ถ้ำงามที่สโลเวเนีย


ที่เมืองหลวงนี้ มีสถานที่น่าเที่ยวมากมาย เช่นจัตุรัสกลางเมือง และมีปราสาทสวยงามอยุ่บนยอดเขา ที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ ได้รอบทิศ

จากดินแดนเทพนิยาย ปราสาทริมผา และทะเลสาบสวยงาม พวกเราเดินเล่น อย่างสบายใจ ลืมบรรยากาศความวุ่นวาย หรือภาระงานที่มีรายการยาวเหยียดเป็นหางว่าวได้เสียสนิทใจ  แม่ต้อยว่าการที่มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับธรรมชาตินั้นเป็นความสุขที่เป็นอมตะ ตะไคร่น้ำที่เติบโตบนขอนไม้ริมทะเลสาบ มดตัวเล็กตัวน้อยที่กอหญ้าริมทาง ลูกเป็ดที่เดินไซร้หญ้าริมทะเลสาบ ก็ดูสวยงามจับใจ

และ  ที่โบสถ์ศักดิ์สิทธ์ กลางทะเลสาบ ว่ากันว่า หากคนใดได้มีโอกาสได้สั่นกระดิ่งของระฆังที่ติดตั้งบนหลังคาโบสถ์นั้น และอธิษฐานขอสิ่งหนึ่งสิ่งใด ก็จะสำเร็จสมความปรารถนาทุกประการ

เสียงระฆังที่พวกเราสั่นจนเสีบงกังวานสั่นสะเทือนไปทั่งคุ้งน้ำ คงทำให้พวกเราสมปรารถนาสักอย่างเป็นแน่แท้ อิอิ

ยังมีที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่ง ที่สาวสวยในกลุ่มพวกเราเรียกร้องให้ไปแวะชม

“ มาถึงที่นี่ต้องแวะชมนะ ขอใช้สิทธิ์ หน่อย”  เธอเรียกร้อง

เราไม่ขัดข้องอะไรอยู่ แม้ว่าพวกเราไม่มีใครเป็นคนสุพรรณบุรี แต่เราก็เลือดสุพรรณ ไปไหนไปกัน

ที่ที่ว่านี้คือถ้ำที่สวยที่สุดในยุโรป  Postojna Cave  เป็นแหล่ง ที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาแวะชมเป็นจำนวนมาก ด้วยความสวยงาม และขนาดที่ใหญ่มีความยาว สองหมื่นกว่าเมตร การเข้าไปชมถ้ำในช่วงแรกจะมีรถรางให้นั่งเข้าไป  แต่หลังจากนั้นจะต้องเดินเข้าไปชมตามพื้นที่ต่างๆ ซึ่งเขาจะทำทางเดิน มีราวหรือสะพานให้เราเดินเข้าไปได้อย่างสะดวก

แม่ต้อยนึกในใจว่า โชคดี เสียจริงที่เพื่อนชวนมาคราวนี้ เพราะหากว่า อายุมากกว่านี้คงลำบากแน่ๆ  เพราะทางที่เดินนั้น มืด และแคบ บางตอนก็ต้องระวังลื่น

แต่ขอบอกว่าสวยมากๆๆคะ หินปูนที่หยาดหยดลงมานั้นสวยงาม มาก แล้วแต่คนดู จะจินตนาการ  บางทีก็เหมือนห้องจัดเลี้ยงที่หรูหราประดับด้วยม่านระย้า  บางแห่งคล้ายถ้วยไอศกรีม  บ้างก็เหมือนโคมไฟระย้า

กว่าจะได้สิ่งสวยงามขนาดนี้ต้องใช้เวลานานมาก เพราะกว่าหินปูนจากหยดน้ำจะก่อตัวขึ้นมาจนให้มวลมนุษย์ อย่างพวกเราได้ชื่นชม ก็ใช้เวลาเป็นร้อยๆปี

ออกมาจากถ้ำ ก็แทบจะคอพับคออ่อน เพราะสาวทั้งหลายต้องค่อยๆ เกาะเกี่ยวกันเดินตามกันเป็นพรวน ฮ่าๆ

แต่แม้กระนั้นพวกเธอก็ยังปากแดง แก้มซีด ตลอดเวลา อิอิ

ที่บริเวนทางเข้าเยี่ยมชมถ้ำนี้มีร้านขายพวกสร้อย กำไล เครื่องประดับอันทำจากหินสีวยรายเรียงกันตลอดทาง

นับว่าเป็นอุปสรรคอันใหญ่หลวง ของไกดิ์ ที่พาไปเป็นอย่างยิ่ง แฮ่

หลังจากนั้นเราจะเดินทางเข้าสู่เมืองหลวงของสโลเวเนีย  ที่ชื่อว่า Ljubljana  ลูบีอานา

ระยะทางประมาณ ๕๐ กิโลเมตร ทำให้เราได้พักผ่อนเอกเขนกอย่างสบายใจบนรถอันกว้างขวาง ที่เพียบพร้อมด้วยของกินนานับไม่ถ้วน เป็นต้นว่า กล้วยตาก กล้วยฉาบ ขนมเทียน ถั่วกรอบ มะขามแช่อิ่ม บ้วยเค็ม หมูหยอง ขนมเทียน ข้าวเหนียวหมูหวาน  รวมทั้งบรรดาขนมที่แวะซื้อตลอดทาง  นี่ยังไม่รวม พวกน้ำพริก และแจ่ว ฮ่าๆๆ

ที่เมืองหลวงนี้ มีสถานที่น่าเที่ยวมากมาย เช่นจัตุรัสกลางเมือง และมีปราสาทสวยงามอยุ่บนยอดเขา ที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ ได้รอบทิศ

แม่ต้อยเดินในเมืองและลัดเลาะจนมาถึงแม่น้ำสายใหญ่กลางเมือง  ซึ่งเป็นสถานที่ผู้คนมานั่งพักผ่อน ยามเย็น พร้อมเครื่องดื่มที่โปรดปราน อย่างสบายอารมณ์

 

คืนนั้น เราได้พักเต็มอิ่มที่เมืองหลวงของสโลเวเนีย เมืองแห่งประวัติศาสตร์

พรุ่งนี้เราจะเดินทางข้ามพรมแดนไปโครเอเชียแล้วละคะ

วันนี้จึงขอเล่าเท่านี้ก่อนนะคะ

สวัสดีคะ

ขอขอบคุณรูปจากกูเกิลนะคะ

ที่จริงมีภาพที่ถ่ายมาเองมากมาย แต่เมื่อนำไปเก้บไว้ที่Ipad แล้ว ยังไม่ทราบวิธีนำกลับมาที่คอมพิวเตอร์ได้คะ

ท่านใดทราบกรุณาบอกแม่ต้อยก็จะขอขอบคุณมากๆคะ

 

 

 

 

 

 

คำสำคัญ (Tags): #slovania
หมายเลขบันทึก: 503128เขียนเมื่อ 22 กันยายน 2012 18:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 กันยายน 2012 08:33 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

นำภาพชีวิตมาร่วมด้วยนะครับ

สวยจริงค่ะแม่ต้อย

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท