เราสามารถซื้อขายอะไรหลาย ๆอย่างได้ ในตลาด แต่เพียงอย่างเดียวที่เราไม่สามารถซื้อและขายได้ก็คือ ความรักของแม่
เพราะตัดสินใจ..อยากเรียนภาษาไทย...
อยากเรียนรู้เพิ่มเติมในสาขาที่ตัวเองชอบ...
เลยตัดสินใจสมัครเรียนที่รามคำแหง..โดยการเทียบโอน
ตอนนี้..ก็มาสอบ...ต้องใช้ชีวิตในกรุงเทพตามลำพังคนเดียว..
ถึงแม้ว่าจะโตจนเป็นครูของเด็ก ๆ แล้ว..แต่ก็ไม่เคยห่างบ้านเหมือนตอนนี้เลย..
แม่ก็ยังเป็นแม่คนเดิม..ที่หมั่นโทรมาถาม..
ว่าเป็นไงบ้าง..เป็นไข้รึปล่าว เป็นภูมิแพ้มั้ย..เงินพอมั้ย...
อยู่ได้รึปล่าว..
จำได้..ว่าตอบไปว่า..อยู่ได้..ไม่ได้ลำบากมาก..
เป็นนิสัยส่วนตัวไปแล้ว..ว่าเวลาที่บ้านโทมา..
หน้าที่ก็คือ..ทำตลก ๆ
และเล่าเรื่องสนุก ๆ เข้าไว้
จะได้ไม่เป็นห่วงมาก...
สุดท้ายก็ถามเรื่องอาหารการกิน..ที่แม่กลัวว่าจะอด..
เพราะเป็นที่รู้กันทั้งบ้านว่า..ถึงแม้ลูกสาวคนนี้..ของแม่จะอ้วน..
แต่เป็นลูกอ้วนที่เลือกกิน
(ถือคติประมาณว่า..ยอมอด..ถ้าไม่อร่อย..ฮา..)
เลยตอบกับแม่..ไปว่า..มีของกิน..มีร้านมากมายให้ซื้อ..
ที่นี่..มีขายทุกอย่างค่ะ..
"ยกเว้น..พ่อกับแม่"
เป็นคำตอบที่แม่เคยพูด..
เมื่อครั้งยังเรียนป.ตรี..
เมื่อฝากแม่ให้ซื้อของ...
เราก็จะถามว่า อันนั้นมีมั้ยในตลาด
แม่ตอบว่ามี อันนี้ล่ะมีมั้ยในห้าง แม่ก็ตอบว่ามี
เราเลยตอบไปว่า โหหหหห
อันนี้ก็มีขายหรือแม่
หนูแย่จังที่ไม่ค่อยไปซื้อของเอง
แม่เลยตอบเพื่อที่จะให้ลูกช่างถามหยุดถามว่า
ทุกอย่างมีขาย ยกเว้นพ่อกับแม่
เราเลยย้ำไปว่า ใช่ค่ะ ทุกอย่างซื้อขายได้ แต่ไม่ใช่รักของแม่
ใช่..แม่ไม่มีขาย...
และความรักของแม่...ก็ไม่มีวันหมด..
ถึงแม้ว่า..ตอนนี้..ลูกคนนี้..จะโต..จน..เท่าพ่อกับแม่แล้วก็ตาม
และสิ่งสำคัญ---ที่อุ่นใจเสมอ---ที่เป็นลูกแม่ก็คือ
แม่บอกเสมอว่า..ถึงลูกจะหน้าตาขี้เหร่อย่างไร
แต่ถ้าใคร เอาเงินเอาทองท่วมหัวมากองให้..
แม่ก็ไม่ยอมแลก..ลูกของแม่กับใครหรอก
ประโยคสั้น ๆ พูดแบบชวนให้หัวเราะ
แต่ความลึกซึ้งก็คือ---ไม่ว่าอะไรมีค่าแค่ไหน
ก็ไม่ได้มีค่ากับแม่----เท่าลูกของแม่
รักแม่มากมายค่ะ