ค่ายหมอเขียว ตอนเด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว
เรียนจากผู้รู้
ตอนผมไปค่ายหมอเขียวที่ดัลลัสมาเมื่อเดือนเมษา เห็นในสิ่งไม่เคยได้เห็น ได้ยินในสิ่งไม่เคยได้ยิน นับว่าเป็นประโยชน์มากๆ
แต่ได้เห็นรูปนี้แล้วให้ประทับใจ คนเราจะทรุดตัวลงกราบเท้าของคนที่ไม่ใช่พระ ไม่ใช่เจ้านาย ไม่ใช่พ่อแม่ กราบด้วยความสมัครใจจริงๆ ไม่มีการบังคับ กราบต่อหน้าคนเกือบร้อย ยิ่งเป็นผู้ชายด้วยแล้ว
ไม่ใช่เป็นของธรรมดา
ถ้ามีคนมาช่วยคุณให้รอดจากความตาย หายจากความทุกข์ทรมาณที่แพทย์ปัจจุบัน หมดทางรักษา คุณจะกล้าทำอย่างนี้ไหมครับ
ผมเห็นแล้วสะท้านใจ เอาตัวอย่างของการลดมานะ ความถือตัว ของคนที่ทำให้ดู เอามาใช้เป็นครูสอน
เมื่อท่านพระอาจารย์ปราโมทย์ มาโปรดญาติโยมที่อเมริกา ผมก็ก้มลงไปกราบท่านที่เท้า ท่านหยุดสักครู่ให้กราบ เมื่อตอนท่านเดินเข้าโบสถ์จะขึ้นธรรมมาศเทศน์ ท่านเดินมาหยุดที่ผมนั่งอยู่ จับมือผมไว้แล้วยิ้มให้ เสมือนจะบอกผมว่า
ปฏิบัติดูจิตดูใจต่อไปนะ อย่าได้ท้อถอย หนทางเข้าหน้ายังมีอยู่
ธรรมของพระพุทธเจ้าอยู่แค่เอื้อมนะ
ความเห็น (4)
วิธีการเรียนรู้ ...มีหลากวิธี ...... วิธีที่ดี วิธีหนึ่งคือ การเรียนจากผู้รู้ ชึ่งสามารถเรียนรู้ได้เร็วกว่า ย่นยอเวลา ในการเรียนรู้ การรับรู้ ของผู้เรียนหรือ ตัวเราไปได้มากๆๆ เลยที่เดียว นะคะ
อนุโมทนาบุญค่ะ
สะเทือนถึงจิตใจ สะเทือนถึงดวงดาว ประทับใจมากค่ะ.. เพียงหนึ่งภาพ ก็มากมายด้วยคะบรรยาย ขอบคุณค่ะ
ความรู้ที่หมอเขียวได้ถ่ายทอดให้กับผู้คน เป็นความรู้ที่ไม่ได้บังคับให้ทำ แต่คนที่นำเอาไปปฏิบัตินั้น ปฏิบัติด้วยใจและศรัทธา ผลจากการปฏิบัติ....ผู้ปฏิบัติเท่านั้นที่จะรู้ได้ว่าผลที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร ไม่แปลกใจเลยที่ได้เห็นรูปนี้ แต่ตื้นตันใจกับคนที่มีโอกาสได้กราบท่านด้วยแรงศรัทธา
เจนไม่เคยพบหมอเขียว ไม่เคยเข้าค่ายกับท่าน แต่คนมากมายรอบตัวทั้งครอบครัวและเพื่อนๆหลายคนเอาความรู้มาถ่ายทอดให้ฟัง ก็ได้ปฏิบัติตามบ้างในบางส่วนที่ตัวเองทำได้ และเห็นผลกับตัวเอง..... หมอเขียวมีความดีที่เป็นพลังอานุภาพที่ยิ่งใหญ่ สามารถสัมผัสความเมตตาอันสูงส่งของท่านได้ เลื่อมใสและศรัทธาท่านจริงๆค่ะ