ก่อนที่จะพูดรายละเอียดตามหัวเรื่อง ก็ขอแสดงความยินดีกับเด็ก ๆ จำนวน 246 ที่ได้กลับเข้าเรียนในโรงเรียนของตัวเอง โดยเรียนภาคบ่าย และในวันเสาร์เต็มวัน ขอแสดงความยินดีกับคุณครู และนักเรียนของโรงเรียนบดินทร์เดชาทุกคน ที่โรงเรียน กลับเข้าสู่ภาวะปกติ
สิ่งที่ต้องชื่นชมครูโรงเรียนบดินทร์เดชา ก็คือ กริยาท่าที่ในการต้อนรับลูก ๆ นักเรียนกลับโรงเรียน และความกล้าทางจริยธรรมด้วยการตอกหน้า เลขาธิการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นแห่งชาติ (ภตช.) ที่ยังอุตส่าห์ ตามรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ไปส่งนักเรียนเข้าเรียนด้วย
“ผมนี่เป็นครูมืออาชีพนะครับ” พฤติกรรม และคำพูดอย่างนี้ ของคุณครูดนตรีที่ดูจากทีวีช่อง 3 เช้าวันนี้ นี่คือครูที่แสดงออกถึงความรักโรงเรียนรักศิษย์ ที่ต้องยกย่อง
ปัญหาที่เกิดขึ้นก็ขออย่าได้โทษว่าใครผิด ใครถูก ต้องหาว่าอะไรมันผิด ตามความคิดของผมสิ่งที่ผิดก็คือการออกระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการที่ผ่านมาผิด ผิดตรงที่ไปตั้งเกณฑ์คะแนนการถูกคัดออกหากคะแนนไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนดและโรงเรียนต้องปฏิบัติตามเกณฑ์นั้น ดังที่เสนอไว้แล้วใน http://www.gotoknow.org/blogs/posts/488709 ว่าถ้าหากเรื่องนี้ไปถึงศาล กระทรวงศึกษาธิการต้องคงจะแพ้อย่างแน่นอน เพราะระเบียบจะไปขัดกับกฎหมายอื่น ๆ ที่เป็นกฎหมายแม่ บทเรียนที่ต้องจดจำ ก็คือ การออกระเบียบใด ๆ ต้องไม่ไปขัดกับกฎหมายหมายแม่
โรงเรียนทุกโรงเรียนจะมีกรรมการสถานศึกษา มีสมาคมครูผู้ปกครอง ที่คอยดูแลโรงเรียน ท่านเหล่านี้จะใกล้ชิดกับผู้อำนวยการโรงเรียน มีส่วนช่วยโรงเรียนในหลาย ๆ เรื่อง แต่จากการสังเกตและสดับตรับฟังที่ผ่านมา ในภาพรวม ๆ ผมพบว่าคุณครูส่วนน้อยที่รู้เรื่องเกี่ยวกับงานกรรมการสถานศึกษา งานสมาคม เพราะส่วนใหญ่จะอยู่กับการสอนซึ่งเป็นภาระหน้าที่หลัก ที่เห็นเป็นรูปธรรมว่าทุกเรื่องครูรู้ อยู่ที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา พญาไท กรุงเทพ ซึ่งผมดูจากที่เอกสารรายงานประจำปีที่ละเอียดยิบ โดยเฉพาะรายรับรายจ่าย ที่ทำให้ครูและผู้ที่เกี่ยวข้องจะเข้าใจตรงกัน ผมมีอยู่ 1 เล่ม และมีโรงเรียนในจังหวัดเชียงใหม่บางโรงเรียนขอไปถ่ายเอกสาร เพื่อนำไปพิจารณาใช้กัน
เรื่องของกรรมการสถานศึกษา ผมเคยได้รับการบอกล่าวจากชาวโรงเรียนว่า มีกรณีประธานกรรมการสถานศึกษา ไปทำตัวเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนเสียเอง จนครู และผู้บริหารโรงเรียนอึดอัดในการเข้ามาปฏิบัติของท่านประธานในโรงเรียน
ครับอะไรที่ไม่พอดี ๆ หรือ เกินพอดี ก็ต้องระวัง เหมือนอย่างที่เลขาธิการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นแห่งชาติ เข้าไปร่วมส่งนักเรียน ดังกล่าวแล้ว http://education.kapook.com/view41927.html
ขณะที่ผมหาข้อมูลมาเขียนเรื่องนี้ ผมนี่ดีใจมากที่เห็นคนรุ่นใหม่ คู่กรณีจากทีวีย้อนหลัง ที่คิดว่าเป็นต้นแบบให้กับคู่ขัดแย้งต่างๆ ได้เป็นอย่างดี หากมีคนกลางใช้แนวทางอย่างสรยุทธ์ แห่งที่วีช่อง 3 มาทำหน้าที่เป็นคนกลางให้ได้พูดคุยกัน
ฝ่ายแรกเป็นกรรมการของสำนักงานเขตพื้นที่ ที่ดูแลโรงเรียนบดินทร์เดชา
อีกฝ่ายก็คือเลขาธิการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นฯ
ทั้งคู่พูดกันดีมีเหตุผล ฝ่ายเขตพื้นที่นี่สุดยอด ใจเย็นพูดไปยิ้มไป แย็ปไป
อีกฝ่ายก็ตอกกลับ ดูหมัดรับหมัดสู้ทั้งสองฝ่าย แล้วประทับใจทั้งสองฝ่าย หากท่านทั้งหลายยังไม่ได้ดู ดูนะครับ รับรองว่าท่านจะพอใจในคนรุ่นใหม่ของเราที่เขาเป็นคู่กรณีกัน อีกทั้งจะเข้าใจอะไรลึก ๆ ในวงการศึกษาอีกด้วยครับ คลิ๊กดูนะครับ
ที่ว่าเป็นคู่กรณีต้นแบบนั้น เพราะคิดถึงเหตุการณ์ทางการเมืองที่เป็นอยู่ ซึ่งก็ไมรู้ว่าจะลงเอยอย่างไร
ถ้าได้สื่อทีวีนำนักการเมืองมาคุยกันทีละคู่ ๆ เหมือนอย่างต้นแบบที่ผมว่า บ่อย ๆ ในทุกช่องทีวี ก็จะดีไม่น้อย ไม่ปล่อยให้ทะลุบานปลายกลายเป็นจลาจลกันอีก ถ้าคู่ขัดแย้งพูดจากันดี ๆ ต่างคนต่างก็มีเหตุผล คนดูเขาก็จะเลือกนำไปคิดได้ เป็นการให้ความรู้ประชาธิปไตยที่ไม่ใช้ความรุนแรง หากทำไปบ่อย ๆ ก็จะค่อยสร้างคนรุ่นใหม่ที่ได้ตามต้นแบบที่กล่าวมา ก็จะนำพาประเทศให้เจริญ ๆ