KM (แนวปฏิบัติ) วันละคำ : 577. คลังปัญญาปฏิบัติ
บันทึกนี้ ต่อจากบันทึกที่แล้ว เป็นวิธีสั่งสม “ปัญญาปฏิบัติ” แบบง่ายๆ ของหน่วยงานที่ทำงานแบบ “โครงการ” จำนวนมาก โดยเฉพาะหน่วยงานที่ให้ทุนสนับสนุน
ผมสังเกตว่าหน่วยงานเหล่านี้ “นั่งทับสมบัติ” จำนวนมาก โดยตนเองไม่ได้เอามาใช้ให้เกิดประโยชน์ หรือไม่รู้วิธีเอามาใช้ให้เกิดประโยชน์
“สมบัติ” ที่ว่านี้คือเอกสารรายงาน โดยเฉพาะรายงานฉบับสมบูรณ์ หน่วยงาน ส. และหน่วยสนับสนุนทุนทั้งหลาย มีเอกสารรายงานต่างๆ มากมาย เป็นภาระจัดเก็บ แต่ไม่ค่อยได้เอามาใช้ เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานเหล่านั้นก็ไม่รู้คุณค่าของสาระภายในเอกสาร เป็นการสูญเสียโอกาสเพิ่มพูนปัญญาแก่ตนเอง ทั้งๆ ที่โอกาสอยู่รอบตัว ซ้ำร้ายหน่วยงานเหล่านั้น ก็พลาดโอกาสใช้ความรู้จากรายงานเหล่านั้น ให้เกิดประโยชน์ต่อการทำงานให้เกิดคุณค่าต่อบ้านเมืองมากขึ้น ซึ่งที่จริงแล้วไม่ใช่เพิ่มเชิงปริมาณ แต่เป็นการเพิ่มเชิงคุณภาพ หรือยกระดับขึ้นสู่การทำงานใน “ภพภูมิ” ที่สูงขึ้น (new order)
วิธีสร้างคลังปัญญาปฏิบัติ ทำได้ง่าย ด้วยการวางระบบการทำงาน โดยเฉพาะระบบการเขียนรายงาน และการใช้ระบบ ไอที สมัยใหม่
หน่วยงานให้ทุน กำหนดเงื่อนไขวิธีเขียนรายงานฉบับสมบูรณ์ ว่านอกจากรายงานตามแบบที่ใช้อยู่เดิมแล้ว ให้เพิ่มหมวด Knowledge Assets (KA - ความรู้ใช้งาน) ๕ ข้อ ที่ถือว่าเป็นความรู้ใช้งานหรือปัญญาปฏิบัติที่คิดว่าเป็นประโยชน์และมีความแปลกใหม่ที่สุดเท่าที่พบจากการทำโครงการนั้น แต่ละข้อเขียนจำกัดความยาวเพียง ๑๐ บรรทัด โดยบอกชื่อบุคคล หน่วยงาน และหมายเลขโทรศัพท์ และ อี-เมล์ สำหรับติดต่อไว้ด้วย เพราะเมื่อมีผู้สนใจ KA นั้น จะต้องติดต่อขอข้อมูลเพิ่ม เพราะ “ความรู้ปฏิบัติ” เขียนให้ครบถ้วนใน ๑๐ บรรทัดไม่ได้
หน่วยงานให้ทุน อาจกำหนดให้ เจ้าหน้าที่ ที่รับผิดชอบโครงการนั้น ของหน่วยงาน ต้องเขียน KA ของตน จากการทำงานร่วมกับผู้ทำโครงการ ๓ - ๕ ข้อเติมลงไปด้วย
หน่วยงานให้ทุน กำหนดโครงสร้างของ “คลังปัญญาปฏิบัติ” ตามภารกิจหลักของหน่วยงาน ว่ามีกี่หมวดใหญ่หมวดย่อย แหล่งของ KA ที่เป็น input สู่คลังปัญญาฯ อยู่ที่ไหนบ้าง และผู้ใช้เป็นใคร อยู่ที่ไหน มีพฤติกรรมการใช้คลังปัญญาฯ และการทำงานอย่างไร ฯลฯ แล้วนำมาออกแบบ “คลังปัญญาปฏิบัติ” (Phronesis Bank) บน อินเทอร์เน็ต เปิดให้สมาชิกใช้งาน ๒๔ ชั่วโมง x ๓๖๕ วัน ให้เป็น “คลังปัญญาเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้” (Interactive Knowledge Base) คือยิ่งใช้ ยิ่งมีปัญญาปฏิบัติที่ลึกซึ้งเชื่อมโยงยิ่งขึ้น เพื่อเป้าหมายการทำงานหลักของหน่วยงานที่ highly effective
หน่วยงานใดสนใจแนวทางนี้ ผมขอแนะนำให้อ่านวิธีการเพิ่มเติมจากหนังสือ No More Consultants หรือหากยังต้องการ consultants ผมขอแนะนำ สคส.
วิจารณ์ พานิช
๒๖ ก.ย. ๕๕