ทำอย่างไรต่อไปนี้ที่แรงงานจะไม่ต้องเตะฝุ่นคือ เรียนอย่างไรให้มีงานทำ เราจะเห็นได้ว่าจากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่าในช่วงไตรมาส ๒ คนว่างงานกว่า ๓ แสนคน แม้นจะไม่ใช้เป็นปัญหาที่น่ากลัวเพราะถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาบ้างที่ต้องมีช่องว่างของคนว่างงานในสังคมโลกใบนี้ แต่ปัญหาที่น่าเป็นห่วงกลับเป็นปัญหา “แรงงานทำงานไม่ตรงกับวุฒิการศึกษา” เพราะจากข้อมูลของมูลนิธิอนาคตไทยศึกษา ชี้ว่าแรงงานไทยทำงานตรงกับวุฒิการศึกษาเพียง ๒๕ % เท่านั้น แล้วอีก ๗๕ % ล่ะ
ตรงนี้แหล่ะครับเป็นข้อมูลที่น่าสนใจมากตามตัวเลขที่ออกมา ผมจึงขอฝากมายังบรรดาผู้ปกครอง หรือกลุ่มนักเรียนนักศึกษาจะต้องมีการวางแผนการศึกษาเพื่อการมีงานทำให้ดีดี เราไม่ต้องการเป็นแรงงานที่ไร้คุณภาพ ในฐานะที่แรงงานไทยได้ชื่อว่า ดีทรอยต์แห่งเอเชีย เราไม่ต้องการให้ปัญหาเหล่านี้ซุกอยู่ใต้พรหมอีกต่อไป โดยเฉพาะการที่จะเข้าสู่อาเซี่ยนที่กำลังจะมาถึง เพราะหากแรงงานไทยได้ทำงานไม่ตรงกับที่เรียนมาย่อมมีผลต่อความก้าวหน้า ความก้าวหน้าในชีวิตไม่มี รายได้ไม่เพิ่ม แม้นปัญหาการว่างงานจะไม่เกิดขึ้น เพราะสถานประกอบการมีการเติมเต็มในช่องว่างแต่ก็เป็นเชิงปริมาณเท่านั้น ไม่ต้องพูดถึงในเรื่องของคุณภาพเพราะคนที่จบมาตรงได้ทำงานตรงกับที่เรียนมาย่อมดีกว่า ตรงนี้จะส่งผลเสียหายถึงศักยภาพในการแข่งขันของประเทศที่มีแรงงานที่ไม่ตรงกับความต้องการ ไม่ไปในทิศทางเดียวกันในการพัฒนาประเทศ
ดูตรงนี้ครับ แรงงานที่จ้างงานที่ต้องใช้ทักษะในขณะนี้ประมาณ ๑๘.๖ ล้านคน จบมาตรงสาขาที่ต้องการคือ ปวช.และ ปวส. จำนวนเพียง ๒.๙ ล้านคนเท่านั้น ที่เหลื่อเป็นแรงงานที่เติมลงไปเท่านั้นโดยมีระดับมัธยมศึกษาถึง ๑๔.๓ ล้านคน และมีแรงงานปริญญาตรีที่ทำงานต่ำกว่าวุฒิถึง ๐.๙ ล้านคน เห็นแบบนี้แล้วเป็นสถิติที่น่ากลัวทีเดียวต่อทิศทางพัฒนาประเทศ พัฒนาตนเอง ในขณะที่กลุ่มแรงงานกำลังจะมีการเคลื่อนย้ายอย่างเสรีในบางสาขาวิชา แล้วเราจะตอบโจทย์ในการแข่งขันได้อย่างไร
ผู้ปกครองและนักศึกษาต้องตระหนักแล้วนะครับสำหรับอนาคต เราต้องตอบโจทย์ชีวิตลูกหลานหรือตัวเราให้ได้ เพราะการศึกษานั้นเป็นการลงทุนให้กับชีวิตที่มีตนทุนสูง เพื่อเดินไปสู่การมีงานทำ สร้างความมั่นคงความสุขให้กับตัวคุณเองรวมถึงผลในการพัฒนาประเทศชาติของเราด้วย มาวางแผนกันเถอะครับ “เรียนอย่างไรให้มีงานทำ” หรือ เราจะเรียนเพื่อความเท่ ไม่อยากทำงานภาคอุตสาหกรรมตัวดำไม่สะอาด ทั้งที่จบบางสาขาวิชาต้องเสี่ยงกับการวิจัยฝุ่น
เห็นด้วยค่ะท่าน