กอดโลกบนอินเตอร์เน็ต


แต่ทว่าในวันนี้เราทั้งหลายต่างก็สามารถทำสิ่งเล็กๆ ที่รวมกันแล้วดูจะยิ่งใหญ่ได้ด้วยการกอดโลกคนละไม้คนละมือด้วยการใช้อินเตอร์เน็ตอย่างรับผิดชอบ ใช้เท่าที่จำเป็น ใช้ด้วยความรู้เท่าทัน เพื่อเราจะได้ไม่เพิ่มมลภาวะให้กับโลกมากมายไปกว่านี้ เพื่อเราจะได้คืนโลกที่ยังสวยงามอยู่ให้ลูกหลานในอนาคต

..

ทุกครั้งที่เราค้นหาข้อมูลจากอากูเกิ้ล ซื้อของผ่านอินเตอร์เน็ต โพสข้อความบอกใครต่อใครว่าตอนนี้เราอยู่ที่ไหนทำอะไรอยู่บนเฟสบุ้ค ทวิตเตอร์ ส่งอีเมลล์ หรือแม้แต่อ่านและเขียนข้อความในโกทูโนว์แห่งนี้ เราคงไม่รู้ว่าเบื้องหลังของการส่งข้อมูลสื่อสารเหล่านี้มีอุปกรณ์และกลไกอะไรบ้างที่ทำงานอยู่ ให้แต่ละคำสั่งแต่ละคลิกที่เรากดลงไปได้ผลดังที่เราตั้งใจเอาไว้อย่างรวดเร็วทันใจ หนึ่งในอุปกรณ์นั้นเรียกว่า server ซึ่งจะทำการประมวลข้อมูลต่างๆ ที่เราป้อนเข้าไป server นี้จะถูกวางเรียงกันอยู่โกดังหรืออาคารที่ใดที่หนึ่ง เรียกว่าศูนย์ข้อมูล หรือ Data centre

Server เหล่านี้ต้องใช้ไฟฟ้าในการทำงาน และได้มีรายงานใน New York Times เมื่อสองวันก่อนในหัวข้อ Power, Pollution and the Internet ว่าพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ในการทำงานของศูนย์ข้อมูลต่างๆ นั้นมากมายมหาศาลยิ่งนัก บางศูนย์ข้อมูลต้องการพลังงานไฟฟ้ามากขนาดเท่าๆ กับพลังงานที่ใช้ในเมืองขนาดกลางเลยทีเดียว

ในแต่ละศูนย์ข้อมูลจะเต็มไปด้วย server มากมายที่วางเรียงกันอยู่บนชั้น แต่ละ server ก็คล้ายๆ กับคอมพิวเตอร์ที่เราใช้ แต่มีขนาดใหญ่กว่า เพียงแต่ไม่มีจอมอนิเตอร์และคีย์บอร์ดเท่านั้นเอง เหมือนเครื่องคอมที่เราใช้ที่บ้าน แต่ละ server จะปลดปล่อยความร้อนออกมาซึ่งความร้อนนี้ก็ต้องการการระบาย และพลังงานไฟฟ้าก็จะถูกใช้ด้วยเหตุนี้เช่นเดียวกัน ในเมืองหลายๆ เมืองที่มีศูนย์ข้อมูลใหญ่ๆ พบว่ามีมลภาวะเกิดขึ้นมากมายจนเกินเกณฑ์มาตรฐาน

ในรายงานดังกล่าวบอกว่าพลังงานที่ต้องการในการทำงานของศูนย์ข้อมูลทั่วโลกอาจเท่ากับพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตจากโรงงานนิวเคลียร์ 20 แห่งเลยทีเดียว

การใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างมหาศาลเป็นหนึ่งในความลับอันไม่น่าพิสมัยของอุตสาหกรรมข้อมูลเหล่านี้ ศูนย์ข้อมูลต่างๆ ส่วนใหญ่จะมีเครื่องเก็บไฟฟ้าสำรองในกรณีฉุกเฉินไว้ด้วยเสมอหากเกิดกระแสไฟฟ้าขัดข้องเพื่อป้องกัน server ขัดข้องและข้อมูลถูกทำลายไป

The New York Times ทำการวิจัยข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลเหล่านี้ร่วมกับ McKinsey & Company พบว่าศูนย์ข้อมูลของ Google ใช้ไฟฟ้าประมาณ 300 ล้านวัตต์ และศูนย์ข้อมูลของ Facebook ใช้ไฟฟ้าประมาณ 60 ล้านวัตต์ และที่น่าสนใจคือศูนย์ข้อมูลเหล่านี้ใช้ไฟฟ้าในการทำงานสำหรับประมวลข้อมูลต่างๆ ของเครื่อง server ประมาณ 6 - 12% ของไฟฟ้าที่ใช้ อีกเกือบ 80% คือไฟฟ้าสำรองที่เก็บไว้ใช้ในยามที่มีการใช้บริการออนไลน์มากขึ้นโดยกระทันหัน

เราอาจคิดว่าทำไมบริษัทยักษ์ใหญ่จึงต้องสำรองไฟฟ้ามากมายขนาดนั้น นั่นก็เพราะอิทธิพลของผู้บริโภคอย่างเราๆ ที่ทุกครั้งที่มีการค้นข้อมูลและได้รับผลผิดพลาดหรือข้อความ error บริษัทเหล่านี้ก็จะกลัวการถูกตำหนิจากลูกค้า

แน่นอนว่าขณะนี้มีเทคโนโลยีใหม่ๆ มากมายที่จะช่วยให้เกิดการประหยัดไฟฟ้าในการทำงานของ server เหล่านี้ แต่ทว่าบริษัทต่างๆ ยังไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ทั้งหมดในตอนนี้เพราะค่าใช่จ่ายสูงที่จะตามมา ตลอดจนความไว้วางใจในการทำงานของระบบใหม่ๆ ที่ยังต้องรอการพิสูจน์ 

จนกว่าจะถึงวันที่เทคโนโลยีจะช่วยลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าของบริการออนไลน์ต่างๆ ทุกๆ ครั้งที่เราคลิกเมาส์ลงไปไม่ว่าจะเป็นการค้นข้อมูล การอ่านสื่อออนไลน์ การใช้บริการทางอินเตอร์เน็ตต่างๆ เราต่างมีส่วนในการเพิ่มปริมาณการใช้ไฟฟ้าที่ใดที่หนึ่งในโลก เรากำลังช่วยกันสร้างอีกหนึ่งมลภาวะให้กับโลก ดังนั้นเราควรตระหนักว่าสิ่งที่เราทำควรมีประโยชน์กับคนกับโลกบ้างไม่มากก็น้อยเพื่อแลกกับพลังงานที่เราสูญเสียไป และเราควรใช้สื่อออนไลน์ด้วยความมีสติเสมอ

..



..

คุณวินทร์ เลียววาริณ เขียนไว้ในหนังสือสองแขนที่กอดโลกว่า

"กอดโลกได้เมื่อไหร่ ใจก็เป็นสุข เพราะการให้คือความสุข เมื่อคนอื่นอยู่ได้อย่างมีความสุข ชาวโลกก็เป็นสุข เนื่องจากทุกชีวิตเกี่ยวร้อยกันเป็นปฏิกิริยาลูกโซ่ต่อกัน

กอดโลกคือการเข้าใจคนอื่น เอาใจเขามาใส่ใจเรา

กอดโลกคือการเข้าใจสัตว์โลกอื่นๆ นอกเหนือจากมนุษย์ เอาใจพวกมันมาใส่ใจเรา

กอดโลกคือการเข้าใจธรรมชาติ เอาใจธรรมชาติมาใส่ใจเรา ลดการทำลายธรรมชาติ

หากเราสามารถกอดโลกได้เหมือนเรากอดคนที่เรารัก โลกคงต่างไปจากที่เราเห็นในตอนนี้"

ไม่มีอะไรที่เราได้มาฟรีโดยที่จะไม่เสียอะไรเลย ความสะดวกสบายบนปลายนิ้ว การย่อโลกให้เล็กลงด้วยเทคโนโลยีก็หมายถึงการใช้ทรัพยากรของลูกหลานเราในอนาคต ยิ่งโลกที่ดูเหมือนจะเล็กลงเท่าไหร่นั่นก็หมายถึงผลกระทบที่ใกล้ตัวเราและคนที่เรารักมากเท่านั้น

แต่ทว่าในวันนี้เราทั้งหลายต่างก็สามารถทำสิ่งเล็กๆ ที่รวมกันแล้วดูจะยิ่งใหญ่ได้ด้วยการกอดโลกคนละไม้คนละมือด้วยการใช้อินเตอร์เน็ตอย่างรับผิดชอบ ใช้เท่าที่จำเป็น ใช้ด้วยความรู้เท่าทัน เพื่อเราจะได้ไม่เพิ่มมลภาวะให้กับโลกมากมายไปกว่านี้ เพื่อเราจะได้คืนโลกที่ยังสวยงามอยู่ให้ลูกหลานในอนาคต

 

ขอปิดท้ายบันทึกด้วยประโยคที่เปี่ยมไปด้วยความรักต่อโลกของแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต ที่คุณพี่ ดร. ยุวนุช เมตตานำมาบอกเล่า

สุขง่ายใช้น้อย สุขเมื่อสร้าง สุขเมื่อให้


ฉันก็กำลังบอกตัวเองเช่นกัน....

ด้วยความนอบน้อม

ปริม ทัดบุปผา

๒๕ กันยายน ๒๕๕๕


ที่มา: http://www.nytimes.com/2012/09/23/technology/data-centers-waste-vast-amounts-of-energy-belying-industry-image.html?_r=1&pagewanted=all


A letter by Yukie Nishimura

http://www.youtube.com/watch?v=ktjsye06gLs


 

 

 

 
คำสำคัญ (Tags): #internet#pollution#power
หมายเลขบันทึก: 503422เขียนเมื่อ 25 กันยายน 2012 11:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 28 กันยายน 2012 15:08 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (19)

ขอบคุณความรู้ใหม่ๆ ที่แบ่งปันค่ะ

    อ้อมกอด...ไม่ว่าจะกอดอะไร...สร้างความอบอุ่นและภูมิคุ้มกันให้สิ่งนั้นได้เสมอ...

    อืม...พักนี้คุณปริม...มีเรื่องกอดมาเล่าอย่างต่อเนื่อง...หรือว่า...๕๕๕... :) (แซวเล่นครับ)

    ขอบคุณข้อมูลที่มีประโยชน์...จากบันทึกที่สร้างความสุขในยามบ่ายนี้ครับ... :)

เยี่ยมอีกแล้วนะคะ ประเดี่๋ยวก็ offline แล้ว มีงานอื่น

ขอบคุณข้อมูลดี ๆ Happy ba ฝากมา ๑ กอดใหญ่.....แต่แน่น ๆ นะคะ

โอ้... ข้อมูลน่าคิดมากค่ะ

เคยถามตัวเอง และคุยๆกันเรื่องนี้อยู่พอดีค่ะ

ขอบคุณมากนะคะ


สวัสดีค่ะคุณ tuknarak,

พอดีคนใกล้ตัวบอกให้อ่านข่าวนี้ค่ะเลยนำมาแบ่งปันด้วยความยินดีค่ะ

ขอบคุณค่ะ

สวัสดียามดึกค่ะท่านอาจารย์จัตุเศรษฐธรรม

คงเป็นความบังเอิญค่ะ วันนี้นึกถึงหนังสือของคุณวินทร์ขึ้นมาเลยเอาเรื่องกอดมาคุยอีก ไม่มีอะไรในกอไผ่ค่ะ ทุกอย่างเป็นปกติดีเหมือนที่ผ่านมาค่ะ อิอิอิ

ขอบคุณสำหรับกำลังใจจากท่านอาจารย์ค่ะ

ฝันดีนะคะคืนนี้

สวัสดีค่ะคุณตะวัน

หวังว่าข้อมูลจะมีประโยชน์บ้างนะคะ ขอบคุณค่ะ

ฝันดีนะคะ ;)

สวัสดีค่ะคุณหมออ้อ

ขอบคุณสำหรับอ้อมกอดอันอบอุ่นค่ะ

ฝากข้ามอ่าวไทยไปถึงคุณหมอด้วย และฝากให้เจ้าป๊อปคอร์นด้วยค่ะ

ฝันดีนะคะคืนนี้ จะออฟไลน์เร็วๆ นี้ค่ะ ;)

ขอขอบคุณกัลยาณมิตรทุกท่านที่แวะมาอ่านและมอบดอกไม้ไว้นะคะ

ฝันดีค่ะคืนนี้ ;)

กอดข้อมูลไว้หลวมๆ นะคะอาจารย์

ขอบคุณค่ะ

ขอบคุณค่ะ..ตระหนักรู้ต้นทุนที่โลกทั้งใบต้องแบกรับไว้เพื่อคนยุคใหม่ ไม่ใส่ใจระวังความพอดีของการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ..

น้องสาว....อย่าลืมเข้าไปอ่านบันทึกเรื่องนี้เน้อ

http://www.gotoknow.org/blogs/posts/503731

ขอบพระคุณวรรคทองที่กลั่นกรองมาฝาก นะครับ

กอดโลกคือการเข้าใจคนอื่น เอาใจเขามาใส่ใจเรา

กอดโลกคือการเข้าใจสัตว์โลกอื่นๆ นอกเหนือจากมนุษย์ เอาใจพวกมันมาใส่ใจเรา

กอดโลกคือการเข้าใจธรรมชาติ เอาใจธรรมชาติมาใส่ใจเรา ลดการทำลายธรรมชาติ

หากเราสามารถกอดโลกได้เหมือนเรากอดคนที่เรารัก โลกคงต่างไปจากที่เราเห็นในตอนนี้"

สวัสดีค่ะคุณพี่ใหญ่

ด้วยความตระหนักรู้อย่างน้อยเราจะได้คิดก่อนทำค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ

สุขสันต์วันศุกร์ค่ะ ;)

สวัสดีค่ะคุณ Bright Lily

ขอบคุณที่มาแวะอ่านค่ะ รูปดอกไม้สวยมากค่ะ คล้ายดอกพลัมเลยค่ะ ;)

สุขสันต์วันสุขใจค่ะ

สวัสดีค่ะพี่เพลิน

พี่เพลินโปรโมทแม่ตาดมากๆ เลยนะคะเนี่ย

ขอบคุณสำหรับภาพงามๆ ค่ะ รูปจะสวยไม่จำเป็นต้องใช้กล้องแพงเสมอไปค่ะ มันอยู่ที่ฝีมือนะคะ ;)

ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะท่านอาจารย์แผ่นดิน

หากเราช่วยกันคนละไม้คนละมือ โลกเราจะน่ากอดขึ้นกว่านี้เยอะนะคะ

ขอบคุณมากค่ะ ;)

สุขสันต์วันศุกร์แห่งชาติค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท