อีกสามสัปดาห์ถัดมา (๔ ก.ย. ๕๕) เพื่อนครูจากรุ่งอรุณ ๑๓ คนก็ยกขบวนกันมาร่วมกิจกรรมเปิดชั้นเรียนที่โรงเรียนเพลินพัฒนาบ้าง ห้องที่เปิดชั้นเรียนในวันนั้นมี
- ระดับชั้น ๑ ห้องคณิตศาสตร์ของคุณครูโน้ต - สุมนา แทนบุญช่วย
- ระดับชั้น ๒ ห้องมานุษกับโลกของคุณครูแคท - คัทลียา รัตนวงศ์
- ระดับชั้น ๓ ห้องมานุษกับโลกของคุณครูโอ่ง -นฤนาท สนลอย
- ระดับชั้น ๔ ห้องคณิตศาสตร์ของคุณครูม่อน - สาวิณี จิรประเสริฐวงศ์
- ระดับชั้น ๕ ห้องคณิตศาสตร์ของคุณครูจุ๋ม – ศรัญญา สุวันนะ และห้องภูมิปัญญาภาษาไทยของคุณครูปุ๊ก - จินตนา กฤตยากรนุพงศ์
- ระดับชั้น ๖ ห้องคณิตศาสตร์ของคุณครูกิ๊บ - พุทธมาศ โรจน์หทัยกานต์ และห้องคณิตศาสตร์ของคุณครูวิ – วิสาขา ข่าทิพย์พาที
ดิฉันเข้าร่วมสังเกตการณ์การจัดกระบวนการเรียนรู้ห้องภูมิปัญญาภาษาไทยของครูปุ๊ก และได้เข้าร่วมสะท้อนผลในวงด้วย
ประเด็นที่น่าสนใจจากรอบสะท้อนผล
วันนี้ได้เรียนรู้อะไรที่สำคัญ – ความรู้สึกในวันนี้
ก่อนจะจากกันไปคุณครูปาด – ศีลวัต ศุษิลวรณ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการโรงเรียนเพลินพัฒนา ได้มากล่าวถึงแนวคิดของรวมตัวกันเรียนรู้ของทั้ง ๒ โรงเรียนว่าเป็นไปเพื่อ “พัฒนาการเรียนรู้เพื่อพัฒนาตัวผู้เรียน” และปิดท้ายว่าทางรอดของโรงเรียนเป็นทางรอดของประเทศชาติด้วย
คุณครูจิ๋ว – สกุณี บุญญะบัญชา ครูใหญ่ฝ่ายประถมโรงเรียนรุ่งอรุณ ได้สะท้อนให้เห็นว่า
“จุดเหมือนที่เป็นจุดเด่นของทั้งสองโรงเรียน คือการลุกขึ้นมาทำอะไรด้วยตัวเอง ทำให้เติบโตได้เร็ว สิ่งที่ที่สำคัญในการทำ Lesson Study คือทีมเวิร์ค ที่คนทำมาค้นหาความหมายของสิ่งที่เราทำจริงๆ ครูต้องรู้สึกเป็นเจ้าของงานจึงจะทำได้
วันนี้ได้เห็นความตั้งใจ และความยินดีที่จะทำงานหนักของครูเพลินพัฒนา ครูรุ่งอรุณก็มีความพยายามที่จะทำ คุณครูทุกคนมีความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองสูง อ.ไมตรีกำลังทำงานเพื่อประเทศชาติ แต่การเติบโตยังไม่เร็วในโรงเรียนที่อาจารย์ลงไปทำงานด้วยยังเป็นไปอย่างช้าๆ เพราะโรงเรียนไม่ได้เติบโตด้วยคนในโรงเรียน
เคยถามอาจารย์ไมตรีก่อนที่จะลงมือทำ LS ว่า “จะทำดีไหม” อาจารย์ตอบว่า “จะทำอะไรก็ทำไปเถอะ อย่างไรก็ดีกว่าตอนที่เราไม่ได้ทำอะไร”
การพัฒนาตัวนักเรียนจะดีหรือไม่ดีก็ขึ้นอยู่กับเรา จึงหนีไม่พ้นที่เราต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง และเราต้องทำตัวเองเป็นแบบอย่างของเด็กในทุกเรื่อง
ไม่มีความเห็น