เรามาใช้กุศโลบายในการเลี้ยงลูกกันเถอะ


           
            วันก่อนได้ฟังคลิปของพระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี เรื่อง กุศโลบายของพระพุทธเจ้า  เลยคิดถึงว่าน่าจะพิมพ์บทความเรื่องนี้ออกมา ก่อนอื่นขออธิบายความหมายสักนิด
 
            กุศโลบาย (กุศลสนธิกับคำว่าอุบาย)  หมายถึง อุบายที่เป็นกุศล วิธีการที่เกิดจากปัญญา มีเป้าหมายเพื่อเกื้อกูลเพื่อนมนุษย์ให้บรรลุถึงความตื่นรู้เบิกบาน
 
            กโลบาย  หมายถึง อุบายที่เกิดจากเล่ห์กล ปลิ้นปล้อน พูดอย่างหนึ่งทำอย่างหนึ่งแสดงออกอีกอย่างหนึ่งเพื่อเป้าหมายอีกอย่างหนึ่ง เป็นไปในทางที่ไม่ดี
 
            ดังนั้นพ่อแม่ควรเลือกใช้ กุศโลบายในการเลี้ยงดูลูก ๆ ของเรา  มาดูตัวแรกที่แม่ดาวใช้บ่อย ๆ เป็นหนึ่งในกุศโลบายของพระพุทธเจ้า ที่แม่ดาวเองก็เพิ่งรู้ว่าที่ใช้เนี้ยเป็นข้อหนึ่งในกุศโลบายของพระพุทธองค์ ที่ถ่ายทอดความรู้ต่อ ๆ มาจนถึงรุ่นเรา
           
            กุศโลบาย นั่นคือ  เอาใจเขามาใส่ใจเรา   ตัวอย่างที่แม่ดาวใช้เลยนะคะเมื่อไม่กี่วันมานี่เอง ตัวอย่างใหม่มาก
            ก่อนนอนทุกๆ คืน แม่ดาวมักจะนอนคุยกับลูกก่อนที่จะหลับหลังจากที่ทำกิจกรรมก่อนนอนอื่น ๆ หมดแล้ว  คืนนึง 
 
ดีโด้      แม่ครับ ดีโด้ไม่ชอบ เอเอ เลย (ชื่อเพื่อนสมมุตินะคะ)
 
แม่        เหรอครับ....ทำไมล่ะลูก (บางทีคำถามว่าทำไมก็ใช่ได้นะคะ พิจารณาดูตามแต่ละเหตุการณ์ ดูตามความเหมาะสม)
 
ดีโด้      เอเอ  ตัวดำ ไม่หล่อ ไม่เท่ห์ (ย่นบทสนทนามานะคะไม่งั้นก็ยาว เพราะกว่าจะเข้าเหตุผลที่แท้จริงได้เนี้ยก็ต้องตะล่อม ๆ ถาม)
 
แม่        อืม....เอเอ ตัวดำ ไม่หล่อ ไม่เท่ห์ ดีโด้ก็เลยไม่ชอบเขาใช่ไหมครับ (การทวนคำพูดของลูกจะทำให้เขารู้สึกว่าเราตั้งใจฟังเรื่องราวของเขาอยู่)
 
ดีโด้      ใช่
 
แม่        แล้วในห้องเนี้ยมีเพื่อน ๆ คนอื่นไม่ชอบเอเอ ด้วยหรือเปล่าครับ (แม่พอจะมองเห็นสาเหตุเพราะลูกเคยมาเล่าเรื่องเพื่อน ๆ ในห้องบ่อย  ๆ )
 
ดี โด้      มีเยอะแยะเลย  ก็เอเอ เขาตัวดำ ไม่หล่อ ไม่เท่ห์  ดีโด้เห็นเพื่อน ๆ เขากระซิบ ๆ กันด้วยว่า “อย่าไปเล่นกับเอเอ” (ด้วยเหตุผลเดียวกันคือไม่หล่อ)
 
แม่        จริงเหรอครับ ดีโด้ได้ยินเลยเหรอลูกว่าเพื่อนกระซิบว่า “อย่าไปเล่นกัเอเอ”
 
ดีโด้      จริงแม่ ก็เพื่อน ๆ กระซิบซะเสียงดังขนาดนั้น (ฮ่าๆๆๆ พูดแล้วน้องดีโด้ก็หัวเราะ)
 
แม่        แล้วนอกจากที่เขาจะตัวดำ ไม่หล่อ ไม่เท่ห์แล้วเนี้ย เขาเป็นเด็กเกเร ชอบแกล้งคนอื่นด้วยหรือเปล่าครับ
 
ดีโด้      ไม่หรอก...เอเอ เขาก็นิสัยดีนะแม่  แต่เพื่อนๆ ไม่ชอบเพราะตัวดำ ไม่หล่อ ไม่เท่ห์ (เหตุผลเดิม เหตุผลเดียว เท่าที่ถามมา)
 
            เด็กวัยนี้(ประมาณปฐมวัย) เขาต้องการสังคมจากนอกบ้าน ต้องการการยอมรับจากสังคมนอกบ้าน และต้องการมากกว่าสังคมในบ้านเพราะในบ้านเขามั่นใจแล้วว่าพ่อแม่รักและยอม รับในตัวเขา สำหรับน้องดีโด้นะคะ  แม่ดาวไม่แปลกใจที่ลูกจะคล้อยตามเพื่อน ๆ ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้ว เขาก็ไม่ได้จะไม่ชอบเพื่อนคนนี้จริง ๆ คืออีกมุมของความคิดที่เป็นความคิดของตัวเขาเอง เขาก็รู้สึกว่าเอเอ เป็นเพื่อนที่ดี เขาน่าจะรู้สึกผิดที่แสดงอาการไม่ชอบเพื่อนคนนี้ เลยระบายออกมาให้เรารับฟัง  มาอ่านกันต่อ จะเริ่มใช้กุศโลบายแล้วนะคะ
 
แม่        อืม...ถ้าดีโด้เกิดมาไม่ได้ตัวขาว ๆ หล่อ เท่ห์ แบบนี้ ดีโด้จะรู้สึกยังไงครับ (มันเป็นสิ่งที่เขามักได้ยินจากหลาย ๆ คน บอกตลอด ๆ ว่าเขาหล่อ เท่ห์ประมาณนี้)
 
ดีโด้      ไม่เอา ดีโด้ไม่อยากตัวดำ ไม่หล่อ ไม่เท่ห์
 
แม่        สมมุติ ลูกสุมมุติ  ว่าหากลูกเกิดมาตัวดำ ไม่หล่อ ไม่เท่ห์ แต่มีนิสัยดี แล้วยังโดนเพื่อน ๆ รังเกียจ ไม่อยากจะเล่น ไม่อยากจะคุยด้วย เพียงแค่เพราะรูปร่างหน้าตาภายนอก  ลูกจะรู้สึกยังไง
 
ดีโด้      เสียใจ
 
แม่        เสียใจเนอะ  ก็คนเราเลือกเกิดไม่ได้ ไม่มีใครหรอกอยากเกิดมาหน้าตาไม่หล่อ แถมตัวดำอีก  สิ่งที่เราเลือกเองได้คือนิสัย เราเลือกได้ว่าเราจะมีนิสัยอย่างไร ดี หรือไม่ดี เราเลือกได้ด้วยตัวเอง
 
แม่        แล้วถ้ามีเพื่อน 2 คนนะครับ ให้ดีโด้เลือกเป็นเพื่อนด้วย ดีโด้จะเลือกเพื่อนคนไหน  คนแรก หล่อ เท่ห์ แบบพี่เคนเลย (ดีโด้ชอบพี่เคน ธีรเดช) บ้านก็รวย แต่งตัวเท่ห์เกาหลีมากๆ ทันสมัยสุด ๆ แต่มีนิสัยไม่ดี ชอบแกล้งเพื่อน เอาแต่ใจ พูดก็ไม่เพราะ แต่เรียนเก่งนะ  กับเพื่อนคนที่ 2  ตัวดำ ขี้เหร่ บ้านก็จน ใส่เสื้อผ้าเก่า ๆ แต่สะอาดนะ  แล้วก็มีนิสัยดี พูดเพราะ ชอบช่วยเหลือคนอื่น ๆ ขยันเรียนด้วย แต่อาจเรียนไม่เก่งเท่าไหร่ แต่ขยัน
 
ดีโด้      เลือกคนที่ 2  ครับ
 
แม่        คนที่ 2 เป็นแบบไหนนะครับ (ให้เขาทวนคำพูดเรา เพื่อตรวจสอบว่าเขาเลือกคนไหนแน่ๆ)
            ดีโด้เขาก็จะทวนว่าเขาเลือกเพื่อนที่มีลักษณะอย่างไรทั้งภายนอกและภายใน
 
แม่        เห็นไหม....ดีโด้คิดเองได้นะครับ เลือกเองได้  ว่าดีโด้จะเลือกคบเพื่อนแบบไหน แล้วแม่ก็เห็นด้วยว่าคนที่ 2 นั่นน่าคบกว่าเพื่อนคนแรกมาก   ไหนขอแม่จุ๊บสมองใส ๆของลูก 1 ทีซิครับ
 
            จบแบบนี้ค่ะ แล้วติดตามผล ชวนคุยๆๆ ไปตามประสา เหมือนทุก ๆ วัน ผลลัพท์คือ น้องดีโด้กลับไปเล่นกับเพื่อนที่ว่าแล้ว และเขาก็ดีมีความสุขขึ้นเยอะ  แม่ดาวคิดเองว่า ลูกคงรู้สึกไม่ดีกับการกระทำของตัวเองในตอนแรก คือรู้ว่าไม่ควร แต่ขัดกระแสสังคมไม่ได้  นี่เป็นอีก 1 เหตุการณ์  “คิดได้ จึงได้คิด”  และคิดด้วยตัวเขาเอง โดยมีเราคอยสนับสนุน คอยผลักดัน กระตุ้น ความคิดบวก ๆ ให้เขา
 
            กระแสสังคมปัจจุบันค่อนข้างน่ากลัว พ่อแม่ และเด็ก ๆ ส่วนใหญ่ หลงใหลกับวัตถุ ตัดสินคนจากรูปลักษณ์ภายนอกกันมากขึ้น หลงรูปกันเยอะขึ้น เห็นได้ชัดว่าพ่อแม่จำนวนไม่น้อยพาลูก ๆ ไปสมัครเป็นนางแบบ นายแบบ ดารา นักรัอง นักแสดง  หากทำไปเพราะลูกเรารักชอบหรือสนใจเป็นพิเศษ เป็นการสนับสนุนความสามารถลูกก็เป็นเรื่องดีนะคะ แต่หากทำเพราะอยากให้ลูกเด่น ดัง ตัวเราเองมีหน้ามีตาในสังคมเป็นที่รู้จักและยอมรับกันได้สังคมเหตุผลนี้คง ไม่ดีเท่าไหร่เนอะ ส่วนผลพลอยได้คือค่าตอบแทนอันนั้นก็อีกเรื่อง เพราะบางครอบครัวเขาก็จำเป็นต้องหาเลี้ยงชีพด้วยวิธีนี้อันนี้ก็เข้าใจได้  กิเลศเยอะมาก
นะคะปัจจุบัน เราต้องรู้ทันและอย่าไหลไปตามกระแสกิเลศที่สังคมกำลังจะพาเราจมลงไปด้วย  
 
 
หมาย เหตุ   บทสนทนานี้อาจไม่ครบถ้วนตามที่ได้คุยกันจริง ๆ เพราะมันจะยาวมากไป และบางอันมีการปรับคำนิดหน่อยเพื่อให้เป็นแนวทางในการนำไปใช้ต่อนะคะ
หมายเลขบันทึก: 498659เขียนเมื่อ 14 สิงหาคม 2012 23:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 สิงหาคม 2012 08:09 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ขอบคุณค่ะ เป็นประโยชน์ให้ผู้ปกครองได้นำกลับไปใช้นะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท