คิดถึงคุณยาย


ฉันสัญญาจะทำหน้าที่ของฉันให้ดีที่สุด

ในทุกวันพฤหัสบดี ฉันได้รับมอบหมายให้มาช่วยดูแลผู้มารับบริการผู้ป่วยนอก ในเวลา 7.30 -8.30 น. ซึ่งหน้าที่ของฉันคือการให้ข้อมูลการมารับบริการที่งานผู้ป่วยนอก และดูแลเรื่องประเมินความดัน โลหิต ถ้าใครที่ ความดันโลหิตสูงก็จะต้องดูแลให้ พักอย่างน้อย 20 นาทีถึงวัดซ้ำ และหน้าที่ของฉันอีกอย่างคือ ให้ ความรู้กับผู้รับบริการเรื่องโรคเบาหวาน และโรค ความดันโลหิตสูง เพราะปัจจุบันมีผู้ป่วยเป็นจำนวนมาก และเป็นเรื่องใกล้ตัวฉันมากที่สุด ขณะที่ฉันได้ให้ข้อมูลเรื่องโรคอยู่นั้น ฉันได้มองไปรอบๆ OPD สายตาของฉันได้ไปเห็นคุณยายท่านหนึ่ง หน้าตาซีดเซียว แทบจะไม่มีสีเลือด ดูอิดโรย เหมือนคนจะเป็นลม... ฉันเห็นแล้วฉันจึงรีบเดินเข้าไปหาด้วยสัณชาตญาณของความเป็นพยาบาล เพื่อถามไถ่อาการ พร้อมกับนึกในใจว่า ทำไมน้องประชาสัมพันธ์ถึงได้ปล่อยให้คุณยายท่านนี้มายืนรอวัดความดันนะ ( และฉันก็เก็บคำถามนี้ไว้ในใจ ) ต่อมาฉันถึงได้ทราบว่าคุณยายไป ตรวจมาแล้วจากคลินิก คุณหมอได้ให้ มานอนโรงพยาบาลเพื่อให้เลือด ขณะรอเข้าห้องฉุกเฉินจึงมายืนรอ วัดความดันโลหิต (และแล้วคำถามที่ฉันเก็บไว้ ก็ได้รับคำตอบ ) แต่ท่าทางคุณยายท่านนั้นฉันประเมินแล้วว่าคงไม่ไหวแน่ๆ จึงได้ประคองคุณยายไปนั่งพัก และบอกคุณยายและญาติว่า ฉันจะประสานห้องฉุกเฉินให้คุณยายไปนอนพักก่อน เพราะเกรงว่าคุณยายจะเป็นลม ญาติของคุณยายเมื่อฉันได้ไห้การดูแล และไปพูดคุยด้วย แกก็มีสีหน้าดีขึ้น ฉันจึงเรียกน้องเวรเปลให้นำรถเข็นมารับคุณยายไปนอนรอที่เตียงที่ว่างในห้องฉุกเฉิน และส่งต่อข้อมูลให้พยาบาลที่ห้องฉุกเฉินทราบ และให้เป็นหน้าที่ของห้องฉุกเฉินดูแลต่อ และฉันก็ทำงานของฉันตามปกติ.ในวันนั้น... เวลาในการทำงานของฉันมันช่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว ฉันเองก็ลืมเหตุการณ์ในวันนั้นไปแล้ว จนกระทั่ง วันหนึ่ง ฉันกำลังตรวจผู้ป่วยเบาหวานตามปกติ มีคุณยายท่านหนึ่งถามว่า “คุณหมอซือหยัง …” “ชื่อติ๋มจ๊ะคุณยาย “ ฉันตอบคุณยาย คุณยายจึงพูดว่า “ คุณหมอจำฉันได้บ่... มื้อนั่น ถ้าบ่ได้คุณหมอ ซอยไว้ฉันคือสิบ่รอด” “มื๋อได๋คุณยาย ..” ฉันถามคุณยายต่อเพราะฉันเองก็งง ๆ “มื๋อที่คุณหมอพาฉันเข้าห้องฉุกเฉินนั่นเด้ มื๋อนั่นฉันวินหลาย คุณหมอเลยเอิ้นคนงานพาไปนอนห้องฉุกเฉิน” “ อ๋อ จำได้แล้วค่ะ คุณยาย “ “ฉันแนมหาคุณหมอ ฉันกะ บ่พ่อคุณหมอจักเทือ มือนี้ฉันพ่อแล้ว ฉันดีใจหลาย ขอบคุณคุณหมอหลายๆเด้อ” คุณยายยกมือไหว้ขอบคุณฉัน “ ไม่เป็นไรหรอกคุณยาย ขอบคุณคุณยายนะที่จำหนูได้” .... (วันนั้นเองฉันเองก็รู้สึกแอบปลื้มทั้งวัน ) จากเหตุการณ์ในวันนั้นมันทำให้ฉันรู้ว่าสิ่งที่เราทำและให้การดูแลคนไข้ แม้เป็นสิ่งเล็กน้อย ในสายตาของเรา หรือทำด้วยหน้าที่ที่ควรจะทำ แต่เป็นการแสดงออกถึงความเอาใจใส่ต่อผู้อื่นมันทำให้คุณยายท่านนั้นจำฉันได้จนกระทั่งวันนี้... ฉันดีใจที่เกิดมาเป็นพยาบาล เพราะเป็นอาชีพที่ฉันรักและใฝ่ฝัน มาตั้งแต่เด็กๆ และฉันก็สัญญาว่าฉันจะทำหน้าที่ของฉันให้ดีที่สุด ......

คำสำคัญ (Tags): #คุณยาย
หมายเลขบันทึก: 497844เขียนเมื่อ 9 สิงหาคม 2012 15:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 9 สิงหาคม 2012 15:55 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท