กระโดดร่ม.


โตนี่ - ฟาง. GotoKnow.

* สมัยที่ผู้เขียนยังเรียนหนังสืออยู่  และทำงานแล้ว ศัพท์คำนี้ย่อมเป็นที่เข้าใจว่า..ขอขาดหนึ่งวัน ด้วยเหตุผลส่วนตัว..หรือขาดแบบไม่เป็นทางการนั่นเอง !  ผู้เขียนคิดว่าอาจมีบางคนที่ยังไม่ค่อยเข้าใจคำว่า.กระโดดร่ม  คนพวกนั้นจะถูกตั้งฉายาว่า “ เด็กกระทรวง” ไม่ทราบจริงๆว่า.กระทรวงไหน ?  วัน เวลา เปลี่ยนไป การกระทำแบบเดียวกันนี้ไม่ทราบว่า..มีการเปลี่ยนชื่อใหม่หรือยัง ?

 

 

กระโดดร่ม.

 

ผมอยากตั้งชื่อเรื่องว่า “กระโดดร่ม”และแน่ใจว่าหลายคนอาจสงสัยทำไมผมต้องนำเรื่องนี้มาเขียน อีก. เพราะเคยอ่านมาแล้วบ้าง  เคยอ่านจากบล็อกนี้ในชื่อ “ การแข่งขันกระโดดร่มนานาชาติ”มาแล้ว. จะเขียนทำไมอีก ? ยังไม่หายสงสัย.. ที่ผมนำเรื่องนี้มาเขียนแม้ว่าจะเป็นชื่อกระโดดร่มก็จริง แต่ที่แปลกก็คือผู้กระโดดไม่ได้ใช้ร่มเลยครับ เป็นการกระโดดของตัวแสดงแทนหรือที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า สตั๊นท์ หรือสตั๊นท์แมนนั่นแหละ ! -  Stunt  man. เขากระโดดมาจากเฮลิคอร์ปเตอร์ที่ความสูงประมาณ ๒,๔๐๐ ฟุต..ถ้าพลาดก็..ตาย - ตาย  - ตาย … ตายแน่ !  ดูจากภาพว่ามีร่มสำรองหรือร่มจริง ติดอยู่ด้านหลังด้วย..แต่ในที่สุดผู้กระโดดมิได้เปิดร่มเลยจริงสิครับ. แถมยังลงมาสู่ที่หมายอย่างปลอดภัยเสียด้วยน๊ะ..เปล่าเลย ? ผู้เขียนไม่ได้โม้ ! ถ้าท่านไม่เชื่อก็ตามมาดูได้ตามขั้นตอนเลยน๊ะครับ..

๑. ก่อนขึ้นเครื่อง. คนละมุมเหมือนนักมวย..ถ้ามุมหนึ่งสีเหลืองปัญหาอาจจะเกิด.

๒. ก่อนออกจากเครื่อง. - ต้องมองหาที่หมายก่อน.

๓. ก่อนออกจากเครื่องต้องประสานกันให้ดีก่อน มิฉะนั้นอาจมีโอกาสพุ่งชนกันได้. ตายสิครับ.

๔. มองหาที่หมายก่อนจะได้ไม่พลาด. สี่เหลี่ยมที่ไหนล่ะ ? ในวงกลมขาวต่างหาก.

๕. ใครลงก่อนต้องถึงพื้นก่อนเสมอ..ไปล่ะโว้ย !

๖. เฮ้ จอห์น ! คอยด้วยสิ.. เริ่มกางปีกและลอยตัวแล้ว.

๗. เริ่มบังคับทิศทางไปสู่เป้าหมาย..เฮ้ย ! วงกลมขาวหายไปไหนว๊ะ ?

๘. มาถูกทางแล้วเว้ย ! ไม่เห็นเบาะเลย..เห็นแต่ลูกศร..

๙. ไม่น่าพลาดแล้วล่ะ..เฮ้ย ! มันจะเลยไหมว๊ะ ?

๑๐. ลงแน่แน่..๙๙ %  แต่ไม่รู้ว่าบนเบาะหรือบนหญ้า ?

๑๑. ขนาดนี้แล้วยังจะพลาดอีกหรือ ? บนเบาะแน่แล้ว..

๑๒. ไม่มีส่วนใดบุบ และสลายเลยครับ..บอกแล้วไม่เชื่อว่า..ต้องลงบนเบาะ.

อ่านและชมภาพแล้วถ้าใครมาคุยให้ฟังว่า..ปัจจุบันนี้มนุษย์เราสามารถลงมาจากท้องฟ้าได้ โดยไม่ใช้ร่มควรจะเชื่อได้แล้ว..และไปบอกกันต่อต่อไปด้วยว่า..จริงครับ..ถ้าผมยังสามารถอยู่ได้ถึง ๕ ปี คิดว่าการกระโดดร่มแบบนี้น่าจะมาถึงเมืองไทยแน่นอน  กีฬาที่แปลกใหม่จากที่ต่างๆนั้น มักจะมากับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวในบ้านเรา เพียงแต่ต้องไปหาดูได้จากย่านท่องเที่ยวเช่นพัทยา หรือภูเก็ต แต่ท่านใดดูจากภาพนี้แล้วก็อย่าไปดิ้นรนมากนัก  เพราะยังไงๆก็คงเหมือนกันทุกอย่าง นอกจากความรู้สึกถ้า..เราเป็นผู้กระโดดเอง..เมื่อไรล่ะครับ ?

สวัสดีครับ.

โตนี่ - ฟาง.

๒๗ พ.ค.๕๕

 * ดีครับ ไม่มีใครสงสัยว่ามุมแดงหายไปไหน ?

 

 

 

 

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 489671เขียนเมื่อ 31 พฤษภาคม 2012 09:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 03:47 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

น่าโดดมาก แต่กล้วเลยเบาะ เอ มุมแดงหายไปจริงๆๆด้วย

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมายังสนามโดด..มุมแดงที่หายไปนั้นมีคนนำมาส่งแล้วครับ..

สวัสดีครับทุกท่านที่หลงเข้ามาอ่านแบบมิได้ตั้งใจ ผมห่างวงการนี้ไปหลายปีทีเดียว ไปแอบสอนภาษาอังกฤษให้นร. สอนได้ราวสิบ ช.ม. ต้องปิดเทอมเร่งด่วน เพราะเจ้านายชาวเนเธอร์แลนด์เรียกไปสัมภาษณ์ที่รร.แอมบาสเดอร์ นาจอมเทียน ตำแหน่งผู้จัดการฟาร์มเห็ด คุยกันพักใหญ่  เออพี่แกจ้างทันที  ผมต้องตื่นแต่เช้า ขับรถไป-กลับร้อยกิโลเศษๆ ทำงานได้ปีเศษๆ เห็ดไปได้ไม่สวยนัก นายแฟร๊งค์ โบเทอร์ คูเปอร์ ก็ต้องทำการเลิกจ้างผม..แน่นอนครับ ผมรับค่าเลิกจ้างมาราวห้าหมื่นบาท เสียภาษีให้มาดามไปห้าพันบาท จนบัดนี้ยังเสียดายอยู่เลย นายแฟร๊งค์จ้างผมเดือนละ สี่หมื่นสามร้อยบาท...เงินเดือนจริงสามหมื่นห้า  ค่าน้ำมันรถสี่พัน  ค่าโทรศัพท์แปดร้อย  ค่าประกันสังคมห้าร้อยบาท เพราะผมออกค่าประกันตนเอง สี่ร้อยสามสิบสองบาทเอง...ว่างราวแปดเดือน ผมโชคดีมาได้งานย่านนาจอมเทียน เผลอไปนิดทำงานเกือบสองปีแล้ว....ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามครับ  อะดิออส - Adios.

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท