Japan ‘ The prosperous Cultural Country ’ ตอนที่ 10 : งานเทศกาล Urayasu Sanja Festival และทัศนียภาพงดงามที่ Mitake Mt.


การตะลอนไปที่ไกลๆ เพียงลำพัง แม้จะโดดเดี่ยวไปบ้าง แต่ก็ได้ประสบการณ์หลายด้าน ทั้งการสื่อสาร การสังเกต การคิดวิเคราะห์- ไตร่ตรอง-การดูแลตนเอง และการตัดสินใจอย่างมีเหตุ-มีผล

อาจารย์พรศรี  ไร้ท์  กรุณาเชิญชวนให้ไปเที่ยวชมงานเทศกาล  Urayasu Sanja Festival (浦安三社祭り平成24年) ซึ่งอยู่ในเขต Chiba งานนี้จัด  4 ปีครั้งหนึ่ง นับว่าเป็นโอกาสอันดีที่จะได้เรียนรู้ประเพณีและวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นเพิ่มเติม  " ในเมื่อจุดประสงค์ของการมาที่นี่เพื่อศึกษาเรียนรู้  ไฉนจึงจะปฏิเสธิเล่า "  เผอิญจัดคิวว่างในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ไว้หนึ่งวันเพื่อสะสางงานที่ได้รับมอบหมาย  ซึ่งแต่ละวิชาล้วนมีงานมอบหมายให้ทำเสมอๆ นึกถึงยามสั่งงานเด็กนักเรียน  ครูใจดีอย่างผู้เขียนให้เวลาเพียงพอต่อการดำเนินการอยู่แล้ว  เพียงแต่จะพอกหางให้หมูหรือเปล่าเท่านั้นเอง

  



                                     ผู้เขียน- อาจารย์พรศรี -เพื่อนคู่ชีวิต-เพื่อนบ้านใกล้เคียง

 
    
                                           เด็กสาววัยรุ่น- ลูกครึ่ง หลากหลายเชื้อชาติ  
       

นัดหมายพบกันในช่วงบ่าย  นับสมาชิกได้ทั้งหมด 9 คน (รวมผู้เขียนด้วย) งานนี้ไทยแท้ มีเพียงคนเดียว คือผู้เขียน ส่วนครอบครัวอาจารย์พรศรีอยู่ญี่ปุ่นมายี่สิบกว่าปี  ถือว่าเรียนรู้วัฒนธรรมจนเหมือนชาวญี่ปุ่นไปแล้ว  นอกนั้นหากไม่ใช่ลูกครึ่งจีน-ญี่ปุ่น  ก็เกาหลี-ญี่ปุ่น   ที่เหลือเป็นญี่ปุ่นล้วน     

 

                                        Omikoshi ของแต่ละแห่งจะมีลักษณะคล้ายคลึงกัน  

  

                                       ขบวนแห่และคณะผู้ติดตาม ฯ ผลัดเปลี่ยนกันแบก Omikoshi


 

                                   ก่อนหยุดพักต้องมีกรรมพิธีแสดงพลังแห่งความสามัคคี /สีสันของงาน


ฝูงชนแน่นขนัด  ผู้มาเที่ยวชมงานเทศกาลน่าจะน้อยกว่าผู้เข้าร่วมงาน เพราะขบวนแห่ Omikoshi มีหลายกลุ่มด้วยกัน  นับกันไม่หวาดไม่ไหวเลยทีเดียว  ถ้าจะเปรียบเทียบคงเหมือนเทศกาลงานประเพณีของไทยที่แต่ละอำเภอ-แต่ละหมู่บ้าน ร่วมมือ-ร่วมใจ กันจัดตกแต่งริ้วขบวนของตนให้สวยงาม   แต่ที่นี่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับการตกแต่งสิ่งเหล่านี้  แต่ไปเน้นที่พลังความสามัคคีของผู้มาช่วยแบก Omikoshi   แห่กันไปถนนสายต่างๆตามที่กำหนด  ตั้งแต่เช้า-จรดค่ำราวกับไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เป็นเวลา 2 วัน  ต้องนับถือน้ำใจจริงๆ

   
  
   
                         ปลาหมึกย่าง-ไส้กรอกปิ้ง  บาร์บีคิวหมู-เนื้อ  / น้ำผลไม้หวานเย็น-ชื่นใจ  

 

                                   กระชอนกระดาษ- ช้อนตัก ปลาทอง   ถูกน้ำเปื่อยยุ่ยง่าย

นอกจากจะได้ศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมและประเพณีเหล่านี้แล้ว  ยังได้รับรู้ด้วยว่า พื้นที่ของ  Urayasu เกิดจากการถมทะเลให้เป็นพื้นที่พักพิงอาศัยและทำประโยชน์ต่างๆ พื้นเพเดิมของชุมชนที่นี่ประกอบอาชีพการประมง   เมื่อเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่   Sendai ผลกระทบจึงส่งมาถึงที่นี่ด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ตามลักษณะและคุณสมบัติทางกายภาพภูมิศาสตร์


  

                                                    คงอนุรักษ์บ้านสมัยก่อนไว้ให้ศึกษา


เชิญคลิ๊กชมวิดิโอด้านล่าง

   

Mitake San(御岳山: みたけさん)                                     

เชื่อว่าคนไทยหลายร้อยคนที่เคยดูภาพยนต์หรืออ่านอมตะนิยาย เรื่อง ข้างหลังภาพ  คงอยากไปชมทัศนียภาพอันงดงามของภูเขา Mitake San(みたけさん)ผู้เขียนก็เช่นกัน  แม้จะตระหนักดีว่าช่วงนี้ใบไม้เพิ่งเริ่มผลิใบ  คงมองเห็นแต่ภาพของขุนเขาเขียวขจี ร่มรื่นไปด้วยแมกไม้ใหญ่-น้อยก็ตาม (ศึกษาMitake Sanเพิ่มเติมได้ที่นี่)

 

 



การตะลอนไปที่ไกลๆ เพียงลำพัง  แม้จะโดดเดี่ยวไปบ้าง  แต่ก็ได้ประสบการณ์หลายด้าน  ทั้งการสื่อสาร การสังเกต  การคิดวิเคราะห์- ไตร่ตรอง-การดูแลตนเอง  และการตัดสินใจอย่างมีเหตุ-มีผล   เพราะผลที่ได้ย่อมเป็นประโยชน์และคุ้มค่าต่อการตัดสินใจในการดำเนินการ


      
                          
    
                                              กระจกเงาส่องสะท้อนให้เห็นภาพรถรางด้านหลัง
                  

 
                 
                                     ศึกษาเรียนรู้จากป้ายที่เขียนติดไว้ตลอดเส้นทางการเดินขึ้นไปชมวัด
             

  
                   
                   ปลาสดๆปิ้งย่างร้อนๆ / จำหน่ายของที่ระลึก/ บุกต้ม  รสชาติอร่อยเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ 
        

กว่าจะเดินทางไปถึงที่หมาย   ใช้เวลาบนรถไฟนานกว่าสองชั่วโมง ต่อรถไฟอยู่ 4  ขบวนด้วยกัน  รถบัสอีก 1 และ cable car อีกหนึ่งทอด  จึงขึ้นไปสู่ยอดเขา Mitake สมความตั้งใจ

 

    
     

ทัศนียภาพของระยะห่าง 25 เมตร  ยังคงเป็นสีเขียวสดใส ไล่ระดับความเข้ม-อ่อน ดูสวยงาม สบายตา  แต่พอเพิ่มระยะห่างมากขึ้น  แสงและเงากระทบส่องภาพกลายเป็นสีฟ้าครามดูงดงาม  มีเสน่ห์น่าหลงใหลยิ่งนัก

 
             
                                                  ความงดงามอีกมุมหนึ่งในความต่างของระยะห่าง 

การมาเที่ยวชมทัศนียภาพครั้งนี้  ได้เรียนรู้วัฒนธรรมเรื่องหนึ่งซึ่งไม่เคยคาดคิดมาก่อน ว่าเป็นส่วนหนึ่งของชาวญี่ปุ่น  นั่นคือ  การทักทายกับคนที่ไม่รู้จัก  ตั้งแต่เริ่มต้นก้าวพ้นประตูของอาคารที่พักในศูนย์ภาษาฯ  ในยามเช้า  หนุ่มใหญ่คนหนึ่งวิ่งออกกำลังกายส่งเสียงทักทายมา   ครั้งแรกคิดว่าเขาคงทักทายคนที่รู้จัก แต่พอหันซ้าย-แลขวาไม่เห็นคนอื่น จึงรีบทักทายตอบกลับไป 
 

 
                            
                           งดงามตาแบบเขียวใส-เขียวโปร่ง-เขียวเข้ม /ไรไม้-ตระไคร่เขียวปกคลุมหลังคาบ้านพัก  

ขณะที่เดินชมธรรมชาติบนภูเขา   สวนกับชาวญี่ปุ่นได้รับคำทักทายตลอดเส้นทาง  จึงได้เรียนรู้และเริ่มทักทายผู้อื่นก่อนบ้าง   ได้พบปะคนหลายวัย ล้วนมีอัธยาศัยดีเยี่ยม  ขนาดวัยรุ่น 3 คนยังเอ่ยปากชักชวนคุณยายเยาว์วัยอย่างผู้เขียนร่วมขบวนเดินชมด้วยกัน  แต่ต้องขอปฏิเสธิกลางคันเพราะหลานๆ เล่นพาคุณยายไปทางลัด ไต่ลงบันไดลิงแบบนั้น  
 

  
   
Musashi-Mitake Shrine วัดเก่าแก่เกือบ 2000 ปี  คงคุณค่าต่อความทรงจำด้านเป็นที่พักพิงสมัยสงครามและความงดงามแบบธรรมชาติ

  

          น้ำไหลเอื่อยตกจากที่สูงกลายเป็นน้ำตกขนาดย่อม...ดูงดงามตา / ต้นไม้บางพันธุ์สีสันสวยใส 

  

                      ต้นสนและต้นไม้หลากพันธุ์ยืนต้นตระหง่าน- สูงเสียดฟ้าปกคลุมผืนป่าให้อุดมสมบูรณ์  
                       

ประทับใจกับธรรมชาติที่งดงามของ  Mitake San อย่างไม่รู้ลืม  แต่หากจะลืมเลือนไปบ้าง   คงต้องอาศัยเวลาพักให้หายเหนื่อย….เพื่อคลายความอ่อนเพลีย-เมื่อยล้าก่อนนั่นเอง


  

แป้งกวนปิ้งราดนำซ๊อสเค็มๆ 3 ก้อน....จัดไป 120 บาท /สาวน้อยชวนคุย- ถามไถ่- ทักทาย ด้วยน้ำใสไมตรีดียิ่ง
        
   ... เรื่องบางเรื่องที่อยากลืม  กลับแจ่มแจ้ง-รบกวนจิต- ค้างคาใจ   ในขณะที่บางเรื่องน่าจดจำ... กลับเลือนลางห่างหายไปราวกับไร้เยื่อใย.... 

   *** ขอขอบคุณมิตรภาพที่อบอุ่นจากครอบครัวอาจารย์พรศรี  ไร้ท์ และภาพวิดิโอ/ข้อมูลที่เชื่อมต่อให้ศึกษาเพิ่มเติม มา ณ โอกาสนี้นะคะ***

 

                    ***… ขอบคุณมากค่ะ(どうも ありがとうございます= Domo Arigatou gozai masu)…***

 

หมายเลขบันทึก: 492569เขียนเมื่อ 27 มิถุนายน 2012 08:00 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 กรกฎาคม 2012 21:43 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

                       ***...ขอขอบคุณกำลังใจจากคุณ " Kunrapee "   Blank  นะคะ ...*** 

                                      
                                   
                                      
        

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท