ย่างก้าวสู่การเปลี่ยนผ่าน


ความหมายของจาคะ เมตตา และปัญญานี่เองคือมนุษยธรรม ธรรมที่ทำให้ความเป็นมนุษย์เรานั้นงดงามและสมบูรณ์

ในตอนเย็นหลังเลิกงานวันก่อน เราลงไปเดินออกกำลังกายตามทางเดินริมน้ำ ในระหว่างทางมีเพื่อนบ้านคนหนึ่งวิ่งผ่านไปและได้หยุดทักทายกันตามประสาคนรู้จัก ฉันสังเกตว่าทุกฝีก้าวที่เขาวิ่งจะมีเสียง ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ไปตามจังหวะการย่ำเท้า เขาดึงเครื่องเล็กๆ ที่ให้เสียงนั้นออกจากกระเป๋ากางเกงเพื่อปิดเสียงและบอกว่าเขาใช้เสียงนั้นกำหนดความเร็วในการจังหวะการวิ่ง เพื่อให้ตนเองวิ่งได้ระยะทางที่ตั้งใจเอาไว้โดยไม่เผลอผ่อนกำลังลง หรือเร่งฝีเท้าเร็วจนเกินไป เขากำลังฝึกซ้อมการวิ่งนี้เพื่อเข้าร่วมแข่งขันการวิ่งมาราธอน ฉันรู้สึกทึ่งในความตั้งใจจริงนั้น

ในขณะที่ฉันออกไปเดินเล่นเพื่อผ่อนคลาย หยุดชมนกชมไม้ไปเรื่อยๆ ใครบางคนกำลังวิ่งซ้อมอย่างจริงจังเตรียมตัวไปแข่งขันมาราธอน ต่างจังหวะกันเสียจริง

...

...

การเดินวิ่งที่ต่างจังหวะและวัตถุประสงค์ที่พบพานทำให้ฉันนึกไปถึงหนังสือที่เพิ่งอ่านจบไป ซึ่งผู้เขียนได้บรรยายประสบการณ์จากการเดินของเขาเอาไว้ หนังสือเล่มนี้เป็นงานเขียนของอาจารย์ประมวล เพ็งจันทร์ ชื่อเรื่องการเดินทางสู่ความเป็นมนุษย์ที่แท้ เป็นหนังสือจากการถ่ายทอดการปาฐกถามูลนิธิโกมลคีมทอง ประจำปี ๒๕๕๐ ในหัวข้อเรื่องเดียวกันกับหนังสือ

ท่านอาจารย์ประมวลได้เล่าถึงการเปลี่ยนผ่านในชีวิตตั้งแต่วัยเด็กจนถึงปัจจุบันและสิ่งที่ได้เรียนรู้มา มีช่วงหนึ่งที่ฉันประทับใจมากคือตอนที่ท่านอธิบายถึงความสัมพันธ์ของความเป็นจริงทางวัตถุวิสัยและจิตวิสัยว่า ชีวิตที่มีความหมายต้องดำรงอยู่อย่างมีดุลยภาพระหว่างสัตยะและสุนทรียะ หากเมื่อใดที่การดำรงอยู่เอนเอียงไปในทางสัตยะ อันเป็นความจริงทางวัตถุวิสัยมากเกินไป ชีวิตนี้ก็จะคับแค้นเจ็บปวดด้วยข้อเท็จจริงที่บีบคั้นเราอยู่ แต่ถ้าหากเมื่อใดที่ชีวิตเราเอนเอียงไปทางสุนทรียะอันเป็นความจริงทางจิตวิสัยมากเกินไป ชีวิตนี้ก็จะเลื่อนลอยเพ้อฝันและเปราะบาง ชีวิตที่มีความหมายคือชีวิตที่สมดุล

อาจารย์ประมวลเดินทางโดยทางเท้ากลับบ้านจากเชียงใหม่ถึงเกาะสมุย โดยไม่ใช้เงินติดตัวเพื่อใช้การเดินเป็นขบวนการเรียนรู้ที่จะทำลายความรู้สึกด้านลบที่มีในใจไม่ว่าจะเป็นความโลภ ความโกรธ และความหลง หนังสือเล่มนี้สำหรับฉันถือว่าเป็นเรื่องย่อของหนังสือเดินสู่อิสรภาพ

ในแต่ละช่วงเวลาจะมีการเปลี่ยนผ่านของชีวิตที่ต่างกันไป อาจารย์ประมวลเปรียบเทียบชีวิตคนเราว่ามีลักษณะคล้ายผลไม้ ที่จะต้องมีช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลง ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ ในเชิงปริมาณ มีการเปลี่ยนแปลงจากดอกมาเป็นผล จากผลขนาดเล็กเติบโตเป็นผลขนาดใหญ่ ในเชิงคุณภาพก็มีการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติที่มีสี กลิ่น รส อย่างหนึ่งไปสู่อีกอย่างหนึ่ง เช่นจากรสฝาดเปรี้ยวเป็นรสหวานหอม ชีวิตคนเราก็เฉกเช่นเดียวกับผลไม้ ที่จะต้องมีการเปลี่ยนผ่านทั้งทางกายภาพและจิตวิญญาณ

การออกเดินทางกลับเกาะสมุยของอาจารย์เกิดขึ้นหลังจากที่ท่านลาออกจากราชการเป็นการเปลี่ยนผ่านช่วงชีวิตที่ท่านเรียกว่า มิตรภิเษก - กระบวนการเปลี่ยนผ่านสู่ความเป็นมิตร

นอกจากการก้าวออกจากความขุ่นมัวทางจิตแล้ว การเดินของท่านอาจารย์ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ถึงความปิติเบิกบานด้วยจิตที่ประกอบไปด้วย จาคะ เมตตา และปัญญา ซึ่งท่านก็ได้บรรลุวัตถุประสงค์นั้นในระหว่างทางเดิน

ก้าวแห่งจาคะ เต็มไปด้วยความเบิกบานที่ได้แบ่งปันแม้ในยามที่ไม่แทบจะไม่มีอะไรติดตัวเลย ให้ไม่ว่าจะเพียงเล็กน้อยเท่าใดที่มี การแบ่งปันสิ่งที่ได้รับมาให้คนที่ต้องการมากกว่าเรา

ก้าวแห่งเมตตา เป็นก้าวย่างที่จิตใจผ่องใสเบิกบานที่ได้ใช้ชีวิตให้เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น แม้ผู้อื่นที่ว่านั้นจะเป็นเพียงหมาขี้เรื้อนที่มาอาศัยไออุ่นจากร่างกายในยามดึกก็ตาม

ก้าวแห่งปัญญา เป็นก้าวย่างที่จิตใจผ่องใสเบิกบานที่ได้ตระหนักรู้ถึงชีวิตที่กำลังก้าวสู่ความตายอยู่ทุกช่วงขณะ การทำตัวให้ตายเสียก่อนตายตามคำสอนของท่านพุทธทาส และในยามที่เจ็บป่วยก็ได้ปฏิบัติธรรมดังที่หลวงปู่ดูล อตุโล สอนเอาไว้ว่า "ที่เราปฏิบัติมาทังหมดนี้ก็เพื่อจะนำมาใช้ในขณะนี้ จงปล่อยวางอย่ายึดมั่นถือมั่น"

อาจารย์ประมวลสรุปไว้ว่า ความหมายของจาคะ เมตตา และปัญญานี่เองคือมนุษยธรรม ธรรมที่ทำให้ความเป็นมนุษย์เรานั้นงดงามและสมบูรณ์

..

 

..

ในทุกย่างก้าวที่ต่างจังหวะ ต่างวัตถุประสงค์ ต่างวิถี แต่ฉันหวังว่าทุกย่างก้าวนั้นจะเป็นการก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนผ่านที่จะทำให้เราพัฒนาสู่ความเป็นมนุษย์ที่แท้จริงได้...ไม่วันใดก็วันหนึ่ง และหากบังเอิญบนหนทางนั้นขรุขระทำให้เราเราเดินกะโผลกกะเผลก เราก็ยื่นมือไปจับมือคนข้างๆ เดินไปด้วยกัน จะได้เดินอย่างสะดวกและมั่นคงขึ้นนะคะ :)

...

 

เรียบเรียงจาก

ประมวล เพ็งจันทร์ - การเดินทางสู่ความเป็นมนุษย์ที่แท้ ปาฐกถามูลนิธิโกมลคีมทอง ประจำปี ๒๕๕๐ ครั้งที่ ๓๓

 

ด้วยความบอบน้อม,

ปริม ทัดบุปผา

๑๓ กรกฎาคม ๒๕๕๕

 

...

The piano3 - เพลงของขวัญ

http://www.youtube.com/watch?v=sMtpn7J0jtg&feature=autoplay&list=PL8B5A2770C5F343CD&playnext=2

หมายเลขบันทึก: 494707เขียนเมื่อ 13 กรกฎาคม 2012 16:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 กรกฎาคม 2012 23:22 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (34)

...

ความเบิกบานเปลี่ยนผ่านจากวันนี้
ยังสุขดี ทุกข์ได้ ฉายภาพเก่า
ยกระดับจิตใจให้บางเบา
ลบกิเลส เืลือนเข้า เดินก้าวไป

ทุกชีวิตมีจังหวะของการเดิน
จะเหาะเหิน เดินช้า หรือถูไถ
จะเร่งรีบ เร่งรัด ค่อยเดินไป
อยู่ที่ใจ ยกได้ แค่ไหนกัน

...

(แต่งไป ก็รู้สึกว่า คนละเรื่องเดียวกันเลยครับ ขออภัย)

หนังสือของอาจารย์ประมวล เป็นต้นแบบสร้างแรงบันดาลใจ ความรู้ที่สร้างเองจากประสบการณ์ตนเอง พิสูจน์เส้นทาง ที่คนไม่เคยเดิน .. คุณปริมจะเดินย้อนรอยจากสิงคโปร์มาเชียงใหม่ บ้างไหมค่ะ ;)

การเปลี่ยนแปลง ที่มีฐานที่มั่นคง แข็งแรง เข้มแข็ง การเปลี่ยนน่าจะไปในทางบวกนะคะ

ขอบคุณบทความดีดีนี้นะคะ

เรียนคุณน้อง

อ่านหนังสือของอาจารย์ประมวล เพ็งจันทร์ "เดินสู่อิสรภาพ"  เมื่อสองปีก่อน

รู้สึกว่าเขียนได้ดีมาก แต่มันขาดอะไรไปบางอย่าง

ไม่เหมือนอ่านประวัติหลวงตามหาบัว

โลกมันแตกละเอียดเลย  ไม่ต้องมามัวเดินหลงทางอยู่

ผมอ่านหนังสือเล่มหลายรอบ และฟังเสียงจาก CD อีก ทุกครั้งที่อ่าน ที่ฟังก็เป็นสุขทุกครา แล้วพอมาอ่านบันทึกของคุณปริมอีกครั้งก็เป็นุสขไม่น้อยไปกว่าต้นตำรับ ขอเพียงเรามีศรัทธาที่จะก้าวเดินไปทางวิถีทางความเป็นมนุษย์แท้ แม้ยากเพียงใด แต่ระหว่างทางก็เป็นสุขอยู่เสมอ ขอบคุณครับ

...เคยอ่านหนังสือเล่มนี้เหมือนกัน..ตอนไปเมืองไทย...ชอบตอน..นอนกับ..หมาขี้เรื้อน.กับความอบอุ่นที่ได้รับจากเจ้าขี้เรื้อนตัวนั้น.เจ้าค่ะ..(ยายธี)

เพลงเปียโนนี้..เล่น..เองหรือเปล่า..เจ้าคะ..ซอที่สี..มันดัง..แค่..ขอดดโอ้งๆ..เท่านั้น..ว่าจะเล่นได้แค่นั้นแน่ๆ..ให้เจ้าตุ๊กตาควายที่นอนอยู่ข้างๆ..ฟัง..อ้ะะๆๆ....ยายธี

บันทึกงดงามในความหมายค่ะ จงภูมิใจในความเป็นมนุษย์ของเราค่ะ หากทำดีแล้ว จงภูมิใจในความดีนั้นค่ะ ขอบคุณเรื่องราวดีๆ ค่ะ

ท่านอาจารย์ Wasawat Deemarn

สิ่งที่เห็น มากกว่า คำพูดนั้น คือจิตอัน อ่อนโยน และอ่อนไหว ที่ส่งมอบ เพื่อเป็น กำลังใจ แด่คนไกล คนใกล้ ให้เขียนต่อ

สิ่งที่เห็น มากกว่า คำพูดนั้น คือจิตที่ พร้อมแบ่งปัน แม้ในวันท้อ คือใจที่ อบอุ่น แม้เฝ้ารอ ใครบางคน มาเติมต่อ ให้เติมเต็ม

วันนี้ปริมตอบเป็นกลอนกลับให้อาจารย์ได้ สงสัยฝนจะตกค่ะอาจารย์ ;)

อาจารย์หมอ ป คะ,

คุยกันไว้อยู่ค่ะว่าจะ ขับรถ จากสิงคโปร์ไปเชียงใหม่ แต่ไม่รู้จะทำได้เมื่อไหร่ค่ะ ให้เดินคงไม่ไหวค่ะ ขับรถไปคงดีกว่า

ขอบคุณค่ะ ;)

สวัสดีค่ะคุณพี่ ดร เปิ้ล

เด็ดดอกไม้ สะเทือนถึงดวงดาวค่ะ การเปลี่ยนแปลงใดใดมีผลกระทบถึงตัวเองที่ยังค้นไม่ถึงและคนรอบข้างเสมอ แม้ในสิ่งลบที่เกิดก็อาจมีสิ่งบวกเกิดขึ้นเสมอ ถ้าเรามองหามันนะคะ

สุขสันต์วันเสาร์ค่ะ ;)

สวัสดีค่ะคุณพี่คนบ้านไกล

หนังสืออาจารย์ประมวลสำหรับปริมยังคงให้ ความรู้สึก ที่สัมผัสได้อยู่มากค่ะ

บางหน้าอ่านไปน้ำตาไหลตามไม่ยอมหยุด ปริมยังไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะจิตใจเราอ่อนไหวไปกับจินตนาการนั้นมากเกินไป เพราะปิติ หรือเพราะวิธีการเขียนและภาษาที่ใช้

คงเพราะท่านอาจารย์ยังเป็นฆราวาสการอธิบายสิ่งต่างๆ ในมุมของท่านอาจมีมุมของปุถุชนอยู่มาก ต่างจากหนังสือเกี่ยวกับพระมหาเถระที่พ้นจากวังวนนี้แล้ว จึงให้ความรู้สึกที่ต่างกัน ปริมอ่านหนังสือของท่านหลวงตา สิ่งที่สัมผัสได้แน่ชัด น้ำตาที่ไหลรินคืิอคือความปิติค่ะ

ขอบคุณคุณพี่ที่มาร่วมแลกเปลี่ยนในบันทึกนี้ค่ะ

สวัสดีค่ะคุณพ่อน้องซอมพอ

ปริมมาเจอแฟนคลับอาจารย์ประมวลตัวจริงเข้าให้แล้วนะคะนี่

บนถนนสายการเรียนรู้ ดีใจที่ได้พบเพื่อนร่วมทางดีดีอีกคนค่ะ

สวัสดียามสายของวันเสาร์อันผ่อนคลายนะคะ ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะคุณยายธี,

ใจเราตรงกันค่ะคุณยาย ปริมก็ชอบตอนหมาขี้เรื้อนมาก ปลื้มใจมาก ทำให้นึกถึงเจ้า brownie หมาขี้เรื้อนที่ปริมให้อาหาร วิ่งเล่น ให้การดูแลมันในช่วงสุดท้ายของชีวิตหมาพเนจรที่แถบที่ทำงานเก่าเมื่อหลายปีมาแล้ว พออ่านจากที่อาจารย์ประมวลเขียน เข้าใจและเห็นภาพเลยค่ะ

สำหรับเรื่องเปียโน โห.....ไม่ใช่หรอกค่ะ เพลงของคนอื่นจากยูทูปค่ะ ถ้าปริมเล่นได้เพราะขนาดนี้ปริมคงเปลี่ยนอาชีพไปเป็นนักดนตรีแล้ว อิอิอิ เอ คงไม่มีเวลาว่างมาเขียนบันทึกแล้วค่ะคุณยาย คงดังน่าดู อิอิอิ

คุณครูที่สอนเปียโนไม่รู้จะท้อกับพัฒนาการของปริมหรือเปล่าค่ะ แต่เด็กๆ ที่เรียนด้วยกันเขาเรียนได้เร็วมากค่ะ คุณป้าร่วมชั้นเรียนยังไปไม่ถึงไหนเลย ;)

สุขสันต์วันเสาร์ค่ะคุณยายธี

สวัสดีค่ะคุณพี่ Bright Lily,

ขอบคุณมากค่ะที่มาให้กำลังใจและฝากข้อคิดดีดีไว้ค่ะ

มีความสุขในวันสุดสัปดาห์นะคะ ;)

ขอขอบคุณกัลยาณมิตรทุกท่านที่แวะมาอ่านบันทึกนี้ มาค้นหาความเป็นมนุษย์ที่แท้จริงในตัวเองบนทางเดินของการเปลี่ยนผ่านสายนี้นะคะ

สุขสันต์สายวันเสาร์ค่ะทุกท่าน

สวัสดีค่ะ ขอแสดงความเคารพต่อผู้ควรเคารพค่ะ ขอบคุณสำหรับการบันทึกเรื่องราวนี้ด้วยค่ะ

  • เคยอ่านบ้างเหมือนกันครับ เดินไปสู่อิสรภาพ..
  • น้ำจิตน้ำใจ เอื้อเฟื้อซึ่งกันและกัน สิ่งดีๆในสังคม โดยเฉพาะสังคมไทยเรา ทำให้โลกเราน่าอยู่ครับ 
  • ขอบคุณข้อคิดดีๆครับ

สวัสดีค่ะคุณพี่ณัฐรดา

ขอบคุณมากค่ะที่กรุณามาอ่านค่ะ :)

สุขสงบในคืนวันเสาร์ค่ะ

ท่านอาจารย์ธนิตย์คะ

นั่นคืออีกหนึ่งความงดงามที่เรายังพอมองเห็นในสังคมบ้านเราค่ะ ยังมีคนที่ให้อาหาร ให้น้ำดื่ม ยังมีคนที่ให้น้ำใจแด่คนแปลกหน้าอยู่ ในหนังสือเล่มเดียวกันก็มีการเดินธรรมยาตราของท่านอาจารย์ไพศาล วิสาโล การเดินจากเชียงใหม่ถึงกรุงเทพโดยชาวเขาเพื่อเรียกร้องและให้ความเข้าใจ พรบ ป่าชุมชน ก็ยังทำกันได้ด้วยน้ำใจจากรายทาง...

ถ้าเป็นที่สิงคโปร์คงไม่รอดเพราะไม่มีใครจะใส่ใจใคร

ภูมิใจเสมอที่เกิดมาเป็นคนไทยที่มีน้ำใจค่ะ

ยังไม่เคยได้อ่านหนังสือเล่มนี้ แต่พออ่านบทความนี้แล้ว อยากอ่านขึ้นมาแล้วล่ะค่ะ ขอบคุณนะคะที่แบ่งปัน

อ่านบันทึกของคุณปริม แล้วรู้สึกจรรโลงใจ มากครับ ขอบคุณ สวัสดีครับ

ก้าวหนึ่งนั้น... เพื่อสละ  ชำระจิต

ก้าวสอง...  ก้าวเพื่อคิด  เปิดจิตกว้าง

ก้าวต่อต่อ... ก่อปัญญา  เพื่อละวาง

ก้าวแตกต่าง...  อยู่ที่หวัง  ปลายทางใด

 

ขอบคุณมากมาย สำหรับอุ่นไอในมือ ที่รอกันนะ นะ สาธุจ้า

 

 

     สวัสดีค่ะคุณปริม...

...ฐานแรกคือ ศีล๕

...ฐานสองคือ มรรค๘

...ฐานสามคือ อิทธิบาท๔

...ฐานสี่คือ อริยสัจนำเข้าสู่อริยมรรค (ทำ รับ ให้ ปล่อยวาง"กายและใจในตน-ความว่างเปล่า ที่ไม่ว่างเปล่า")...

....เพราะสิ่งที่ทำมาต่างกัน สะสมมาต่างกัน จึงไม่แปลกต่างที่บางคนวิ่ง บางคนเดินซึ่งอยู่บนเส้นทางสายเดียวกัน"มนุษย์" ไปทีละก้าว น้ำทีละหยดกับจุดหมายที่มั่นคงในหัวใจ...(เพียงเท่านี้..ส่วนตัวเชื่อว่าไม่เสียที่ที่ได้เกิดมาแล้วค่ะ แม้จะไม่มีใครบอกว่านี่คือมนุษย์แท้ แต่จริยวัตรที่ทำคือความสมบูรณ์กับคุณค่าของชีวิต)...

...ขอบคุณเรื่องราวชวนคิดพินิจชีวิตค่ะ...

 

 

สวัสดีครับคุณปริม เป็นบันทึกที่ทำให้ผมตระหนัก และทบทวน และได้นำไปสร้างประโยน์ต่อ นะครับ ขอบคุณบันทึกดีดีนะครับ

สวัสดีค่ะคุณปรียาภรณ์,

ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ขอบคุณที่แวะมาทักทายกันค่ะ

หนังสือเล่มนี้ส่วนตัวคิดว่าเป็นหนังสือที่ดีและน่าอ่านมากค่ะ ลองดูนะนะถ้ามีโอกาสค่ะ

ราตรีสวัสดิ์ค่ะ

สวัสดีค่ะท่านอาจารย์แว่นธรรมทอง

หนังสือท่านอาจารย์ประมวลเขียนไว้น่าประทับใจมากค่ะ ปริมเพียงยกมาเล่าเท่านั้นเอง

ขอบคุณค่ะท่านอาจารย์

สวัสดีค่ะคุณ Tawandin,

ขอบคุณมากค่ะ กลอนเพราะจังเลยค่ะเนี่ย

ปริมจะลองหัดเขียนดูบ้างค่ะ ;)

ฝันดีค่ะคืนนี้

สวัสดีค่ะคุณน้อย

ขอบคุณข้อคิดแลกเปลี่ยนดีดีที่นำมาแบ่งปันค่ะ

ชื่นชมในการตั้งใจปฏิบัติของคุณน้อยค่ะ การปฏิบัติธรรมในการดำเนินชีวิตประจำวันคือสิ่งที่น่านับถือมากค่ะ

ขอให้มีความสุขในธรรมนะคะ

ราตรีสวัสดิ์ค่ะ

สวัสดีค่ะคุณเพชร

ด้วยความยินดีและขอบคุณมากเช่นกันค่ะ

;)

ขอบคุณค่ะน้องปริม

สำหรับเพลงเพราะ เรื่องราวที่อ่านแล้วรู้สึกดี มีความสุข หนังสือดีมีประโยชน์สำหรับคนที่สนใจอ่านเท่านั้น

สวัสดีค่ะ kunrapee,

เรื่องอื่นๆ อาจไม่โชคดีเท่าไหร่นัก แต่การได้เกิดมาเป็นคนชอบอ่านและได้รับการสนับสนุนจากคนรอบข้าง ถือว่าเป็นโชคดียิ่งค่ะ

ขอบคุณค่ะ :)

ขอบคุณ คุณปริมมากที่ได้มาแบ่งปันแนวคิด ก็เป็นหนังสืออีกเล่มที่ชอบ และทุกครั้งที่เหนื่อยและท้อ ก็จะหยิบมาอ่านทุกครั้ง ครั้งแรกที่อ่านรู้สึกปลาบปลื้ม ประทับใจกับความมุ่งมั่นของอาจารย์มากๆ และขอชื่นชมคู่ชีวิตของอาจารย์ที่ได้อยู่เคียงข้างอาจารย์ตลอดเวลา ตอนที่ประทับใจอีกตอนก็ตอนที่อาจารย์ฝึกเดืน ลองใส่สัมภาระแล้วเดิน ในช่วงเวลานั้นรู้สึกเป็นช่วงเวลาที่อาจารย์พยายามอย่างหนักที่จะก้าวข้ามความเป็นอัตตา คือความสบายที่มีอยู่ให้ได้

สวัสดีค่ะคุณ jira, (รู้สึกชื่อเราจะคล้ายกันมาก อิอิอิ)

ขอบคุณมากค่ะที่กรุณามาฝากความคิดเห็นไว้ ดีใจที่คุณชอบหนังสือเล่มนี้เช่นกันค่ะ อ่านแล้วชื่นชมและได้คิดตามค่ะ เป็นหนังสือที่ทรงคุณค่าอีกเล่มหนึ่งค่ะ อ้อ ห้อองสมุดใกล้บ้านที่สิงคโปร์มีหนังสือท่านอาจารย์ฉบับภาษาอังกฤษอยู่บนชั้นให้ยืมด้วยค่ะ ประทับใจที่หนังสือเขียนโดยคนไทยดังมาถึงที่นี่ แต่สำหรับเราที่อ่านงานของท่านแล้วก็ไม่แปลกใจนะคะ

นายแบบนางแบบที่นำมาฝากน่ารักมากค่ะ

ขอบคุณและฝันดีค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท