ดร.อุทัย อันพิมพ์
ดร. อุทัย ดร.อุทัย อันพิมพ์ อันพิมพ์

การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่สร้างสรรค์


การให้เกียรติคนอื่น โดยเฉพาะเพื่อนร่วมสนทนา หรือผู้ให้ข้อมูลเราเป็นสิ่งที่มีค่า แล้วเราจะได้ข้อมูลที่เป็นจริง

       เรื่องเก่ามาเล่าใหม่  จากประสบการณ์ในการทำงานวิจัยเรื่องข้าวอินทรีย์ เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งผมได้มีโอกาสไปร่วมงานกับพี่น้องชาวจังหวัดยโสธร ซึ่งเป็นพื้นที่ในการวิจัยของผม และได้มีโอกาสได้รู้จักกับ พ่ออาลัย   พันพิพัฒน์ ประธานกลุ่มเกษตรกรทำนาบากเรือ ซึ่งเป็นคนที่พูดดี มีน้ำใจ อีกทั้งเป็นผู้มีความรู้เรื่องการกระบวนการผลิตข้าวเป็นอย่างดี           

       พูดไม่ดีก็ไม่อยากให้ข้อมูล พ่ออาลัยเล่าให้ฟังว่า จากที่ทำงานเรื่องข้าวอินทรีย์มาก็ 10 กว่าปี มีผู้คนแวะเวียนมาขอข้อมูลมากกมาย โดยเฉพาะช่วงกระแสเรื่องเกษตรอินทรีย์มาแรง พ่ออาลัยบอกว่าไม่ทนจะรับแขก จนกระทั่งไม่มีเวลาทำงานของตนเอง แล้วคนที่มาก็มีหลากหลายประเภท มาเหนือเมฆ เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อก็มี  บางคนก็ดี บางครั้งบางคนที่มาหยิ่งยิ่งกว่าอะไร จึงมีคำถามในใจตัวเองว่า นี่หรือนักวิชาการไทยแล้วพ่ออาลัยยังบอกต่อว่า คนไหนที่มาดี เราก็พูดดีด้วย ได้ข้อมูลที่เป็นจริง คนไหนพูดไม่ดี พ่ออาลัยก็ไม่อยากคุยด้วย บางครั้งข้อมูลต่างๆ เราก็ไม่อยากบอก หรือหนักกว่านั้นเชิญกลับเลยก็มี และก็ไม่ให้ข้อมูลด้วย           

            นักวิจัยต้องเข้าใจชาวบ้าน  พ่ออาลัยบอกต่อว่านักวิจัย หรือนักวิชาการนั้น ส่วนใหญ่มามีแต่เอา (ข้อมูล) แล้วก็ไป บางครั้งมาอยู่ทั้งวัน ชาวบ้านต้องเสียเวลามาร่วม โดยที่งานตนเองก็ไม่ได้ทำ มีแต่เสียสละ และเมื่อนักวิชาการเอาข้อมูลไปแล้วควรที่จะนึกถึงชาวบ้านบ้าง อย่าให้แต่ชาวบ้านเสียสละอย่างเดียว เพราะชาวบ้านยิ่งยากจนอย่ามาซ้ำเติมเลย           

           ดังนั้นเราต้อง Win-Win ทั้งคู่   นี่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในสังคมไทย ในการที่เราจะไปขอข้อมูลกับใครสักคน แน่นอนครับเราคงต้องให้เกียรติเขา และต้องคุยกันอย่างมิตรภาพจึงจะได้ข้อมูลที่แท้จริง เหมือนกับประสบการณ์ตรงของผมที่ได้มีโอกาสไปทำงานกับพ่ออาลัย  และที่สำคัญที่สุดการเป็นผู้เอาอย่างเดียว โดยไม่แบ่งปันซึ่งกันและกัน คงจะไม่ยั่งยืนสำหรับงานพัฒนา

ขอบคุณครับ

อุทัย   อันพิมพ์

8 กันยายน 2549 

หมายเลขบันทึก: 49075เขียนเมื่อ 8 กันยายน 2006 16:45 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 15:51 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

เรารู้อยู่แล้วว่านักวิชาการทั่วๆไปคือใคร คิดอะไร ฝันอะไร ทำอะไร และจะไปไหน ไม่ต้องพูดถึงให้เสียเวลาหรอก เสียกำลังใจอีกด้วย

เรามาหาสิ่งที่เป็นประโยชน์จะดีกว่าครับ ว่าจะทำงานให้ได้ผลอย่างไร หาแนวร่วมเพิ่มอย่างไร ผมเคยเสียเวลาแบบที่คุณได้ยินมามากแล้ว ผมไม่อยากให้คุณเสียเวลากับเรื่องแบบนั้นอีก คงเข้าใจนะครับ

ตอนนี้อาจารย์แสวงแจ้งข่าวว่าเกษตรอินทรีย์ และการทำนาแบบไม่ไถได้เป็นวาระแห่งชาติ เป็นนโยบายพัฒนาแล้วนะค่ะ  รวมทั้งเกษตรปราณีตด้วยที่ได้ข้อมูลมาว่ามีชาวบ้านร่วมกันทำกับ อบต.ที่ตระการ อุบล อาจารย์แสวงฝากอาจารย์อุทัยช่วยหาข้อมูลตรงนี้ว่าเป็นอย่างไร เพราะอาจารย์บอกว่าว่าเกี่ยวกับหัวข้ออาจารย์ด้วยนะค่ะ 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท