เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา บรมราชินีนาถ และ 60 พรรษา สยามมกุฎราชกุมาร
พุทธศักราช 2555 นับเป็นปีมหามงคล เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 12 สิงหาคม 2555 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ 28 กรกฎาคม 2555 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร (HS1C)
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2475 ณ บ้านของพลเอกเจ้าพระยาวงษานุประพัทธ (หม่อมราชวงศ์สท้าน สนิทวงศ์) และท้าววนิดาพิจาริณี (บาง สนิทวงศ์ ณ อยุธยา) บิดาและมารดาของหม่อมหลวงบัว กิติยากร ตั้งอยู่ที่ 1808 ถนนพระรามที่ 6 อำเภอปทุมวัน จังหวัดพระนคร ได้รับพระราชทานนามจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวว่า "สิริกิติ์" มีความหมายว่า "ผู้เป็นศรีแห่งกิติยากร"
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่นานัปการ ทั้งในฐานะพระผู้เป็นที่พึ่งของปวงชนชาวไทย และในฐานะคู่บุญคู่พระราชหฤทัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระองค์ท่านทรงเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อความผาสุกของปวงชนชาวไทยและเพื่อความเจริญก้าวหน้าของประเทศชาติ ทรงช่วยแบ่งเบาพระราชภารกิจในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่อาณาประชาราษฎร์ ทั้งโดยเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์เอง
พลเอกณพล บุณทับ รองสมุหราชองครักษ์ ข้าราชการบริพารที่รับใช้เบื้องพระยุคลบาท ได้เล่าไว้ในหนังสือพระราชินีของเราเรื่องเล่าจากแผ่นดินใต้ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ความตอนหนึ่งว่า “สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เคยมีพระราชกระแสเล่าเรื่อง พระองค์ท่านทรงยอมทำทุกอย่าง เหน็ดเหนื่อยพระวรกายเพื่อคนในชาติ ซึ่งเหมือนกับลูกของพระองค์ท่าน ไม่ว่าเดือดร้อนมีปัญหาอะไร อาทิ โครงการปะการังเทียม อำเภอไม้แก่น จังหวัดปัตตานี ชาวบ้านร้องไห้ว่าทำมาหากินไม่ได้ เคยทำประมงอยู่ชายฝั่ง ตอนนี้ปลาไม่มี จากนั้นตี 3 พระองค์ท่านเรียกประชุม 2 ชั่วโมงว่าจะแก้ปัญหากันอย่างไร ซึ่งมีสาเหตุจากอวนลากอวนรุน…" ด้วยพระราชกรณียกิจเหล่านี้ แสดงให้เห็นถึงหิตานุหิตประโยชน์ที่พระองค์ท่านได้ทรงบำเพ็ญในฐานะพระบรมราชินี ผู้เป็นที่พึ่งของประชาชนโดยแท้ ดังข้อความที่พระองค์ท่านได้ทรงพระราชทานสัมภาษณ์แก่ผู้สื่อข่าว BBC ในสารคดี “Soul of a Nation” เมื่อ พ.ศ. 2522 ความตอนหนึ่งว่า “Loving kindness is the real thing one should give to other person, to give, not to take only. To give to love. So, that’s the reason my husband and I can work year after year, day after day, without being ill. But we know when it is time to die, nobody can escape. ความเมตตากรุณาเป็นสิ่งที่ที่คนเราควรมีให้ต่อผู้อื่น อย่างแท้จริง ไม่ใช่เป็นฝ่ายรับข้างเดียว ให้และเมตตา นี่เป็นเหตุผลให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และข้าพเจ้าทรงงานปีแล้วปีเล่า วันแล้ววันเล่า โดยไม่ประชวร แต่เราก็รู้ดีว่า เมื่อถึงเวลาที่จะต้องจากโลกนี้ไป ไม่มีใครที่หนีพ้นได้”
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชสมภพ เมื่อวันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2495 เวลา 17 นาฬิกา 45 นาที ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระองค์ได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อประชาชนชาวไทย ในหลายประการ อาทิ ทรงโปรดให้สร้างโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชขึ้นทั่วประเทศ เพื่อให้การรักษาพยาบาลผู้เจ็บป่วยในถิ่นทุรกันดาร และเมื่อพ.ศ. 2552 ทรงปฏิบัติหน้าที่นักบินที่ 1 เครื่องบินโบอิ้ง 737 - 400 ในเที่ยวบินสายใยรักแห่งครอบครัว ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และจัดหาอุปกรณ์ด้านการแพทย์ สำหรับโรงพยาบาลใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ฯลฯ
ด้านกิจการวิทยุสมัครเล่น กรมไปรษณีย์โทรเลข ได้ทูลเกล้าฯ ถวายประกาศนียบัตรพนักงานวิทยุสมัครเล่นขั้นสูง พร้อมสัญญาณเรียกขาน "HS1C" แด่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2541
เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 12 สิงหาคม 2555 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ขอประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าได้น้อมจิตและทำความดีถวายเป็นพระราชกุศล ขอพระองค์จงทรงพระเจริญ พระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง สถิติเป็นมิ่งขวัญและคู่พระบารมีแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตราบนิจนิรันดร์เทอญ...ฑีฆายุกา โหตุ มหาราชินี ประชาชนทุกหมู่เหล่าสามารถร่วมถวายพระพรออนไลน์ได้ที่ www.belovedqueen.com และถวายพระพรออนไลน์เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ผ่านทางเว็บไซต์ www.crownprince60.com
ความเห็น (1)
ขอบคุณกับบทความดีดีนีนะคะ