คัดลอกจาก "เปิดห้องเรียนวิชาความสุข" เขียนโดย ดร. ทาล เบน-ชาฮาร์ แปลโดย พรเลิศ อิฐฐ์
"การศึกษาควรช่วยให้นักเรียนเติบโตทั้งทางวัตถุและอารมณ์โดยต้องให้ความสำคัญกับสิ่งอื่นๆ นอกเหนือไปจากแง่มุมทางวิชาการเพียงอย่างเดียว พูดง่ายๆ ก็คือ อย่าหยุดอยู่ที่ 3R อันได้แก่ การเขียน (wRiting) การอ่าน (Reading) และเลขคณิต (aRithmetic) ผมขอเสนอ R ตัวที่สี่ที่โรงเรียนควรให้ความสำคัญ นั่นคือ ความรื่นเริง (Revelry) ครูจำเป็นต้องสร้างสภาพแวดล้อมในโรงเรียนที่เอื้อให้นักเรียนสนุกกับการเรียนรู้ การเติบโต และการใช้ชีวิต พวกเราส่วนใหญ่ใช้เวลาหลายปีอยู่ในห้องเรียน ในช่วงเวลาดังกล่าว ความคาดหวังและนิสัยต่างๆ ของพวกเราจะถูกหล่อหลอมขึ้นมา ดังนั้น ถ้าเด็กนักเรียนได้รับการส่งเสริมจากโรงเรียนให้แสวงหาความสุข และจดจ่อกับกิจกรรมที่ส่งผลต่อหน่วยวัดสูงสุด พวกเขาก็มีแนวโน้มที่จะพกพานิสัยนี้ติดตัวไปตลอดชีวิต ในทางตรงกันข้าม ถ้าทั้งหมดที่พวกเขาทำคือการทำตัวเป็นหนูว่ิงแข่ง ก็มีแนวโน้มเช่นกันว่าพวกเขาจะเดินทางไปบนเส้นทางนี้ต่อไป ถึงแม้จะจบการศึกษาไปนานแล้วก็ตาม
แทนที่จะช่วยให้นักเรียนค้นหาเป้าหมายและกิจกรรมที่เปี่ยมด้วยความหมายและความท้าทาย และแทนที่จะช่วยให้พวกเขารู้สึกสนุกกับการเรียนรู้ ผู้ให้การอบรมสั่งสอนมากมายกลับหมกหมุ่นอยู่กับการทำให้นักเรียนสอบได้คะแนนดีๆ มากกว่า...
ความรักการเรียนรู้อยู่ในสายเลือดของเด็ก พวกเขามักจะตั้งคำถามและกระตือรือร้นที่จะสำรวจโลกรอบตัวเสมอ ดังนั้น ผู้ให้การอบรมสั่งสอนที่ส่งเสริมให้เด็กแสวงหาสิ่งที่มีความสำคัญสำหรับตัวเด็กเองจะช่วยให้พวกเขาได้สัมผัสกับความลื่นไหล จะสามารถบ่มเพาะนิสัยรักการเรียนรู้ให้กับเด็กๆ ได้ อีกทั้งยังสามารถพลิกการศึกษาให้กลายเป็นการผจญภัยที่น่าตื่นตะลึง เป็นการแสวงหาความสุขที่ไร้จุดสิ้นสุดไปตลอดทั้งชีวิต"
ขอบคุณค่ะ อ ขจิตที่เข้ามาเยี่ยม ถ้า อ มาขอนแก่น แวะมาหาต้อมและเด็กน้อยด้วยนะคะ ต้อมได้อัปเดตเรื่องราวของเด็กน้อยที่ขำๆ ในเฟซบุ๊ก อ ขจิต ว่างๆ ลองอ่านดูนะคะ
ตอนนี้ก็มีหนังสือ 21st century skills อยู่ค่ะ จะพยายามอ่านให้จบและนำมาประยุกต์ใช้ให้มากที่สุดนะคะ
มีโอกาสจะไปเยี่ยมครับ ดีใจที่อาจารย์มีหนังสือแล้ว...