ผมเคยชอบพอกับใครคนหนึ่งมาแสนนาน
แต่เมื่อเราได้มาอยู่ใต้ชายคาเดียวกัน
ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่อย่างที่เราต้องการ
อาจจะเป็นเพราะเขาอาจจะเปลี่ยนไปตามกาลเวลา
เมื่อตอนเด็กมันเหมือนภาพฝันอันสวยงาม
แต่เมื่อเวลาเนิ่นนานไป ทุกอย่างก็เปลี่ยน
เขาไม่ได้น่ารักอย่างที่เคยเป็นมา
เราก็เลยต้องรู้สึกไม่พึงใจ ถึงแม้ว่าเราเองในตอนนั้นก็ใช่ว่าจะสมประกอบดีนัก
เราก็ยังรู้สึกว่าเขาไม่คู่ควรกับเราเลยแม้แต่น้อย
ฉันฝันมาตลอดว่าจะได้ใกล้ชิดกับเขาอย่างมีความสุข
สิ่งนี้สอนให้ฉันรู้ว่า ทุกอย่างย่อมไม่เป็นอย่างที่คาดหวังไว้เสมอ
แต่อย่างน้อยมันก็เป็นสิ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเราทั้งคู่
ความรักที่เราคิดว่าใช่ สุดท้ายน่าจะเรียกว่าความหลงมัวเมา
เมากันให้สุดเหวี่ยงไปเลย ก็ในเมื่อเราทุกคนต่างก็กำลังหลงทางอยู่กับสิ่งน่ารักน่าใคร่ทั้งหลายแหล่
ใครที่เกลียดเราก็ตอบกลับด้วยสีหน้าที่ไม่ชอบไม่พอใจ
แต่เรากลับไม่เคยคิดว่า แท้ที่จริงแล้วเราเองก็อาจมีส่วนไม่อยู่เช่นกัน
เพียงแค่เรามองไม่เห็นเพราะมันเหมือนมีอะไรมาบังตา
หรือบางทีเราอาจจะไม่เคยส่องกระจกที่สะท้อนจิตใจโดยแท้ของเราเลยแม้แต่น้อย
ต่างก็พากันมองแต่รูปลักษณ์ภายนอก เอาสวยเข้าว่า
แต่สวยไปถึงก้นเบื้องลึกของหัวจิตหัวใจจริง ๆ หรือไม่
เราต่างกันชื่นชมสิ่งสวยหรูแต่เพียงเปลือกนอก
หาได้ชื่นชมคนเราที่จิตใจ
เรื่องราวเลวร้ายในสังคมก็อาจจะมาจากสิ่งสวยหรูภายนอกเท่านั้น
แล้วใครกันเล่าอยากจะมองสิ่งไม่สวยไม่งาม
ใคร ๆ ร้อยทั้งร้อยก็หวังให้เจอแต่สิ่งงามตา
ฉันก็เป็นหนึ่งในนั้นแน่นอน
แต่อาจจะเป็นเพราะเราผ่านสิ่งที่เรียกว่าความอัปลักษณ์ในตัวเองมาแล้วก็เป็นได้
จึงรู้สึกว่าสังขารไม่จีรังยั้งยืน มีเกิดมีดับ
เพียงแต่ตอนนี้ยังไม่อยากจะให้ดับไม่แม้แต่น้อย
อยากจะให้มีแต่การเกิดก็เท่านั้น
ความรู้สึกวนเวียนไปมาในหัวสมองมันทำให้ช่างน่าสับสนอลหม่านหมองใจเป็นที่สุด
แล้วสิ่งใดเล่าที่จะขจัดความหมองไหม้เหล่านี้ออกไปจากใจได้
หากไม่ใช่แก่นแท้ของพระธรรมแห่งพระพุทธองค์ที่เราได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตลอดหลายปีมานี้
ความรู้สึกตื้นตันในคำสอนแห่งองค์ศาสดานี้ล้วนอยู่ในตัวของเราทุกคน
เพียงแต่ว่าใครจะมองเห็นแล้วนำออกมาใช้ในยามจำเป็นแห่งจิต
ฉันยังเป็นปุถุชนคนธรรมดาคนหนึ่งที่หวังให้จิตสะอาดขึ้นตามลำดับแห่งชีวิต
โดยไม่หวังถึงขั้นหลุดพ้นเพราะยังคงไม่อาจตัดกิเลสได้โดยสิ้นเชิง
แต่เพียงหวังให้เจือจางลงบ้างก็เท่านั้น
การเรียนรู้ชีวิตเป็นสิ่งสำคัญเพราะมันหมายรวมไปถึงเส้นทางอันยาวไกลจนกว่าจะเข้าสู่แดนนิรันดร์
แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราบรรลุไปอีกขั้นหนึ่ง
จากประสบการณ์ของฉันก็คือความโล่งเบาสบายแห่งจิตเมื่อไม่ได้สมปรารถนาก็เป็นสุขได้
เพียงแต่ให้เสียใจไม่สบายใจน้อยลงก็ถือว่าบรรลุความสะอาดแห่งจิตไปอีกหนึ่งขั้น
แต่หากว่าเรายังรู้สึกว่าเหมือนโดนบีบคั้นก็ให้ผ่อนแรงลง
อย่าไปฝืนความรู้สึกว่าเราจะต้องหลุดพ้น
มันจะยิ่งทำให้เรารู้สึกแย่กับการฝึกฝนตนเอง
คนเราย่อมรู้สึกอึดไปบ้างหากจะเลือกเส้นทางเดินอันแสนยากเย็นนี้
เราอาจะรู้สึกโดดเดี่ยวไปบ้าง แต่หากเราท้อแท้เราก็สามารถหยุดพักได้
ก็ในเมื่อเรายังเป็นคนคนหนึ่งจริง ๆ เท่านั้น
การเป็นคนดีทำยากแต่ใช่ว่าจะทำไม่ได้
เพียงแค่เริ่มจากสิ่งเล็ก ๆ โดยเราต้องรู้ขอบเขตของแต่ละการกระทำ
ว่าเรารู้สึกด้อยค่าหรือหมดศรัทธาในความดีหรือไม่
มันย่อมเกิดขึ้นได้ ท้อได้แต่จะมีเหตุผลอะไรให้เราต้องหยุดเดินก็ในเมื่อทางเดินนี้
มีขวากหนามอาจจะมากบ้างน้อยบ้าง หรือบางทีทางเดินอื่นอาจจะมีมากกว่าก็ได้
ใครจะรู้ได้นอกจากเราเอง
การดำเนินชีวิตบนถนนสายธรรมย่อมยากเย็นเป็นธรรมดา
แต่สุดท้ายปลายทางย่อมต้องมีรางวัลอันหอมหวนให้เราได้เชยชม
ฉันคอยแต่ให้กำลังใจตนเองเช่นนี้เสมอมา
ฉันไม่เคยหวังเป็นที่หนึ่ง เพียงแค่ไม่ใช่ที่สุดท้ายก็เพียงพอแล้ว
หากเราเริ่มช้าเราก็อาจจะตกรถไฟขบวนนี้ก็เป็นได้
ที่นั่งได้ถูกจองไว้แล้ว แต่เราก็อาจจะถูกตัดสิทธิ์ได้ทุกเมื่อหากเราขาดคุณสมบัติ
ถึงอย่างไรฉันก็ต้องได้เดินทางไปกับขบวนนี้อย่างแน่นอนฉันจะไม่พลาดอีกแล้ว
ฉันให้คำมั่นกับตัวเองตลอดเวลา...ใครจะไปกับฉันบ้าง...ตามแต่ศรัทธาเถิดทุกท่าน
ไม่มีความเห็น