หมออนามัย “เลิกบุหรี่”


 เลิกบุหรี่

หมออนามัย นายอานนท์ ภาคมาลี

 

“เลิกบุหรี่” เตรียมตัวตั้งใจแน่วแน่ ว่าต้องเลิกบุหรี่ได้ เลิกได้ด้วยตัวเอง เตรียมความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ และต้องให้กำลังใจตนเอง

“เลิกบุหรี่” ผมเป็นคนไม่สูบบุหรี่ และไม่ติดบุหรี่ และไม่คิดที่จะสูบบุหรี่และไม่เคยคิดที่จะรังเกียจคนสูบบุหรี่เพราะเป็นสิทธิส่วนบุคคลของคนๆนั้นและสำหรับคนสูบบุหรี่หรือติดบุหรี่ด้วยสาเหตุใดๆก็ตาม เขาเหล่านั้นอาจอาจกำลังมีความสุข หรือความทุกข์ ความเหงาและความเครียดกังวลใจ อยากทดลอง อ้างว่าเพื่อนชวน(กลุ่มวัยรุ่น) มีคนกล่าวไว้ว่ากินเหล้าต้องสูบบุหรี่ เหมือนไปเที่ยวกระ…….ไม่ได้จับ น…..(คนที่กล่าวคำนี้ขอให้ยกมือขึ้น) พ่อผมเป็นคนกินเหล้าสูบบุหรี่ และมักใช้ข้าพเจ้าให้ไปซื้อบุหรี่ให้เสมอสมัยเป็นเด็ก(ยังไม่มีกฎหมายเด็กต่ำกว่า 18 ปี เหมือนสมัยนี้) พ่อผมสูบบุหรี่ยี่ห้อไก่ เสือ ข้างห่อบรรจุประมาณ 100 ม้วนเป็นยาห่อใบตอง มีกลิ่นฉุนและเหม็น สูบมาหลายสิบปีและเลิกบุหรี่ ผมไม่ทราบสาเหตุในการเลิกบุหรี่และเลิกบุหรี่ตอนไหน จนอายุพ่อใกล้อายุ 60 ปี พ่อผมป่วยเป็นวัณโรคปอด รักษาพยาบาลอยู่เข้าๆออกโรงพยาบาลพระพุทธบาท มีอาการร่อแร่ เพื่อนรุ่นเดียวกับพ่อหรือคอเดียวกันประมาณเกือบ 50 คนมาเยี่ยมทุกบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเตรียมซื้อโรงศพ หาวัดได้เลย แต่อาการพ่อผมดีขึ้นจน ครบ 2 ปี พ่อผมกินยาครบ พ่อผมหายเป็นปกติแต่มีอาการหอบเหนื่อยบางครั้งหายใจไม่ออก หลังจากนั้นพ่อผมทยอยเผาเพื่อนๆเขาทีละคนจนครบเกือบ 50 คนภายใน 15 ปี ที่ไปเยี่ยมตอนพ่อป่วยที่โรงพยาบาล แต่พ่อผมมีอาการป่วยเข้าๆออกโรงพยาบาลด้วยโรคถุงลมโป่งพอง หายใจไม่สะดวก และจะมีอาการเหนื่อยหอบเป็นชั่วโมงและต้องนั่ง นอนไม่ได้ทรมานมาหลายปี เป่าลูกโป่งแล้วปล่อยลมเพื่อให้ถุงลมที่โปร่งพองมีการขยายตัว จนอายุ 81 ปี ก่อนเสียชีวิตประมาณ 3 เดือน พ่อผมไปนอนอยู่ห้องไอซียู อยู่อย่าทรมาน จนถึงวันที่ 9 ธันวาคม 2547 ถึงเสียชีวิตด้วยโรคถุงลมโปร่งพอง ค่ารักษาพยาบาลประมาณ 4 ล้านกว่าบาทที่ผมไปดูในประวัติ และมีอาการข้างเคียงต่างๆเช่นความดันโลหิตสูง ติดเชื้อในปอด มีโรคมะเร็ง เลิกบุหรี่ กันเถอะครับ พร้อมกับเลิกเหล้า ทุกวันนี้คนไทยตกเกณฑ์ ความจำเป็นขั้นพื้นฐาน (จปฐ.)ในข้อนี้ และรายจ่ายครัวเรือน ส่วนหญิงที่ตั้งครรภ์ ทำให้ทารกที่อยู่ในครรภ์ได้รับพิษจากควันบุหรี่ ทำให้เด็กเกิดมามีอาการเจ็บป่วยมีภาระในการรักษาพยาบาลและภาระทางสังคมจากการเลี้ยงดูและภาระทางเศรษฐกิจ ไม่ว่าผู้กำลังเริ่มหัดสูบบุหรี่หรือผู้ที่สูบบุหรี่อยู่ เรามาเริ่มต้น “เลิกบุหรี่” กันเถอะ อย่าให้มันมาชนะใจเรา

การสูบบุหรี่ กฎหมายห้ามสูบในที่สาธารณะต่างๆเช่นโรงพยาบาล โรงเรียน วัด โรงแรมบางแห่ง ในสถานที่ราชการต่างๆ มาแก้ที่ปลายเหตุ แต่สั่งบุหรี่จากต่างประเทศนำเข้ามาอย่างมากมายหรือผลิตภายในประเทศปีละกี่ล้านม้วน ลองเอาหัวประชากรหารจำนวนบุหรี่ต่อหัวจะรู้ว่า ต่อคนต่อมวนปีละเท่าไหร่ที่คิดเป็นเงิน โดยอ้างว่าเก็บภาษีสรรพสามิต ได้ตามเป้าหมาย กระทรวงสาธารณสุขน่าจะนำเอาข้อมูลการรักษาพยาบาลว่าประชาชนเจ็บป่วยและเสียค่าใช้จ่ายเท่าไหร่มาเปิดเผย เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล นำเงินไปพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในด้านอื่นๆที่มีความจำเป็นมากกว่า แหล่งสถานบันเทิงต่างๆเป็นแหล่งที่สูบบุหรี่มากที่สุด…..และเป็นบุหรี่ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ

   

หมายเลขบันทึก: 491186เขียนเมื่อ 14 มิถุนายน 2012 17:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม 2012 19:47 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

เรียนคุณหมออนามัย ผมเป็นพนักงาน สนิทสนมคุ้นชินกับหมออนามัยมาหลายสิบคน ทุกคนที่คบค้ากันมา ทั้งสูบบุหรี่ ทั้งกินเหล้า วันนี้เขาเป็นสาธารณสุขอำเภอไปแล้ว 5 คน เลิกบุหรี่ได้ สามคน ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆคนที่อยากเลิกบุหรี่

 

 

เอาใบโปร่งฟ้ามาฝาก เขาว่าลดการอยากบุหรี่ลงได้

ใครที่สูบอยู่ดูๆๆๆ ไม่อยากเป็นเลิกเลย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท