมื่อเข้าสู่การศึกษาในศตวรรษที่ 21
๓. มองว่าอะไรที่การศึกษาไทยยังขาดและต้องเร่งยกระดับเพื่อเข้าสู่การศึกษาในศตวรรษที่ 21 ได้อย่างมี ประสิทธิภาพ
๔. นักเรียนต้องพัฒนาตนเองเช่นไรบ้างเพื่อเตรียมพร้อม เพื่อจะพัฒนาทักษะการเรียนรู้ ไปจนถึงทักษะที่จะต้องมี เมื่อเข้าสู่การทำงาน
๕. ผู้ปกครองจะมีส่วนร่วมสนับสนุนด้านใดได้บ้างทั้งแก่ตัวนักเรียนและโรงเรียน
ผมถือเป็นโอกาสดี ที่จะสื่อสารกับครู และผู้คนในวงกว้างเพื่อหาทางรวมพลังผู้คนในสังคมไทย ดำเนินการกอบกู้ระบบการศึกษาไทย ให้กลับมาเป็นพลังขับเคลื่อนสังคมไทยไปสู่ความเข้มแข็ง ไม่ใช่เป็นตัวการสร้างความอ่อนแอแก่สังคมอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
คำถามข้อ ๓ คือหัวใจ หรือภาพรวมของการศึกษาไทยในขณะนี้ คำตอบคือไม่ใช่ปัญหาของความขาดแคลน แต่เป็นปัญหาของการทำมากเกินไป และซ้ำร้ายทำแบบมิจฉาทิฐิ หรือเดินผิดทาง
สิ่งที่มากเกินไป คือการควบคุมและสั่งการ จากส่วนกลาง เป็นการบริหารการศึกษาของประเทศแบบควบคุมและสั่งการ หรืออำนาจรวมศูนย์ มีผลทำให้ครูและผู้บริหารระดับล่างๆ ขาดความมั่นใจตนเอง ขาดทักษะในการคิด ขาดความริเริ่มสร้างสรรค์ และขาดความรับผิดชอบต่อผลสัมฤทธิ์ในการเรียนของนักเรียน
โรงเรียน ผู้บริหารโรงเรียน และครู ไม่ต้องรับผิดชอบต่อผลสัมฤทธิ์ของศิษย์ นี่คือสิ่งที่ผมเรียกว่ามิจฉาทิฐิ
มีอีกหลายส่วนเลยมิจฉาทิฐิไปสู่การฉ้อโกง (คอรัปชั่น) เช่นการซื้อตำแหน่ง การว่าจ้างทำผลงาน
เรานัดไปคุยกันที่มูลนิธิสดศรีฯ บ่ายวันที่ ๒๓ ส.ค. ๕๕ ทางอักษรเจริญทัศน์ยกขบวนมาถึง ๖ คน นำโดยคุณวสันต์ สว่างศรีงาม ผู้อำนวยการสายพัฒนาธุรกิจ
เนื่องจากทางอักษรเจริญทัศน์มีผู้ใหญ่มาร่วมคุย และเอาหนังสือคู่มือครูมาให้ดู รวมทั้งเอาตัวอย่างวารสาร School in Focus มาให้ดูด้วย ผมจึงบอกว่า คำถามที่ให้มาตกข้อที่ ๖ ไป คือ ๕ ข้อที่ถาม ถามบทบาทของผู้ปกครอง ครู โรงเรียน ฯลฯ จึงควรเพิ่มคำถามข้อ ๖ ว่า บริษัทอักษรเจริญทัศน์ควรทำอะไร ผมเสนอว่า บริษัทฯ ควรเข้ามาร่วมขบวนการขับเคลื่อนการศึกษาไทย อย่างน้อยก็ในวารสาร School in Focus โดยเอาเรื่องราวด้านบวก ด้านทำถูกต้องเหมาะสมต่อการศึกษาในศตวรรษที่ ๒๑ ออกสื่อสาร ยกย่อง และหาทางสนับสนุนให้ทำได้กว้างขวางเชื่อมโยง และลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ผมชี้ให้เห็นว่า ระบบการศึกษาไทยยังเน้นสอนวิชา เน้นให้รู้วิชา เน้นถูก-ผิด ซึ่งเป็นลักษณะของการศึกษาในศตวรรษที่ ๒๐ โดยหลักสูตรกำหนดตายตัวให้ครูทำ-ไม่ทำ อะไรบ้าง ทำให้ครูไม่ได้ฝึกหรือเรียนรู้ทักษะการคิด ครูมุ่งสอนตามสูตรและสาระวิชาที่กำหนดไว้ตายตัว ก็จะไม่ได้การเรียนรู้สำหรับศตวรรษที่ ๒๑ และถ้าหนังสือของบริษัทอักษรเจริญทัศน์ก็เน้นสาระที่ตายตัวเช่นเดียวกัน ก็จะยิ่งตอกย้ำให้ครูยึดถือการศึกษาแห่งศตวรรษที่ ๒๐ คุณวสันต์บอกว่า ทางสำนักพิมพ์ก็ตกอยู่ใต้อาณัติของกระทรวงศึกษาธิการด้วย คือต้องส่งร่างต้นฉบับหนังสือไปให้กระทรวงฯ รับรอง จึงจะเป็นหนังสือที่ได้รับการยอมรับ และกระทรวงฯ ก็เน้นตรวจสาระที่ตายตัว รวมทั้งรูปแบบตามที่ยึดถือต่อๆกันมา
คุณวสันต์ชี้ให้ดูหลักการ 5E ในการเรียนรู้ เริ่มจาก Engagement ผมชี้ว่า ขาด A ไปหนึ่งตัว คือ Activity ซึ่งหมายความว่า การเรียนรู้สมัยใหม่ ต้องเรียนจากการลงมือทำกิจกรรม
การพบปะกันครั้งนี้ ก่อความสัมพันธ์สืบเนื่องระหว่าง บริษัทอักษรเจริญทัศน์ กับ มสส. ซึ่งจะได้เล่าในโอกาสต่อไป
วิจารณ์ พานิช
๒๔ ก.ย.๕๕
ไม่มีความเห็น