“ความสำคัญของเวลา” และ “คุณค่าของชีวิต”
คำนี้ท่าน ว.วชิรเมธี กลาวไว้ในหนังสือ “หนึ่งคนตายล้านคนตื่น” เป็นคำที่ทำให้ชลัญฉุกคิด บางสิ่งอย่างขึ้นมา ได้
ชลัญ มองว่า ทุกวันนี้คนเราใช้ชีวิตกันอย่างประมาท ปล่อยเวลาไปโดยที่ ไม่ได้ใช้เวลาที่มีอยู่สร้างคุณค่าให้ชีวิตตัวเราเอง หลายคนคิดว่า เมื่อจะทำสิ่งใดสักอย่าง รอได้ ยังไม่ถึงเวลา แต่คุณรู้มั๊ยว่าเวลาอาจไม่คอยคุณ
ชลัญย้อนกลับไปนึกถึงเรื่องราวในอดีต ที่คิดเท่าไรก็ทำให้เจ็บปวดใจทุกครั้งนี่แหล่ะการรอเวลา ใช้เวลาเปลืองไป โดยไม่สามารถจะย้อนกลับไปแก้ไขอะไรได้เลย
“ พ่อมาบอกชลัญว่าย่าป่วย ไม่ค่อยมีแรง เหนื่อยเพลีย ให้ไปดูหน่อย ย่าอยากเจอ ชลัญก็คิด อ้อ ! เดี๋ยวไปดู เดี๋ยว.... เดี๋ยว..... เดี๋ยว..... เดี๋ยว.... เดี๋ยว..... ผ่านไปอีก 1 สัปดาห์ลืมไปแล้วเพราะห่วงแต่งาน เพิ่งนึกได้ พ่อก็ไม่ได้พูดเตือนอีกเพราะเห็นว่าเราทำงานยุ่ง แต่พ่อน่ะไปเยี่ยมย่าทุกวัน ถามพ่อว่า ย่าเป็นอย่างไร พ่อบอก คงแย่ ไม่น่าจะอยู่ได้นาน (ย่าเป็นโรคชรา) วันนี้แหล่ะได้ฤกษ์ เตรียมไปซื้อ นม อาหารบำรุง เนสวีต้าที่ย่าชอบกิน ไปให้ ตั้งใจวันนี้เลิกงานไปแน่ แต่ช้าไป แม่โทรมาบอกตอน 15.50 น.ว่าย่าเสียชีวิตแล้ว ให้เตรียมซื้อ ฟอร์มาลีน และคนฉีดศพมาด้วย ฉันนั่งอึ้งตัวชา นี่ฉันทำอะไรอยู่ ทำไมฉันต้องรอเวลา ฉันห่วงคนที่ฉันต้องดูแลเพราะหน้าที่พยาบาล แต่ฉันกลับลืมห่วงคนที่ฉันต้องดูแลด้วยความรัก ฉันปล่อยเวลาอย่างเรียกกลับไม่ได้ ....เนสวีต้าที่ย่าชอบไม่ได้กิน แต่ตอนนี้ฟอร์มาลีน ต้องถูกฉีดเข้าไปในตัวย่าแทน ”
จากเหตุการณ์นั้นมาชลัญไม่เคยปล่อยเวลาให้มันหายไปอย่างไม่มีความหมาย ในคุณค่าแห่งชีวิต กับคนที่ชลัญต้องดูแลเขาด้วยความรัก ที่มาจากจิตใต้สำนึกแห่งรัก นั้นคือ พ่อ แม่ พี่น้อง ครอบครัว ชลัญจะดูแลให้และพร้อมแสดงให้เขาเห็นว่าเรารักเขามากแค่ไหน
สำหรับเพื่อนที่เป็นความรักที่เกิดจากการปรุงแต่งความรู้สึกของชลัญจากมิตรภาพ และความผูกพัน ชลัญก็จะไม่รอที่จะแสดงออกว่าเรารักและห่วงใยเพื่อนแค่ไหน
อีกรักคือ ความรักที่เกิดจากหน้าที่ การงานที่ชลัญต้องทำ ก็คือผู้ป่วยและงานนั้น ชลัญก็จะไม่รีรอที่จะดูแลเขาด้วยความห่วงใยปรารถนาดีที่ มีให้เขาได้รับบริการที่ดี เท่าที่ชลัญจะทำให้ได้
อาจมีบ้างบางเวลาที่ ชลัญปล่อยเวลาให้สูญเปล่า เพราะโทสะ โมหะ บางอย่างที่เข้ามาครอบงำ แต่ชลัญก็มักจะรู้ตัวเสมอว่า ตอนนี้เกิดอะไรกับความรู้สึกและจะพยายามสลัดความรู้สึกทั้งสองนี้ออกไป ให้ได้ เพราะมันเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ชลัญปล่อยเวลา ที่จะสร้างคุณค่าให้ชีวิต
ในหนังสือ นี้ท่าน ว.วชิรเมธี ท่านยังได้กล่าวถึงหลุมพรางแห่งเวลาที่เรามัก มองผิดคิดว่า เวลานั้นมีมากมาย แท้จริงเวลาอาจสั้นนิดเดียวก็เป็นได้ ท่านเปรียบเวลากับหลอดด้าย เมื่อเรามองเห็นหลอดด้ายเรารู้สึกว่าด้ายนั้นมันเต็มหลอด คงเย็บผ้าได้เสร็จ เราก็เผลอไม่เตรียมหาสำรอง หรือใช้อย่างประหยัด แต่แท้ที่จริงแล้วด้ายนั้นมีนิดเดียว เพราเราไม่เคยดูว่าแกนด้ายนั้นใหญ่ แค่ ไหน ทำให้เราหลงผิดคิดว่า ด้ายมีมากนั่นเอง
เปรียบได้กับเวลาที่เรามักหลงผิดใช้ชีวิต ฟุ่มเฟือย โดยไม่ได้ทำในสิ่งที่เป็นคุณค่าของชีวิต ไว้เลย ........
จนวันที่ เวลาหมด ไม่รู้ตัว แล้วเราจะมานั่งเสียใจว่า ฉันยังไม่ได้ทำสิ่งที่เป็นคุณค่าให้กับ ....................เลย
“อย่าปล่อยให้เวลาหมดไปโดยไม่มีความหมายของคุณค่าแห่งชีวิตเลย”
ด้วยความรัก
ชลัญธร ตรียมณีรัตน์
คำโบราณว่าไว้.."เวลาและวารี ไม่คอยใคร "..บริหารตน..บริหารเวลา..พาใจเป็นสุข..
วันนี้รถติดสนิททั้งวัน มีชุมนุมหน้าศาลอาญาใกล้บ้าน..ทำงานที่บ้านสบายใจดีค่ะ..
"คนที่ไม่รักษาเวลา คือคนฆ่าตัวเอง"
"ถ้ารู้จักใช้เวลา ชีวิตจะมีค่ากว่านี้"
สวัสดีค่ะพี่หมูจ๋ายกมาจากคำสอนของท่านจันทร์ กุสโล(พระพุทธพจนวราภรณ์) วัดเจดีย์หลวงวรรวิหารค่ะ สบายดียามบ่ายนะคะน้องชลัญธร
Boo | |
sr | |
ขจิต ฝอยทอง | |
ดร. ธวัชชัย ปิยะวัฒน์ | |
นาง นงนาท สนธิสุวรรณ | |
ภูคา | |
...ปริม pirimarj... | |
อ.นุ | |
ผศ. วิไล แพงศรี | |
หมูจ๋า |