...
จิตสงบ อยู่ที่ใจ ใช่เก้าอี้
ธรรมชาติ สร้างสิ่งดี มามอบให้
ว่าทุกอย่าง ดีเลว อยู่ที่ใจ
ใช่ที่ใด สิ่งใด นอกใจตน
...
วี๊ด วิ้วววว
อาจารย์คิมรันโด กล่าวว่า ...
"... เราต้องมีีชีวิตอยู่เพื่ออนาคต ความฝัน และความปรารถนา "passion" เป็นศัพท์ภาษาอังกฤษของคำว่า ความปรารถนา มีรากศัพท์มาจากคำว่า "passio" ซึ่งมีความหมายว่า ความทุกข์ทรมาน ความทุกข์ทรมานจากแรงปรารถนาจะเกิดขึ้นในยามที่เราต้องตัดใจทอดทิ้งความฝันแสนหวานที่รออยู่เบื้องหน้า ..."
บังเอิ้ญ บังเอิญ พบมาพอดีเลย ;)...
ขอบคุณค่ะ "มีสติระลึกรู้ใน "หน้าที่" (Duty)"
เป็นมุมมองที่น่าสนใจมากค่ะ..
นึกถึงคำโบราณที่เปรียบเปรย.." จับปลาหลายตัวด้วยมือเดียว.."
สารภาพได้คำเดียว ปฏิบัติในเต๊นส์ สามสี่ชั่วโมง
มันร้อนครับ อากาศตอนนั้นร้อนพอๆกับเมืองไทย
แต่แปลกใจ ไม่ได้ญาณม้วนเสื่อ
ไม่ได้เบื่อเลย
เมืองไทยมีสถานที่ที่สัปปายะ สมควรแก่การปฏิบัติมากๆครับ
ศ. ดร. เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ นักคิดนักเขียนที่มีผลงานแพร่หลายได้พูดถึง “ความสำคัญของเวลา” เพื่อกระตุกความคิดเอาไว้ว่า
“เวลาและชีวิตไม่ใช่เทปคาสเซตที่เมื่อหมดม้วนแล้วสามารถกรอกลับมาเริ่มต้นใหม่ได้ แต่เวลาและชีวิตเป็นสิ่งที่ใช้หมดแล้วก็หมดไป เราแต่ละคนต่างมีชีวิตเพียงชีวิตเดียว การใช้ชีวิตของเราจึงควรเป็นไปอย่างมีสติและระมัดระวังอยู่เสมอ เพื่อเมื่อบั้นปลายชีวิตมาถึงเราจะไม่ต้องมานั่งเสียใจกับวันเวลาและชีวิตที่ผ่านมา แต่สามารถยิ้มอย่างภาคภูมิใจและบอกกับตัวเองได้ว่าเราได้ใช้เวลาในชีวิตที่ผ่านมาอย่างดีที่สุดแล้ว”
เราไม่สามารถกดรีโมทหยุดเวลา (เหมือนเล่นเกม) แล้วนำไปฝากสะสมไว้เพื่อกินดอกเบี้ย (เวลา) ได้ การบริหารจัดการเวลาโดยเรียงลำดับความสำคัญจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง
ขอบพระคุณ อาจารย์ Sila Phu-Chaya มากครับสำหรับบันทึกที่มีประโยชน์และเปี่ยมไปด้วยความงดงามและพลังของกระบวนการทางความคิด
สวัสดีค่ะ
เข้าใจความรู้สึกของคำว่าตะกละดีค่ะ เพิ่งผ่านมาไม่กี่ปีตอนนั้นทำวิจัยปริญญาเอกค่ะ บริษัทใจดีให้ทุนเรียนปริญญาเอกและทำงานไปด้วย ตอนกลางวันไปทำงานเป็นนักเคมี พอมืดไปอยู่ในห้องแลปที่โรงเรียนนั่งเพาะเชื้อมะเร็งถึงเที่ยงคืน กลับบ้านนอน ตื่นเช้าไปทำงานเข้างานตอนสองโมงเช้า เสาร์อาทิตย์ไปเรียนเลคเชอร์และทำแลปต่อ
ทำมาได้สามปี เจ้านายที่ทำงานให้หน้าที่ใหม่เป็น technical transfer lead คล้ายๆ project manager ก็รับค่ะ เพราะถือเป็นโปรโมชั่นสำหรับตนเอง ทีนี้รู้เลยว่าเหนื่อยมากๆๆๆ พอดีโปรเจคที่ทำยุบตัวเพราะยาที่จะผลิตมีปัญหาด้านคลีนิกก็เลยมาไม่ถึงเรา บอกตรงๆว่าโล่งใจค่ะ หลังจากนั้นลางานยาวเพื่อทำวิทยานิพนธ์อย่างเดียวเลย พอส่งวิทยานิพนธ์แล้วก็กลับไปทำงานใหม่ โชคดีเจ้านายยังเก็บหน้าที่เดิมใว้ให้ค่ะ พอกลับไปทำงานอีกทีคราวนี้เราทุ่มได้เต็มที่ค่ะ สนุกกับงานมากค่ะไม่เหนื่อยมากเหมือนที่เคยเป็น
ขอบคุณบันทึกที่ช่วยให้ใคร่ครวญในค่ำคืนนี้ค่ะ
ปัญญามีไม่มาก แต่ขอนำไปทำความเข้าใจนะครับ สำหรับ นพลักษณ์ และ ลักษณ์ ๗
ราตรีสวัสดิ์ครับ อ. ศิลา และทุกท่าน
ขอบคุณค่ะข้อคิดดีๆ ทำให้ย้อนดูตัว
ลึกซึ้งมากครับ...
คุณSila ค่ะ.. ขอบคุณค่ะ อ่านใคร่ครวญ หลายครั้งทีเดียวเพื่อซึมซับสิ่งที่เขียนไว้ ..เหมือนกับจิบกาแฟถ้วยโปรด.. case ที่ยกมาเป็นตัวอย่าง นึกย้อนตนเช่นกัน สมัยนั้นและสมัยนี้ เป็นบันทึกที่ช่วยทำให้ "รู้ตัวและพัฒนาจิตร" จริงๆค่ะ... ดีจังเลย ได้เข้ามาอ่านเช้านี้ก่อนเริ่มงาน เป็นบทเรียน ที่ได้เรียนรู้ สะท้อนการฝึก... รู้ตัว และพัฒนาจิตร...ตั้งแต่เช้า พัฒนาไปเรื่อยๆ จนถึง เที่ยง บ่าย เย็น ค่ำ และก่อนเข้านอนนะค่ะ..:-))
การทำอะไรหลายๆอย่างพร้อมกันงานอาจจะเสร็จแต่ไม่งดงาม
ถ้าหากเรารู้ตัวเราเองแล้วลงมือทำทีละอย่างมันคงสำเร็จพร้อมความงดงามนะคะ
อ่านแล้วได้ข้อคิดเยอะ ทำให้นึกถึงประโยคที่ว่า การบริหารเวลาเป็นศาสตร์อย่างหนึ่ง และ ปัญหาเขาให้มีไว้แก้ไข ไม่ได้มีไว้แก้ตัว อะไรประมาณนั้น ขอบคุณครับ
สวัสดีค่ะคุณคนบ้านไกล จริง ๆ แล่วสถานที่ปฏิบัติและบรรยากาศรอบตัวมีผลมากต่อการปฏิบัติสำหรีบผู้ที่ฝึกฝนใหม่ ๆ หรือยังเอาชนะเวทนาไม่ได้ การที่คุณคนบ้านไกลไม่รู้สึกร้้อน นับว่าเป็นผลจากการปฏิบัติที่จิตปล่่อยวางอาการทางกายได้แล้ว จึงเป็นเรื่องที่น่ายินดีและขอบคุณมากกับประสบการณ์ที่นำมาแบ่งปันค่ะ หลายสถานที่ในประเทศไทยเอื้อต่อการปฏิบีติจริงๆด้วยค่ะ
“เวลาและชีวิตไม่ใช่เทปคาสเซตที่เมื่อหมดม้วนแล้วสามารถกรอกลับมาเริ่มต้นใหม่ได้ แต่เวลาและชีวิตเป็นสิ่งที่ใช้หมดแล้วก็หมดไป เราแต่ละคนต่างมีชีวิตเพียงชีวิตเดียว การใช้ชีวิตของเราจึงควรเป็นไปอย่างมีสติและระมัดระวังอยู่เสมอเพื่อเมื่อบั้นปลายชีวิตมาถึงเราจะไม่ต้องมานั่งเสียใจกับวันเวลาและชีวิตที่ผ่านมา แต่สามารถยิ้มอย่างภาคภูมิใจและบอกกับตัวเองได้ว่าเราได้ใช้เวลาในชีวิตที่ผ่านมาอย่างดีที่สุดแล้ว”
ช่วงชีวิตหนึ่งของเรา หากก้าวพลาด delete แล้วเขียนใหม่ หรือกรอเทปใหม่ไม่ได้ การมีสติในแต่ละขณะจึงสำคัญมากค่ะ ดีจังค่ะ
๑. เราเชื่อมั่นว่าระยะเวลาที่ผ่านมาพิสูจน์ได้ว่าน้องเขาเห็นแล้วว่าเราจริงใจและน่าไว้วางใจได้สำหรับเขา --- Trust
๒. เราเชื่อว่าช่วงเวลาที่เราจะพูดนั้นอยู่ในโอกาส/เวลาที่เหมาะสมแล้ว โดยเขามีความพร้อมที่จะรับฟังและเราก็อยู่ในสภาวะที่จะพูดด้วยความเมตตามิใช่การตำหนิติเตียนแต่อย่างเดียว --- Time
๓. สิ่งที่เราจะพูดตักเตือนเขา เราจะร่วมเดินทางไปพร้อมกับเขา ให้กำลังใจ และช่วยเหลือเขาจากนี้ไปให้เขาได้ถึงฝั่งโดยไม่ทอดทิ้งค่ะ --- Together
หากเราพิจารณาว่าเราสามารถดูและทำได้ทั้งสามอย่าง การพูดนั้นจะสามารถก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในตัวเขาไปด้วยค่ะ แต่ก็ยอมรับว่าไม่ใช่ทุกคนที่เราจะพูดได้นะคะ บางคน เราสังเกตจากบุคลิกลักษณะแล้ว ต่อให้เขาไว้วางใจเรา แต่ก็คนละเรื่องกับการที่เขาจะยอมรับความเป็นจริงของตัวเอง คนที่ใกล้ตัว บางครั้ง เรายังพูดไม่ได้เลยค่ะ การศึกษานพลักษณ์ จึงช่วยให้เรามองเห็นตัวเองและผู้อื่น และเลือก Time and Space ที่เหมาะสมในการพูดคุยปรึกษาหารือกันค่ะ
ได้เรียนรู้ร่วมกับน้องเค้าค่ะ ขอบคุณมากๆ