ก้าวไปด้วยความดี...(เพิ่มเติม ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๕๕)


เริ่มต้นจาก ก้าวไปด้วยความดี... 

(เพิ่มเติม ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๕๕)

ความจริงมันก็เป็นอย่างนี้แหละ พระพุทธเจ้าท่านไม่ให้เราหลง


คนเรามันหลงนะ…! หลงในตัวในตน หลงในทรัพย์สมบัติ พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่าสิ่งเหล่านั้น มันไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของ ๆ เรา ท่านให้เอาตัวเองมาทำความดี มาสร้างบารมี เพิ่มความขยันเพิ่มความอดทนเสียสละให้มาก ๆ ยิ่ง ๆ กว่านี้
เราเอาตัวอย่างของพระพุทธเจ้า... พระพุทธเจ้าท่านขยัน ท่านอดทน ท่านมีความเพียร ท่านเสียสละ


คนอยู่ในโลกนี้ คนส่วนใหญ่มันขยันน้อย มันเสียสละน้อย มันเอาความสุขจากการพักผ่อน เอาความสุขจากการเล่นการเที่ยว


พระพุทธเจ้าท่านให้เรารู้จักนรกนะ “นรกก็ได้แก่ความขี้เกียจขี้คร้านนี่แหละ...” ถ้าเราปฏิบัติตามความขี้เกียจขี้คร้าน วันข้างหน้าเราจะเป็นคนลำบาก เป็นคนยากจน


โทรศัพท์มือถือให้ระวังดี ๆ...


เขาให้เรามาใช้เพื่อสะดวกในการติดต่อประสานงาน แต่เราเอามาใช้มากกว่านั้น เราเอามากดฟังเพลง เล่นเกมส์ เล่นอินเตอร์เนท เฟสบุ๊ค นั่นแหละคือนรกหลุมหนึ่ง นรกหลุมหนึ่งที่เราจะต้องตก เพราะเรา ไปติดมัน เมื่อเราไปติดแล้วการเรียนการงานของเราก็ตกต่ำ นรกมันเป็นอย่างนี้แหละให้ทุกคนรู้จัก มันมาแทรกกับความสุขความเพลิดเพลินของเรา


พ่อแม่พยายามที่จะช่วยเหลือเรา ท่านยากจนก็พยายามขวนขวายให้ลูกเรียน ให้ลูกเรียนพิเศษ ลูกมันก็ไม่รู้จัก ชอบไปเล่นโทรศัพท์ อินเตอร์เนท เฟสบุ๊ค เล่นเกมส์ ฟังเพลง ชอบพูดชอบคุย คุยกับหนุ่ม คุยกับสาวกัน


พวกเด็ก ๆ ให้พากันระวังนะ โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ เฟสบุ๊ค เราต้องบังคับตัวเองเท่าที่จำเป็น “จำเป็นเท่านั้น...”

 

สำหรับผู้ที่เป็นพ่อเป็นแม่ เป็นปู่ย่าตายาย ก็อย่าได้เป็นคนพูดมากบ่นมาก ลูกหลานเขารำคาญ รู้จักหยุดพูดเสียบ้าง ยิ่งเราไปบ่นมากลูกหลานของเราก็แย่นะ

Large_tt8035


ต้องเป็นผู้ใหญ่ใจดี ไม่มีเรื่องจำเป็นอะไรก็ให้อยู่เงียบ ๆ เฉย ๆ ให้รักษาศีล ๕ ให้ได้ดี ๆ ทำวัตร สวดมนต์ไว้ จะได้เป็นคนแก่ที่น่ารัก น่าเคารพนับถือ “เราบ่นมาก ลูกคนไหนเขาอยากจะมาใกล้เรา หลานคนไหนเขาอยากจะมาใกล้เรา”


ให้คนที่เป็นพ่อเป็นแม่เป็นคนแก่ทั้งหลายทั้งปวง พระพุทธเจ้าท่านให้เราพิจารณาตัวเองนะ ว่าเราเป็นคนพูดมากเกินไปหรือเปล่า บ่นมากเกินไปหรือเปล่า ลูกหลานเขาเห็นเราแก่แล้ว เขาอยาก ให้เราปล่อย เราละ เราวาง ให้เราเข้าวัดรักษาศีล บำเพ็ญภาวนา รู้จักปล่อยรู้จักวาง รู้จักสร้างบารมี


ทุกคนก็อยากให้พ่อแม่วางเสียบ้าง เพราะว่าทำหน้าที่ของตัวเองมานานแล้ว มันก็สมควรปล่อยสมควรที่จะวางแล้ว ทำหน้าที่ที่เป็นพ่อเป็นแม่มานานแล้ว

Large_tonkla036


พระพุทธเจ้าท่านให้เรา “ปลดเกษียณ” ตัวเองบ้าง ฝึกปล่อยฝึกวาง ลูกหลานเขาจะได้สบายอก สบายใจว่าคุณพ่อคุณแม่เขาเป็นคนดีมีศีลมีธรรม มีคุณธรรม


อย่าไปพูดมากเกิน อย่าไปบ่นมากเกิน เราเป็นคนเก่งเป็นคนขยัน ทีนี้เรามาขยันทำวัตรสวดมนต์ มาขยันบริกรรมพุทโธ ๆ ขยันทำสมาธิภาวนา เราไม่ต้องไปบ่นไปว่ามันแล้ว เปลี่ยนบทบาทใหม่


รู้จักชมลูกชมหลานบ้าง ลูกหลานมันไม่ค่อยจะดี ก็บอกว่าเดี๋ยวนี้มันดีขึ้น เป็นต้น เด็กเขาจะได้กำลังใจ ถ้าเขาทำดีก็บอกเขาว่าทำดีมาก ลูกหลานเขาขาดความเชื่อมั่นไม่มีกำลังใจเพราะพ่อแม่ไม่ชมเขา ถ้าชมเขาเขาก็ดีมีกำลังใจ

Large_tonkla064

 


ให้อยู่กับลูกหลานให้เหมือนอยู่เป็นเพื่อนกับลูกหลาน ถ้าเราไม่ทำอย่างนี้เราก็จะเข้ากับลูกกับหลานไม่ได้ เพราะระหว่างวัยมันต่างกัน แต่เราไม่ต้องไปถึงขั้นร้องเพลงแข่งกับหลาน ไปรำแข่งกับหลาน อย่างนี้มันก็เกินไป


ห้เราไหว้พระสวดมนต์ให้ลูกหลานเราได้ดูได้เห็น วันหลังเราจะได้ชวนเขาไหว้พระสวดมนต์ นั่งสมาธิบ้าง ลูกหลานทุก ๆ คนเขาจะได้ดีใจจะได้ภูมิใจที่เขามีคุณพ่อคุณแม่ มีปู่ย่าตายายที่เป็นคนดี มีคุณธรรม ยิ่งแก่ก็ยิ่งน่ารัก น่าเคารพนับถือ เป็นคุณปู่คุณย่าใจดี เป็นคุณตาคุณยายใจดี...

Large_td5439


พระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ที่องค์พ่อแม่ครูอาจารย์เมตตาให้นำมาบรรยาย
เช้าวันเสาร์ที่ ๒๖ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๕
(เพิ่มเติมจากวันพุธที่ ๒๙ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๔)

หมายเลขบันทึก: 489344เขียนเมื่อ 28 พฤษภาคม 2012 05:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 มิถุนายน 2012 18:29 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท