ข้าวแพง = ชาวนาได้ลืมตาอ้าปาก


ข้าวแพงเท่ากับคนที่เคยออกปากบอกรักชาวนา ห่วงชาวนา ห่วงกระดูกสันหลังของชาติจะอดตายเกิดความปิติสบายใจคลายทุกข์เพราะชาวนาเริ่มจะสบายหายห่วง

 

ข้าวแพงเท่ากับชาวนาได้ลืมตาอ้าปาก, ข้าวแพงเท่ากับชาวนาได้มีเงินชำระหนี้สิน, ข้าวแพงเท่ากับชาวนาไม่ต้องกู้หนี้ยืมสินมาจ่ายค่าเทอมลูก,  ข้าวแพงเท่ากับศักดิ์ศรีของชาวนาเริ่มทัดเทียมกับอาชีพอื่น,  ข้าวแพงเท่ากับคนส่วนใหญของประเทศที่ประกอบอาชีพเกษตรได้ประโยชน์, ข้าวแพงเท่ากับคนที่เคยออกปากบอกรักชาวนา ห่วงชาวนา ห่วงกระดูกสันหลังของชาติจะอดตายเกิดความปิติสบายใจคลายทุกข์เพราะชาวนาเริ่มจะสบายหายห่วง, ข้าวแพงเท่ากับจะมีคนปลูกข้าวให้ลูกหลานเรากินตลอดไปไม่โยกย้ายถ่ายเทไปทำอาชีพอื่นๆ
 
ส่วนที่ข้าวจะแพงด้วยวิธีจำนำหรือประกันราคานั้นไม่สำคัญเพราะถือว่าเป็นวิธีที่ช่วยเหลือชาวนาทั้งสองโครงการ และสามารถที่จะเกิดการทุจริตคอร์รัปชั่นได้พอๆกันเพียงแต่อาจแตกต่างกันในด้านปริมาณที่อาจเกิดขึ้นไม่ระยะสั้นก็ระยะยาว แต่อยากให้ช่วยกันคิด ช่วยกันหาทางแก้ไขมิให้โครงการดีๆที่เกิดแก่ชาวนาต้องล่มสลายไป ในเมื่อโครงการดีที่นานๆที่จะเกิดแก่ชาวนา แต่มีปัญหาเรื่องการทุจริต เรื่องการสวมสิทธิ์ เรื่องการใช้งบประมาณสูง (โครงการรถไฟฟ้า โครงการสนามบิน โครงการสร้างทางทำถนนและโครงการอื่นๆ) ก็ใช้งบประมาณมากมายมหาศาลเหมือนกันและไม่ได้ตอบสนองบริการแก่พี่น้องเกษตรกรชาวนาทั้งประเทศด้วยซ้ำ เพราะคงเป็นส่วนน้อยที่ชาวไร่ชาวนาจะมาขึ้นเครื่องชำเรืองดูรถไฟฟ้าเพราะวันๆต้องหลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดินผลิตข้าวให้คนกินหาเงินไปชำระหนี้ค่าปุ๋ย ค่ายารักษาโรคและแมลงกว่าจะได้แต่ละเมล็ดแต่ละทะนานไม่ใช่ด้วยวิธีการง่ายๆ (เพราะขาดคนเหลียวแลพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมให้มีผลผลิตเทียบเท่า ลาวเวียดนาม กัมพูชาอย่างจริงจัง) อีกไม่นานประเทศพม่าก็คงยิ้มร่าแซงเราไปได้อย่างสบายอีกประเทศหนึ่ง ยิ่งได้ข่าวว่าจะกลับมาทวงแชมป์ส่งออกที่เคยทำได้เมื่อ 40 กว่าปีก่อนและตอนนี้กำลังติดต่อกับบริษัทเมล็ดพันธุ์ยักษ์ใหญ่ทั่วโลกให้เข้ามาช่วยพัฒนาจัดหาเมล็ดพันธุ์ให้เพียงพอต่อการเพาะปลูกของเกษตรกรในพม่า
 
เพื่อที่จะได้มีส่วนช่วยให้อาชีพเกษตรกรรมและพี่น้องชาวไร่ชาวนาได้ลืมตาอ้าปากบ้างไม่มากก็น้อยก็ไม่อยากให้ผู้มีส่วนเกี่ยงข้องทุกฝ่ายนำเรื่องปากท้องของชาวนาไปเป็นเรื่องงานการโฆษณาทางการเมือง นำความหวังและชีวิตของชาวนาไปเป็นตัวประกัน ถ้าเรารักชาวนาและพี่น้องเกษตรกรจริงพร้อมที่จะให้พวกเขาได้ลืมตาอ้าปากจริงก็ควรจะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจากต้นเหตุและสาเหตุที่แท้จริงไม่ดีกว่าหรือ เช่นหยุดการกักตุนของพ่อค้าคนกลางให้ได้ หยุดการเก็บรักษาที่ขาดมาตรฐานให้ได้ หยุดการสวมสิทธิ์ข้าวที่นำมาจากนอกประเทศให้ได้ หยุดขั้นตอนที่จะก่อให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชั่นในขั้นตอนต่างๆของโครงการให้ได้ โดยที่อย่าให้มีผลกระทบต่อโครงการดีๆเหล่านี้ต้องล้มหายตายจากหรือพิกลพิกาลไปด้วยอีกเลย 
 
มนตรี บุญจรัส
ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ  www.thaigreenagro.com
 
 
หมายเลขบันทึก: 498813เขียนเมื่อ 16 สิงหาคม 2012 06:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 สิงหาคม 2012 21:12 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

ข้าวแพง=ชาวนาได้ลิมตาอ้าปาก...ในมุมกลับ...ชาวนา คือ..ผู้ที่ต้องซื้อ..ข้าวกิน..(ในปัจจุบัน)..ใช้หนี้หมดแล้ว..ไม่มีเงินเหลือไว้..ซื้อข้าวกิน..กริยาที่ตามมา.."อ้าปาก..ตาค้าง"ไม่มีกิน..เหมือนเดิม..(ยายธี)..

ข้าวแพง ต้นทุนในการทำนาก็แพงขึ้นครับ หักเบร็จเสร็จเหลือกำไลไม่เยอะ

แล้วยังต้องเก็บเงินไว้ทำทุนทำนาต่ออีก

แต่จากนี้ไปชาวนาจะมีสะภาพคล่องมากขึ้นด้วยบัตรเครดิดครับ

รูดปี๊ดๆๆๆๆๆๆๆ

5555++++

ส่วนพม่าเคยเป็นประเทศที่ส่งข้าวออกมากที่สุดอันดับ1 จะกลับมาทวงตำแหน่งคืนก็ไม่แปลกครับ

หากประเทศไทยยังการเมืองไม่นิ่ง การสนับสนุนเรื่องการเกษตรมีแบบไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย

แต่งบปี 2556 กระทรวงเกษตร ได้งบอันดับที่ 11 คือ 72,882,914,000 บาท แต่จะเอามาใช้ให้เกิดประโยชน์จริงๆ

ถึงครึ่งของงบหรือเปล่า

ผมว่าต้องตั้งกองทุนปลดหนี้บัตรเครดิดของเกษตรกรด้วยก็ดีนะเนี๊ยเผื่อไว้....อิอิ(แซวเล่นอะครับ)

ขอให้ราคาข้าวตกถึงชาวนาอย่างแท้จริง อย่าให้ตกแก่ พ่อค้านานทุนมากไป

นั่นคือประเด็นสำคัญเลยครับ ท่านวอฌ่า-ผู้เฒ่า โครงการดี ที่นานๆทีชาวนาจะได้รับ ใครกันหนาจะหาวิธีไม่ให้พ่อค้าคนกลาง เถ้าแก่โรงสี นักการเมือง รวมหัวฮั้วกันสร้างวงจรอุบาศก์เล่นแร่แปรธาตุเอาเงินของชาวนา(ในส่วนที่จะได้อย่างเต็มเต็มหน่วย)ไปได้หนอ!!!

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท