อาจารย์พรศรี
ไร้ท์ กรุณาเชิญชวนให้ไปเที่ยวชมงานเทศกาล
Urayasu Sanja Festival
(浦安三社祭り平成24年) ซึ่งอยู่ในเขต
Chiba งานนี้จัด 4 ปีครั้งหนึ่ง
นับว่าเป็นโอกาสอันดีที่จะได้เรียนรู้ประเพณีและวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นเพิ่มเติม
" ในเมื่อจุดประสงค์ของการมาที่นี่เพื่อศึกษาเรียนรู้
ไฉนจึงจะปฏิเสธิเล่า "
เผอิญจัดคิวว่างในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ไว้หนึ่งวันเพื่อสะสางงานที่ได้รับมอบหมาย
ซึ่งแต่ละวิชาล้วนมีงานมอบหมายให้ทำเสมอๆ นึกถึงยามสั่งงานเด็กนักเรียน ครูใจดีอย่างผู้เขียนให้เวลาเพียงพอต่อการดำเนินการอยู่แล้ว
เพียงแต่จะพอกหางให้หมูหรือเปล่าเท่านั้นเอง
ผู้เขียน-
อาจารย์พรศรี -เพื่อนคู่ชีวิต-เพื่อนบ้านใกล้เคียง
เด็กสาววัยรุ่น- ลูกครึ่ง
หลากหลายเชื้อชาติ
นัดหมายพบกันในช่วงบ่าย นับสมาชิกได้ทั้งหมด 9 คน (รวมผู้เขียนด้วย) งานนี้ไทยแท้ มีเพียงคนเดียว คือผู้เขียน ส่วนครอบครัวอาจารย์พรศรีอยู่ญี่ปุ่นมายี่สิบกว่าปี ถือว่าเรียนรู้วัฒนธรรมจนเหมือนชาวญี่ปุ่นไปแล้ว นอกนั้นหากไม่ใช่ลูกครึ่งจีน-ญี่ปุ่น ก็เกาหลี-ญี่ปุ่น ที่เหลือเป็นญี่ปุ่นล้วน
Omikoshi
ของแต่ละแห่งจะมีลักษณะคล้ายคลึงกัน
ขบวนแห่และคณะผู้ติดตาม ฯ
ผลัดเปลี่ยนกันแบก Omikoshi
ก่อนหยุดพักต้องมีกรรมพิธีแสดงพลังแห่งความสามัคคี
/สีสันของงาน
ฝูงชนแน่นขนัด
ผู้มาเที่ยวชมงานเทศกาลน่าจะน้อยกว่าผู้เข้าร่วมงาน เพราะขบวนแห่
Omikoshi มีหลายกลุ่มด้วยกัน
นับกันไม่หวาดไม่ไหวเลยทีเดียว
ถ้าจะเปรียบเทียบคงเหมือนเทศกาลงานประเพณีของไทยที่แต่ละอำเภอ-แต่ละหมู่บ้าน
ร่วมมือ-ร่วมใจ กันจัดตกแต่งริ้วขบวนของตนให้สวยงาม
แต่ที่นี่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับการตกแต่งสิ่งเหล่านี้
แต่ไปเน้นที่พลังความสามัคคีของผู้มาช่วยแบก Omikoshi
แห่กันไปถนนสายต่างๆตามที่กำหนด
ตั้งแต่เช้า-จรดค่ำราวกับไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เป็นเวลา 2 วัน
ต้องนับถือน้ำใจจริงๆ
ปลาหมึกย่าง-ไส้กรอกปิ้ง
บาร์บีคิวหมู-เนื้อ /
น้ำผลไม้หวานเย็น-ชื่นใจ
กระชอนกระดาษ- ช้อนตัก ปลาทอง ถูกน้ำเปื่อยยุ่ยง่าย
นอกจากจะได้ศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมและประเพณีเหล่านี้แล้ว
ยังได้รับรู้ด้วยว่า พื้นที่ของ Urayasu
เกิดจากการถมทะเลให้เป็นพื้นที่พักพิงอาศัยและทำประโยชน์ต่างๆ
พื้นเพเดิมของชุมชนที่นี่ประกอบอาชีพการประมง
เมื่อเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่
Sendai ผลกระทบจึงส่งมาถึงที่นี่ด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ตามลักษณะและคุณสมบัติทางกายภาพภูมิศาสตร์
คงอนุรักษ์บ้านสมัยก่อนไว้ให้ศึกษา
เชิญคลิ๊กชมวิดิโอด้านล่าง
Mitake San(御岳山: みたけさん)
เชื่อว่าคนไทยหลายร้อยคนที่เคยดูภาพยนต์หรืออ่านอมตะนิยาย เรื่อง ข้างหลังภาพ คงอยากไปชมทัศนียภาพอันงดงามของภูเขา Mitake San(みたけさん)ผู้เขียนก็เช่นกัน แม้จะตระหนักดีว่าช่วงนี้ใบไม้เพิ่งเริ่มผลิใบ คงมองเห็นแต่ภาพของขุนเขาเขียวขจี ร่มรื่นไปด้วยแมกไม้ใหญ่-น้อยก็ตาม (ศึกษาMitake Sanเพิ่มเติมได้ที่นี่)
การตะลอนไปที่ไกลๆ เพียงลำพัง
แม้จะโดดเดี่ยวไปบ้าง แต่ก็ได้ประสบการณ์หลายด้าน
ทั้งการสื่อสาร การสังเกต การคิดวิเคราะห์-
ไตร่ตรอง-การดูแลตนเอง
และการตัดสินใจอย่างมีเหตุ-มีผล
เพราะผลที่ได้ย่อมเป็นประโยชน์และคุ้มค่าต่อการตัดสินใจในการดำเนินการ
กระจกเงาส่องสะท้อนให้เห็นภาพรถรางด้านหลัง
ศึกษาเรียนรู้จากป้ายที่เขียนติดไว้ตลอดเส้นทางการเดินขึ้นไปชมวัด
ปลาสดๆปิ้งย่างร้อนๆ
/ จำหน่ายของที่ระลึก/ บุกต้ม
รสชาติอร่อยเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ
กว่าจะเดินทางไปถึงที่หมาย ใช้เวลาบนรถไฟนานกว่าสองชั่วโมง ต่อรถไฟอยู่ 4 ขบวนด้วยกัน รถบัสอีก 1 และ cable car อีกหนึ่งทอด จึงขึ้นไปสู่ยอดเขา Mitake สมความตั้งใจ
ทัศนียภาพของระยะห่าง 25 เมตร ยังคงเป็นสีเขียวสดใส ไล่ระดับความเข้ม-อ่อน ดูสวยงาม สบายตา แต่พอเพิ่มระยะห่างมากขึ้น แสงและเงากระทบส่องภาพกลายเป็นสีฟ้าครามดูงดงาม มีเสน่ห์น่าหลงใหลยิ่งนัก
ความงดงามอีกมุมหนึ่งในความต่างของระยะห่าง
การมาเที่ยวชมทัศนียภาพครั้งนี้
ได้เรียนรู้วัฒนธรรมเรื่องหนึ่งซึ่งไม่เคยคาดคิดมาก่อน
ว่าเป็นส่วนหนึ่งของชาวญี่ปุ่น นั่นคือ
การทักทายกับคนที่ไม่รู้จัก
ตั้งแต่เริ่มต้นก้าวพ้นประตูของอาคารที่พักในศูนย์ภาษาฯ
ในยามเช้า หนุ่มใหญ่คนหนึ่งวิ่งออกกำลังกายส่งเสียงทักทายมา
ครั้งแรกคิดว่าเขาคงทักทายคนที่รู้จัก
แต่พอหันซ้าย-แลขวาไม่เห็นคนอื่น จึงรีบทักทายตอบกลับไป
งดงามตาแบบเขียวใส-เขียวโปร่ง-เขียวเข้ม
/ไรไม้-ตระไคร่เขียวปกคลุมหลังคาบ้านพัก
ขณะที่เดินชมธรรมชาติบนภูเขา
สวนกับชาวญี่ปุ่นได้รับคำทักทายตลอดเส้นทาง
จึงได้เรียนรู้และเริ่มทักทายผู้อื่นก่อนบ้าง
ได้พบปะคนหลายวัย ล้วนมีอัธยาศัยดีเยี่ยม ขนาดวัยรุ่น 3
คนยังเอ่ยปากชักชวนคุณยายเยาว์วัยอย่างผู้เขียนร่วมขบวนเดินชมด้วยกัน
แต่ต้องขอปฏิเสธิกลางคันเพราะหลานๆ เล่นพาคุณยายไปทางลัด
ไต่ลงบันไดลิงแบบนั้น
Musashi-Mitake Shrine วัดเก่าแก่เกือบ
2000 ปี
คงคุณค่าต่อความทรงจำด้านเป็นที่พักพิงสมัยสงครามและความงดงามแบบธรรมชาติ
น้ำไหลเอื่อยตกจากที่สูงกลายเป็นน้ำตกขนาดย่อม...ดูงดงามตา
/ ต้นไม้บางพันธุ์สีสันสวยใส
ต้นสนและต้นไม้หลากพันธุ์ยืนต้นตระหง่าน-
สูงเสียดฟ้าปกคลุมผืนป่าให้อุดมสมบูรณ์
ประทับใจกับธรรมชาติที่งดงามของ
Mitake San อย่างไม่รู้ลืม แต่หากจะลืมเลือนไปบ้าง
คงต้องอาศัยเวลาพักให้หายเหนื่อย….เพื่อคลายความอ่อนเพลีย-เมื่อยล้าก่อนนั่นเอง
แป้งกวนปิ้งราดนำซ๊อสเค็มๆ 3
ก้อน....จัดไป 120 บาท /สาวน้อยชวนคุย- ถามไถ่- ทักทาย
ด้วยน้ำใสไมตรีดียิ่ง
... เรื่องบางเรื่องที่อยากลืม
กลับแจ่มแจ้ง-รบกวนจิต- ค้างคาใจ
ในขณะที่บางเรื่องน่าจดจำ...
กลับเลือนลางห่างหายไปราวกับไร้เยื่อใย....
*** ขอขอบคุณมิตรภาพที่อบอุ่นจากครอบครัวอาจารย์พรศรี ไร้ท์ และภาพวิดิโอ/ข้อมูลที่เชื่อมต่อให้ศึกษาเพิ่มเติม มา ณ โอกาสนี้นะคะ***
***… ขอบคุณมากค่ะ(どうも ありがとうございます= Domo Arigatou gozai masu)…***