ช่วงนี้เป็นช่วงที่กิจกรรมรับน้องใหม่และกิจกรรมเชียร์ค่อนข้างคึกคักในมหาวิทยาลัยหลายแห่ง หลานของผมก็เป็นหนึ่งในน้องใหม่ที่จะต้องเข้าร่วมกิจกรรมทำนองนี้เหมือนกัน ในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา จึงมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับชีวิตประจำวันของเรา เช่น การนั่งรอหลานจนถึงเที่ยงคืน เป็นต้น
ในวันเสาร์วันหนึ่ง ก็เกิดประเด็นที่ว่า วันนี้จะไปร่วมงานรับน้อง หรือจะไปเรียนวิชาภาษาอังกฤษดี เพราะเพื่อนๆ บางคนตัดสินใจที่จะไปรับน้อง แล้วขอไปเรียนชดเชยกับห้องอื่น
สมัยที่ผมเป็นนักศึกษาปีหนึ่ง จำได้ว่า ตัวเองก็โดดเรียนบางวิชาอยู่บ่อย โดยเฉพาะวิชา civilization (ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมไม่ค่อยเป็นคนศิวิไลซ์นักกระมัง) โดยไม่รู้สึกผิดมากมาย เพราะเวลาสอบก็พอทำข้อสอบให้ผ่านได้ หรือวิชาฟิสิกส์ ที่เข้าเรียนอย่างไรก็ไม่รู้เรื่อง
แต่ความรู้สึกในวันนี้กลับแตกต่่าง รู้สึกว่าหลานกำลังจะมีวิจารณญาณที่ไม่ถูกต้อง หากจะไม่ไปเรียน และเลือกไปร่วมงานรับน้องแทน เหมือนกับเพื่อนๆ คนอื่น เพราะผมคิดว่า กิจกรรมรับร้องเป็นเรื่องที่เลือกได้ จะต้องไปทุกวันกันด้วยหรือ ในขณะที่ ในมุมมองของเด็ก การไม่ทำตัวเหมือนเพื่อนอาจเป็นอะไรที่ "ผิด" มากกว่า การทำอะไรที่จะให้รุ่นพี่ขุ่นเคือง อาจเป็นอะไรที่ "แย่" กว่า
วัยและวันเวลาเปลี่ยนทัศนคติของผมต่อการโดดเรียน และปรัชญาของการรับน้อง ในขณะที่เพื่อนรุ่นเดียวกับผมบางคนอาจแย้งว่า จะเป็นอะไรไป เราโดดเรียนมากกว่า ทุกวันนี้ก็ยังมีชีวิตที่ดีได้
... ในวันนั้น หลานของผมกลับขึ้นไปเปลี่ยนชุดนักศึกษา และออกไปเรียนภาษาอังกฤษ ด้วยหน้าตามู่ทู่ ผมได้แต่ส่งข้อความให้ว่า "ขอบคุณจ้ะ ที่ตัดสินใจอย่างเหมาะสม"
นั่นสิคะอาจารย์ กิจกรรมน่าจะเป็นสิ่งที่เราจะเลือกได้ว่าจะทำหรือไม่ หรือน่าจะไม่ควรเบียดบังเวลาในการเรียน แต่ความรู้สึกตอนเป็นนักศึกษามันเลือกไม่ได้เลยค่ะ มันทั้งเครียดทั้งเหนื่อย แต่เพราะกลัวจะแปลกแยกเลยจำต้องทำ