ชีวิตที่พอเพียง : ๑๕๙๙. เดินทางรอบโลก ๑๒. เที่ยวฮาโกเน่


 

          ๒๙ พ.ค. ๕๕ คณะเตรียมเช่ารถขับไปฮาโกเน่ ระยะทาง ๑๐๐ ก.ม.   เป็นรถโตโยต้าAlphard ๘ ที่นั่ง    แต่พับที่นั่งแถวหลัง ๒ ที่เพื่อใช้ใส่กระเป๋าเดินทาง    จึงมี ๖ ที่นั่งพอดี  


          ทีมคุณแบนจองโรงแรมTakumi – no- yadoYoshimatsuเป็นโรงแรมแบบญี่ปุ่น(เรียวกัง) ที่ไฮโซกว่าHomeikanDaimachiBekkan ที่โตเกียวอย่างเทียบกันไม่ติด   คือผมและ ดร. อนุชาติได้ห้องนอนเดี่ยวคนละห้องกว้างขวางมาก    มีห้องน้ำและส้วมในตัว    แต่มานอนโรงแรมแบบญี่ปุ่นทั้งที ต้องไปอาบน้ำในห้องสาธารณะเพื่อแช่น้ำร้อนให้สบายตัว 


          จากห้องนอน (อยู่ชั้น ๓) มองเห็นวิวทะเลสาบ ยอดไม้ และภูเขา    แต่วันนี้ฝนตกและมีหมอกหนา มองไม่เห็นภูเขา   เขาบอกว่าวันที่อากาศดี จะมองเห็นยอดเขาฟูจิ    ตอนที่ผมนั่งพิมพ์บันทึกอยู่นี้เวลา ๑๗ น. มีเสียงนกร้องโต้ตอบกันไพเราะมาก


          บริการและการต้อนรับของโรงแรมอย่างกับบริการพระราชาทีเดียว    พอมาถึงก็เอาผ้าขนหนูร้อนเช็ดหน้ามาให้   ชงชาเขียวอย่างดี มาต้อนรับพร้อมของหวานก้อนจิ๋ว  ห้องต้อนรับครั้งแรกหันหน้าสู่สระน้ำและสวนสวนงามละลานตา 


          พอขึ้นห้อง ก็เอาชาและขนมมาต้อนรับอีก โดยขนมไม่ซ้ำแบบเดิม    พร้อมทั้งอธิบายวิธีสวมกิโมโน และเสื้อคลุมกันหนาว    รวมทั้งพาไปดูห้องอาบน้ำรวม ที่แยกเป็นหญิงชาย   โดยห้องชายม่านสีน้ำเงินแก่ ห้องหญิงม่านสีแดง   ตอนนั้นห้องชายอยู่ทางซ้าย  แต่พอหนึ่งทุ่มเป็นต้นไปจะสลับห้องกัน   เพื่อให้แขกได้สัมผัสความแตกต่างระหว่างอ่างน้ำที่ทำด้วยหินกับอ่างน้ำที่ทำด้วยไม้   วันนี้ผมได้สัมผัสอ่างน้ำหิน   แต่ผมแช่ในอ่างภายในห้อง   ไม่ได้ออกไปแช่ในอ่างนอกห้องที่อยู่ในที่แจ้ง ท่ามกลางแมกไม้ 


          เขาให้เราเลือกนัดเวลากินอาหารเย็น ว่าจะเริ่ม ๑๘.๐๐ หนือ ๑๘.๓๐ น. โดยจะเสิร์พในห้อง ๓๐๒ ของคุณแบนและ อ. ประภาภัทร   เราขอเริ่ม ๑๘.๓๐ น.   ในเอกสารของโรงแรมบอกว่าเป็นอาหารไคเซกิ (Kaiseki Cuisine) ที่ใช้เวลาปรุงนานมาก และใช้เวลากิน ๒ ชั่วโมง

  

          เช้าวันที่ ๓๐ พ.ค. ๕๕ ผมออกไปวิ่งริมทะเลสาบอาชิ (Ashinoko) โดยไปที่บริเวณ Check Point   และเข้าไปที่ Detached Palace Garden อันสวยงาม   มีจุดชมวิวที่วันอากาศดีมองเห็นยอดเขาฟูจิ แต่วันนี้อากาศมีหมอกมาก   จากนั้นผมก็ลงบันไดที่นับร้อยขั้นในป่า ลงไปยังถนนริมทะเลสาบ    ถือเป็นการเดินชมป่าและทะเลสาบที่ยอดเยี่ยมมาก   ใช้เวลาทั้งหมดกว่าชั่วโมง


          กลับมาอาบน้ำในห้อง (ห้องพักมีห้องอาบน้ำในตัว แต่คนญี่ปุ่นชอบไปแช่น้ำร้อนในห้องอาบน้ำรวม)    แต่งตัว จัดกระเป๋า แล้วพบว่ากระเป๋าสตางค์หาย   สถาปนิกคุ้งชวนไปดูเผื่อตกอยู่ในรถ ก็พบว่าหล่นอยู่ในรถจริงๆ  


          นัดกินอาหารเช้าเวลา ๘.๐๐ น.   เขาเอามาเสิร์พที่ห้องเดิม ใช้เวลากิน ๑ ชั่วโมง    มื้อนี้มีปลาอินทรีย์แดดเดียวตัวเล็กๆ ด้วย ให้คนละตัว    อาหารมีหลายอย่าง และอร่อยตามเคย   คุณแบนบอกว่าการพักที่เรียวกัง (Ryukan) เน้นบริการอาหาร มากกว่าที่พัก


          เราเช็กเอ้าท์ออกจากเรียวกัง ขับรถออกมาแวะเที่ยวสุสานที่อยู่ใกล้โรงแรม ที่มีความขลังของต้นไม้ใหญ่   แล้วเจอปัญหาสตาร์ทรถไม่ติด   ต้องโทรศัพท์ไปถามทางบริษัท Toyota Rental Cars ที่โตเกียว    แต่ในที่สุดผู้มาช่วยคือพนักงานของโรงแรม ว่ารถต้องเหยียบเบรคพร้อมกับสตาร์ท จึงจะติด   จากการไปขอความช่วยเหลือจากโรงแรม   เมื่อคุณหนุ่ยกับผมไปถึง เจ้าหน้าที่ดีใจกันใหญ่ เพราะเราลืมกระเป๋า handbag ของคุณแบนไว้    เขาติดต่อเราไม่ได้  


          เป้าหมายแรกของเราคือHakone Shrineที่เครื่อง GPS ของรถยนต์พาเราไปเข้าทางด้านหลัง   มีที่จอดรถได้ไม่กี่คัน และมีเหล็กกั้นไว้    สองสถาปนิกหนุ่มช่วยกันไปยกให้รถเข้าได้   ปรากฎว่าเหล็กขวางนี้มีข้อหมุนให้หมุนหลบทางได้   เราเดินผ่านถนนลาดยางในป่าทึบ ลงเขาไปยังศาลเจ้า(shrine)    ต้นไม้ใหญ่ให้ความร่มรื่นสงบเย็น บนถนนมีมอสสีเหลืองจับเต็มสวยงามมาก   รูปถ่ายไม่สวยเท่าตาเห็น ยิ่งที่บริเวณศาลเจ้าต้นไม้ยิ่งมีขนาดใหญ่ อายุน่าจะหลายร้อยปี   สะท้อนวัฒนธรรมรักษาต้นไม้ใหญ่ของญี่ปุ่น   ที่นี่มีคนมาเที่ยวและมาไหว้พระไหว้เจ้ากันมากมาย   จากศาลเจ้าเดินลงบันไดไปยังริมทะเลสาบได้   และที่ริมทะเลสาบมีทางเดินที่สะดวกกว่าถนนที่ผมมาเดินตอนเช้า    เดาว่าน่าจะต่อถึงกัน


          เราขับรถคลำทางไปยังOpen-Air Art Museumซึ่งดำเนินการโดยมูลนิธิตั้งอยู่เชิงเขาทำให้ออกแบบสถานที่ได้สวยงามและให้เดินชมสะดวกผมค้นพบว่าผมดูพิพิธภัณฑ์ไม่เป็นต่างจากคุณแบนที่อ่านแผนที่และเดินไปเจาะจงดูเฉพาะจุดที่สำคัญต่างจากผมที่เดินดูไปเรื่อยๆได้แค่ไหนเอาแค่นั้นบทเรียนนี้จะมีค่าต่อผมมาก


          เรากินอาหารเที่ยงที่พิพิธภัณฑ์คุณแบนสั่งอาหารมามากกินไม่หมดขอห่อกลับบ้านเขาไม่มีบริการให้เราจึงห่อเองผมจึงได้รู้ว่าราคาอาหารมันแพงแค่ไหนคือ ๖ คนค่าอาหาร ๖,๔๐๐บาทโดยที่อาหารก็พื้นๆคือบะหมี่ (โซบะ) หรือเกี๊ยวน้ำและติ่มซำ


          จากนั้นเราแวะเที่ยวBotanical Gardens of the Wetlandได้ชื่นชมความงามของดอกไม้สีสวยและรูปทรงงดงามรวมทั้งการจัดแสดงให้ความรู้ในพื้นที่ที่เป็นพื้นที่ชุมน้ำผมประทับใจคนญี่ปุ่นที่มาชมเป็นกลุ่มๆศึกษาชื่อและแลกเปลี่ยนความประทับใจกันระหว่างชมสัมผัสได้ถึงความเป็นนักเรียนรู้จากการมาชมสวนพฤกษศาสตร์


          มีเวลาที่สวนพฤกษศาสตร์ไม่ถึงชั่วโมง เราต้องรีบออกเดินทางต่อ   โดยขับรถเลียบชายฝั่งไป Kamakura และเข้าพักที่ เรียวกัง Kaihinsoที่จองไว้นี่คือเรียวกังที่ผมชอบมากที่สุดใน ๓ แห่งที่ผมไปพักในการเดินทางครั้งนี้คือไม่หรูเกินแต่ก็สะดวกและคุณภาพดี

 

 


วิจารณ์ พานิช

๓ ก.ค. ๕๕

 

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 494392เขียนเมื่อ 11 กรกฎาคม 2012 10:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 พฤษภาคม 2014 06:55 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท