ตุ๊กตาไร้หน้า (Amish III)


การจะอยู่ได้อย่างมีความสุขนั้น ไม่ได้เริ่มต้นด้วยการสะสมทรัพย์และนำมาเป็นเครื่องแสวงหาสิ่งต่างๆที่เราต้องการ เพราะธรรมชาติของความอยากนั้นไม่มีวันจบสิ้น และไม่อาจจะสนองตอบมันได้ทั้งหมด แต่คนที่จะมีความสุขได้นั้นต้องเริ่มต้นจากการทำความรู้จักกับตนเองให้ได้เสียก่อน และเมื่อรู้จักตนเองแล้วเราจะรู้เองว่าเราจะมีความสุขได้อย่างไร

เขียนบันทึกเรื่องราวของชาว Amish เป็นตอนที่สามแล้ว ชอบเรื่องราวของ Amish จริงๆครับ อาจเพราะเป็นรูปแบบสังคมที่ผมฝันเอาไว้ก็ได้ ถึงความจริงจะไม่ได้สมบูรณ์แบบเหมือนในฝันก็ตามที สำหรับบทความนี้เป็นเรื่องราวของหัตถกรรมพื้นบ้านของชาว Amish ที่เป็นที่รู้จัก และเป็นของฝากสำหรับผู้มาเยือนชุมชน Amish

สิ่งนั้นคือ “ตุ๊กตาไร้หน้า” ของฝากชวนสยองของ Amish ตุ๊กตาที่ชาว Amish ทำขึ้นนั้นไม่มีภาพใบหน้า และทำกันมาเนิ่นนานแล้ว สาเหตุของการไม่มีหน้าของตุ๊กตานั้น เป็นความเชื่อของชาว Amish ซึ่งมีแนวคิดของการอยู่แบบไร้ตัวตน ไม่มีคำว่าใครในสังคม Amish มีแต่ Amish ที่หมายถึงกลุ่มชนเท่านั้น ชาว Amish แต่ละคนห้ามมีบุคลิกของตนเอง ทุกคนจะทำอะไรเหมือนกันหมด ดำเนินชีวิตเหมือนกัน ใช้เครื่องใช้คล้ายๆกัน ปลูกบ้านขนาดพอๆกัน แต่งตัวเหมือนกันหมด ชาว Amish ยังไม่ยอมให้ถ่ายภาพใบหน้าบุคคลอีกด้วย การอยู่อย่าง Amish นั้นไร้ตัวตน ตุ๊กตาของ Amish จึงไม่มีใบหน้า เช่นชาว Amish ทั้งหลาย

อ่านแล้วเชื่อว่าหลายๆท่านคงภาวนาไม่ขอเกิดเป็นชาว Amish เด็ดขาด เพราะไม่อยากอยู่อย่างไร้ตัวตน... และกฎระเบียบมากมายเช่นนั้น มันช่างจำกัดสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลอย่างร้ายแรง แต่ความจริงก็คือ Amish เกือบทั้งหมด เต็มใจและมีความสุขกับวิถีเช่นนั้น

การยึดติดในตัวตนของเรานั้น ทำให้เกิดความเห็นแก่ตัวมากกว่าเพื่อนพร้องและชุมชน การที่ไม่ต้องแต่งหน้าทำให้เราหลุดพ้นจากความปรารถนาจะอยู่เหนือใคร หรือเป็นอะไรที่มากกว่าเป็นตัวของเราเองจริงๆ การแต่งตัวเหมือนกันทำให้เราไม่ต้องประกวดประขัน หรือคิดว่าเราแตกต่างไปจากคนอื่นๆ ความไม่มีตัวตนของชาว Amish จึงทำให้ Amish มีแต่ Amish และพร้อมจะสละแรงกายแรงใจเพื่อชาว Amish ทุกคนได้ ชุมชน Amish จึงเป็นสังคมที่มีความรักใคร่ช่วยเหลือเกื้อกูลกันเป็นอย่างมาก

ในทางพุทธศาสนานั้นก็เฉกเช่นกัน การบวชเป็นสมณะเพื่อศึกษาและปฏิบัติธรรม ก็ต้องอยู่ในกฎระเบียบเคร่งครัดคล้ายๆกัน สมณะทั้งหลายนั้นเป็นพี่น้องกัน เป็นพุทธบุตรและจะเรียกสมณะอื่นว่าหลวงพี่ หลวงตา หลวงพ่อ ตามแต่อายุพรรษา(ไม่ใช่อายุจริง) แต่ไม่มีคำว่าหลวงน้อง แม่ว่าผู้ถูกเรียกจะอายุน้อยกว่าก็จะถูกเรียกว่าหลวงพี่ ทั้งนี้เพื่อลดฐิถิในอาวุโสแห่งตนลง สมณะทั้งหลายแต่งกายเหมือนกันหมดเช่นชาว Amish ไม่แต่งหน้า ไม่ใส่เครื่องหอม ปลงผม ปลงคิ้ว สละซึ่งสิ่งอันทำให้ดูสวยงามน่าชมน่ามองทั้งหลาย เพื่อลดแรงปรารถนาแห่งกายตามธรรมชาติลง สิ่งทั้งหลายนี้เพื่อทำลายความยึดมั่นถือมั่นในตัวตนลง อย่างที่ท่านพุทธทาสเรียกว่า “ตัวกูของกู” เพราะในทางพุทธศาสนาแล้ว เราเป็นเพียงสิ่งสมมุติ การยึดมั่นถือมั่นในตัวตนรังแต่ทำให้เราวนเวียนอยู่ในห้วงแห่งทุกข์ไม่จบไม่สิ้น เพราะท้ายที่สุดแล้วชีวิตอันแสนสั้นของมนุษย์เรา ก็ไม่มีอะไรที่เป็นของเราได้จริงๆสักอย่าง แม่แต่ตัวของเราเอง

ใครบางคนเคยสอนผมว่า การจะอยู่ได้อย่างมีความสุขนั้น ไม่ได้เริ่มต้นด้วยการสะสมทรัพย์และนำมาเป็นเครื่องแสวงหาสิ่งต่างๆที่เราต้องการ เพราะธรรมชาติของความอยากนั้นไม่มีวันจบสิ้น และไม่อาจจะสนองตอบมันได้ทั้งหมด แต่คนที่จะมีความสุขได้นั้นต้องเริ่มต้นจากการทำความรู้จักกับตนเองให้ได้เสียก่อน และเมื่อรู้จักตนเองแล้วเราจะรู้เองว่าเราจะมีความสุขได้อย่างไร ซึ่งการทำความรู้จักกับตนเองนั้น ต้องเริ่มจากการสละความเป็นตัวของเราเองลงเสียก่อน... แล้วจะทำได้อย่างไรล่ะครับ ก็ทำเหมือนๆกับที่ชาว Amish ทำนั่นไงล่ะ เริ่มต้นด้วยตุ๊กตาไร้หน้าอย่างไรล่ะครับ เรื่องแบบนี้ศาสนาของเราไม่เคยสอนให้เชื่อ แต่ท้าทายให้พิสูจน์ คำว่า “ไม่เชื่ออย่าลบหลู่” ไม่เคยมีในพุทธศาสนา แต่ชาวพุทธที่แท้ “ไม่เชื่อก็ต้องพิสูจน์” ครับผม และเราอาจได้คำตอบว่า ทำไม Amish ส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะเป็น Amish ในระเบียบที่เคร่งครัดต่อไป และคุณละครับรู้จักตัวเองดีพอหรือยัง มีความสุขแล้วหรือเปล่า หรือยังนั่งส่องกระจกแล้วแสดงความไม่พอใจข้อบกพร่องเล็กๆน้อยๆบนใบหน้าของเราอยู่

หมายเลขบันทึก: 503814เขียนเมื่อ 28 กันยายน 2012 11:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 3 ตุลาคม 2012 21:38 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

                       ทุกวันนี้ที่ไม่ค่อยทุกข์ใจมากเกินไปนัก ก็ตรงวลีนี้หละ

" การยึดมั่นถือมั่นในตัวตนรังแต่ทำให้เราวนเวียนอยู่ในห้วงแห่งทุกข์ไม่จบไม่สิ้น

เพราะท้ายที่สุดแล้วชีวิตอันแสนสั้นของมนุษย์เรา ก็ไม่มีอะไรที่เป็นของเราได้จริงๆ

สักอย่าง แม้แต่ตัวของเราเอง "   

ขอบคุณบันทึกดีๆ ที่สอนใจ และรู้จักตัวเองมากขึ้น และบันทึกนี้ ก็มีส่วนในการตัดสินใจ ในวันนี้ ดีใจที่ได้อ่านก่อนที่จะทำอะไรลงไป โดยไม่คิดให้รอบคอบเสียก่อน อ่านแล้วประทับใจในวิถีของชาวAmish 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท